|
เอ็กซิมแบงก์ชะงักออกลาวบอนด์รอจังหวะดบ.ขาลงหนุนต้นทุนต่ำ
ผู้จัดการรายวัน(29 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ลาวเอเชี่ยนบอนด์เจอโรคเลื่อนอีกรอบหลังกนง.ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% ระบุขอทบทวนแผนอีกครั้งหลังแนวโน้มผลตอบแทนลด คาดอาจเปิดขายได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เชื่อไม่กระทบแผนก่อสร้างเขื่อนน้ำงึม 2 เพราะรัฐบาลลาวใช้แหล่งเงินทุนจากหลายที่ พร้อมปรับแผนระดมทุนใหม่โดยออกพันธบัตรระยะสั้นมากขึ้นลดต้นทุนทางการเงิน
นายอภิชัย บุญธีรวร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประกาศลดดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะเวลา 1 วัน (อาร์พี 1วัน) ลงจาก 4.9375 % เหลือ 4.75 % ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทุกประเภทในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ซึ่งการประกาศปรับลดดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวส่งผลให้เอ็กซิมแบงก์ต้องทบทวนการออกพันธบัตรลาวเอเชี่ยน บอนด์ของทางรัฐบาลลาวออกไปก่อนจากเดิมที่มีกำหนดจะออกพันธบัตรดังกล่าวในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยทางเอ็กซิมแบงก์ต้องประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งในแง่ของผลตอบแทนพันธบัตรและอายุของพันธบัตรที่ออกขายในครั้งนี้ด้วย
“เดิมเราตั้งใจจะเปิดขายพันธบัตรให้เสร็จภายในไตรมาสแรกของปีนี้ แต่เมื่อมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายแล้วทำให้อัตราตอบแทนพันธบัตรทุกประเภทปรับตัวลดลงไปด้วย ดังนั้นเอ็กซิมแบงก์จะต้องขอทบทวนการออกพันธบัตรลาวเอเชี่ยนบอนด์อีกครั้ง โดยคาดว่าหากไม่มีปัจจัยลบด้านอื่นมากระทบน่าจะเปิดขายพันธบัตรชุดนี้ได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้” นายอภิชัยกล่าว
ทั้งนี้ แผนการขายพันธบัตรลาวเอเชี่ยนบอนด์นั้นเพื่อใช้ระดมทุนในการก่อสร้างเขื่อนน้ำงึม 2 จะเปิดขายพันธบัตรเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,500 ล้านบาท เป็นการขายแบบเฉพาะเจาะจง(Private Placement : PP) ให้กับนักลงทุนสถาบันจำนวน 10 รายส่วนใหญ่เป็นบริษัทประกันภัย ประกันชีวิตและธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ โครงการนี้รัฐบาลลาวลงทุนร่วมกับภาคเอกชนต่างประเทศ โดยมูลค่าที่รัฐบาลลงทุนมีมูลค่า 2,300 ล้านบาท ออกขายเป็นพันธบัตร 1,500 ล้านบาทและกู้จากธสน. 800 ล้านบาท
โดยความร่วมมือลาว-ไทยในการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชียหรือเอเชียบอนด์ ลาวจะได้ประโยชน์จากการมีเงินทุนที่ต้นทุนไม่สูงในการพัฒนาโครงการที่ช่วยในการพัฒนาประเทศ พัฒนาตลาดเงินตลาดทุน และเตรียมการสำหรับการระดมทุนในอนาคต และสร้างประสบการณ์ในการออกพันธบัตรในประเทศเพื่อนบ้าน และเริ่มมีการทำการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้แก่รัฐบาลลาวหรือหน่วยงานของรัฐบาลลาวในฐานะผู้ออกพันธบัตร เพื่อส่งเสริมในการออกพันธบัตรของลาวให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศในระยะยาว
ขณะที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการที่ได้สร้างพันธบัตรรูปแบบใหม่ สร้างความหลากหลายให้ตลาดพันธบัตรไทย ช่วยพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย รวมทั้งช่วยเหลือและสร้างความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการศึกษาการออกพันธบัตรเพื่อใช้ในโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 เป็นโครงการแรก
“การเลื่อนเปิดขายพันธบัตรในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการสร้างเขื่อนน้ำงึม 2 แต่อย่างใด เนื่องจากโครงการนี้รัฐบาลลาวได้ใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินหลายแห่ง การออกพันธบัตรเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการเท่านั้นและใช้ในช่วงท้ายของโครงการจึงไม่น่าจะมีปัญหาต่อโครงการแต่อย่างใด” นายอภิชัยกล่าว
ปรับวิธีลดต้นทุนดอกเบี้ย
การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนอกจากผลกระทบจากการออกพันธบัตรลาวเอเชี่ยนบอนด์ในครั้งนี้แล้วยังส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของเอ็กซิมแบงก์มีแนวโน้มลดลงตามไปด้วยซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานและการประเมินผลงานของรัฐวิสาหกิจได้ แต่ทางเอ็กซิมแบงก์ก็หาทางออกในเรื่องนี้โดยจะหันมาระดมทุนจากเดิมที่เน้นการออกพันธบัตรระยะยาวมาเป็นการออกพันธบัตรระยะสั้นแทน
“แม้ว่าเราจะเป็นธนาคารเฉพาะกิจของรัฐแต่ก็ต้องอยู่รอดให้ได้ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาส่วนต่างดอกเบี้ยที่ลดลงนั้นเราคงปรับวิธีการระดมเงินทุนใหม่โดยหันมาออกพันธบัตรระยะสั้นเพื่อให้ต้นทุนถูกลง ซึ่งในขณะนี้ฟิทช์เรตติ้งยังให้อันดับเครดิตพันธบัตรของเอ็กซิมไว้ที่ AAA แต่หลังจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไปยังไม่รู้ว่าจะมีการปรับอันดับเครดิตอีกครั้งหรือไม่” นายอภิชัยกล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|