Hot Issue


นิตยสารผู้จัดการ( มีนาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

14 พ.ย.2545 ' รอยเนทแจ้งผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ามีกำไรสุทธิ 11.87 ล้านบาท และ กำไรงวด 9 เดือน 22.07 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิ 7.29 ล้านบาท และขาดทุนงวด 9 เดือน 18.47 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่ายอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 760% ในไตรมาส 3 โดย 95% ของรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นรายได้จากการให้บริการอินเทอร์เน็ต ราคาหุ้นในช่วงนี้เพิ่มขึ้นจากหุ้นละ 1.14 บาท ในวันที่ 14 พ.ย.ไปถึงหุ้นละ 2.12 บาท ในวันที่ 21 พ.ย.

9 ธ.ค.2545 ' รอยเนทประกาศเพิ่มทุนจดทะเบียน โดยการยกเลิกทุนที่ยังไม่ได้เรียกชำระเดิม 61 ล้านบาท แล้วเพิ่มทุน จดทะเบียนใหม่อีก 91.5 ล้านบาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 152.5 ล้านบาท หุ้นเพิ่มทุนกำหนดขายให้กับ ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท และออกวอร์แรนต์อีก 30.5 ล้านหน่วย ให้กับ ผู้ถือหุ้นในอัตรา 2 ต่อ 1 กำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 20 ธ.ค. และเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติการลดทุน/เพิ่มทุนในวันที่ 10 ม.ค.2546

ราคาหุ้นในช่วงหลังประกาศเพิ่มทุน ลดลงมาซื้อขายกันอยู่ที่ระดับประมาณ 1.50 บาท

20 ธ.ค.2545 ' บริษัทแจ้งกำหนดวันจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 24-30 ม.ค.2546

9 ม.ค.2546 ' หลังปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นแล้ว ปรากฏว่ารอยเนทได้แจ้งเปลี่ยนแปลงผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 3 ปี 2545 มายังตลาดหลักทรัพย์ จากที่มีกำไรกลายมาเป็นขาดทุนในงวดไตรมาส 3 จำนวน 13.22 ล้านบาท และขาดทุนงวด 9 เดือน 36.69 ล้านบาท

ราคาหุ้นช่วงนี้ลดลงจาก 1.09 ล้านบาท ในวันที่ 9 ม.ค.เหลือเพียง 72 สตางค์ ในวันที่ 13 ม.ค. ซึ่งเป็น การซื้อขายครั้งสุดท้ายก่อนตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามการซื้อขายหุ้นรอยเนท

10 ม.ค.2546 ' วันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อลงมติเรื่องการลดทุน/เพิ่มทุน ปรากฏว่ามีผู้ถือหุ้นมาประชุมไม่ถึง 1 ใน 3 ของ จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด ส่งผลให้ไม่สามารถจัดการประชุมผู้ถือหุ้นขึ้นมาได้ บริษัทจึงได้นัดวันประชุมใหม่เป็น วันที่ 30 ม.ค.2546

ระหว่างนี้มีข่าวลือปรากฏออกมาเป็นระยะว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นคนในตระกูลเยาวพฤกษ์ ได้เทหุ้นขายออก มาหมดก่อนหน้านั้นแล้ว โดยได้เงินไปเป็นจำนวนถึงกว่า 30 ล้านบาท และเตรียมเดินทางหนีออกนอกประเทศ

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยก็เริ่มรวมตัวกันเพื่อเตรียมฟ้องร้องเอาผิดกับผู้บริหารสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุน ไทย นำโดยมนตรี ฐิรโฆไท เป็นแกนนำที่จะเสนอวาระถอดถอนผู้บริหารกลุ่มเยาวพฤกษ์ ออกจากการบริหาร งานในรอยเนท โดยจะเสนอในวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 30 ม.ค. ขณะที่กิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการเก็บตัวเงียบ ไม่ปรากฏตัวออกมาชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น

30 ม.ค.2546 ' การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ที่เลื่อนมาจากเมื่อวันที่ 10 ม.ค.เริ่มขึ้น มีผู้ถือหุ้นมาร่วมประชุมเกือบ 30 รายการ ประชุมใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็เสร็จสิ้น ที่ประชุมมีมติไม่ให้บริษัทลดทุนจดทะเบียนลงเพื่อเพิ่มทุนใหม่ ดังนั้นจึงไม่สามารถเพิ่มทุนได้ ตามที่เคยแจ้งวาระไว้

ในการประชุมกิตติพัฒน์ ได้ชี้แจงถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับงบการเงินไตรมาส 3 ว่า เกิดขึ้นจากปัญหาการสื่อสาร ที่ไม่เข้าใจกันระหว่างผู้บริหารกับผู้สอบบัญชีของบริษัท ทำให้เกิดการลงบัญชีรายได้ที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริงใน งบการเงิน ทำให้การรายงานงบการเงินครั้งแรกบริษัทมีกำไร แต่ต่อมาผู้สอบบัญชีได้มาแก้ไข ผลจึงกลายเป็น บริษัทขาดทุน

บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อย เริ่มดีขึ้น ผู้ถือหุ้นรายย่อยหลายคนเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว ส่วนการถอดถอนผู้บริหาร ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากจำนวนผู้ถือหุ้นที่จะเสนอวาระมีไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตาม สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ยังคงเดินหน้าที่จะถอดถอน และร้องกล่าวโทษเอาผิดกับผู้บริหาร จากกลุ่มเยาวพฤกษ์ตามที่ได้เคยลั่นวาจาไว้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.