|
แบงก์หนุนธุรกิจวัสดุทดแทนไม้
ผู้จัดการรายวัน(30 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
สนช.-สสว.-เอสเอ็มอีแบงก์ ลงขันปั้น "เอ็ม.ซี.อุดมทรัพย์" ผู้ผลิตวัสดุทดแทนไม้น้องใหม่ แบรนด์ "อาร์โต้" บุกตลาดวัสดุก่อสร้าง เปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ เทอเรส - คลาสสิก - พรีเมียม ร่วมแชร์ส่วนแบ่งตลาดวัสดุทดแทนไม้ ตั้งเป้าปีแรกยอดขาย 100ล้านบาท พร้อมเผยแผนระยะยาว5 ปีเข้าจดทะเบียนระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นางสาวหทัยกร สัตตบงกช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.ซี.อุดมทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ ไม้ประกอบพลาสติก "ไม้อาร์โต้" ซึ่งเป็นวัสดุทดแทนไม้ตัวใหม่ เปิดเผยว่า บริษัท ได้เปิดตัวในช่วงปลายปี2547ที่ผ่านมา โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากหน่วยงานของรัฐบาล 3 องค์กร ประกอบด้วย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.), สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เข้ามาถือหุ้นในบริษัทในสัดส่วน 51% ส่วนที่เหลือเป็นทุนของครอบครัว "สัตตบงกช" ของทุนจดทะเบียน 104 ล้านบาท และภายในระยะ 5 ปีจะมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง รองรับแผนในการขยายกำลังการผลิต การทำตลาดและกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับไปสู่บริษัทขนาดใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนผลักดันให้บริษัทเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายใน 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ตามข้อตกลงในการร่วมทุนของทั้ง3 หน่วยงานที่มีกำหนดไว้ในสัญญาการร่วมทุน ในระยะ 5 ปีแรกนี้ หน่วยงานสนช. ,สสว.,และ SMEs จะเข้ามาให้คำปรึกษาและดูแลในส่วนของการดำเนินงาน จนกว่าบริษัทจะสามารถจดทะเบียนและขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ตามกำหนด หลังจากนั้น ทั้ง 3 หน่วยงานจะถอยหุ้นคืนทั้งหมดและให้บริษัทดำเนินการด้วยต้นเองทั้งหมด โดยในระยะ 2 ปีข้างหน้า บริษัทจะมีโรงเพิ่มขึ้นอีก 1-2 โรงงาน จากปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตไม้อาร์โต อยู่ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีเนื้อที่รวม24 ไร่ มีการติดตั้งเครื่องจักร 2 เครื่อง ใช้งบประมาณในการก่อสร้างโรงงานทั้งสิ้น 300 ล้านบาท โดยโรงงานดังกล่าวมีกำลังผลิต100% ที่ปริมาณ 720 ตันต่อ เดือน หรือ 28,000 เมตรต่อเดือน ขณะนี้บริษัทใช้กำลังในการผลิตประมาณ 40%
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่า บริษัทจะมียอดขายที่ 100 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้จากการขาย ในกลุ่มลูกค้าโครงการ 40% ,การขายผ่านกลุ่มลูกค้าสถาปนิก 30% ,ขายผ่านตัวแทนการขาย 10% และขายผ่านลูกค้าทั่วไป20%
นายธนดล สัตตบงกช รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า สำหรับแผนการตลาดของบริษัทนั้น จะเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใน 2 ส่วนเพื่อเป็นการเสนอตัวหรือเปิดตัวให้เป็นที่รับรู้ของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้าง ผู้รับเหมาก่อสร้าง และโครงการบ้านจัดสรร และกลุ่มนักออกแบบและตกแต่ง โดยจะเน้นการจัดกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มสถาปนิก และกลุ่มตลาดทั่วไป โดยในปีนี้บริษัทตั้งงบประมาณในการทำตลาดไว้ที่ 10 กว่าล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเน้นในเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยใช้ระบบสมาชิก ภายใต้ชื่อ "อาร์โต้ คลับ" ซึ่งสมาชิกของบริษัทจะได้รับสิทธิพิเศษ อาทิ ส่วนลดจากการสั่งซื้อสินค้า ได้แต้มสะสมคะแนนแลกของรางวัล และนอกจากนี้ยังมีนโยบายรับซื้อสินค้าคืนในราคา 50% จากราคาที่ซื้อไปหลังการใช้งานแล้ว 15 ปี โดยสินค้าที่ซื้อคืนบริษัทจะนำมารีไซเคิล และผลิตเป็นสินค้าใหม่อีกครั้งหนึ่ง
" เรารับประกันอายุการใช้งานของสินค้าซึ่งมีอายุการใช้งานมากกว่า 40ปี แต่หากผู้ซื้อไปใช้งานแล้ว รู้สึกเบื่อ หรือ ต้องการเปลี่ยนรูปแบบหรือสีใหม่ๆ ก็สามารถนำสินค้ามาขายคืนได้หลังจากใช้งานครบ15 ปี ซึ่งบริษัทรับซื้อคืน ในราคา50% ของราคาขาย" นายธนดล กล่าว
ทั้งนี้ ไม้อาร์โต้ เป็นวัสดุทดแทนไม้ที่มีราคาขายที่อยู่ในตลาดระดับบน ซึ่งมีราคาแพงกว่าวัสดุทดแทนไม้ ที่ขายอยู่ในตลาด ที่ผลิตจากใยซีเมนต์ผสม แต่มีคุณสมบัติที่หลากหลายมากกว่า อาทิ มีสีให้เลือกจำนวนมาก มีขนาดความหนาที่เลือกได้ มีขนาดความยาวที่สามารถสั่งทำได้ สามารถดัดโค้งละมีความยืดหยุ่นมากกว่า ป้องกันความชื้นได้ดี ป้องกันความร้อนได้ดี ป้องกันการเกิดเชื้อราในผนังบ้าน
อย่างไรก็ตามในการทำตลาดอย่างเป็นทางการในปีแรกนี้ บริษัท จะส่งสินค้าออกสู่ตลาด3 แบบ ประกอบด้วย 1. ไม้อาร์โต เทอเรส ซึ่งเหมาะใช้งานกลางแจ้งหรือภายนอกอาคาร 2. ไม้อาร์โต้ คลาสสิก สำหรับใช้งานภายใน ที่ต้องการความเรียบง่าย และ3.ไม้อาร์โต้ พรีเมียม ซึ่งมีลวดรายและพื้นผิวเหมือนไม้ธรรมชาติ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|