|
บัวทองแตะเบรกธุรกิจจัดสรรอยู่อย่างพอเพียงรอวันตลาดฟื้น
ผู้จัดการรายวัน(29 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
"บัวทอง" แตะเบรกรุกธุรกิจจัดสรร ขออยู่อย่างพอเพียงหลังตลาดอสังหาฯ ชะลอตัว รอวันตลาดฟื้นกลับลุยใหม่ เล็งเทคโอเวอร์โครงการเก่าไปไม่รอดตั้งงบ 100-200 ล้านบาท ส่วนธุรกิจรับบริหารงานขาย ชูบัวทองชัวร์โฮม รับประกันซื้บ้านได้บ้าน สกรีนโครงการไม่ได้คุณภาพไม่รับบริหาร
นายไพโรจน์ สุขจั่น ประธารกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท บัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆ ส่งผลให้บริษัทชะลอการรุกตลาดบ้านจัดสรร เพื่อรอดูสถานการณ์ อีกทั้งยังต้องการเก็บเงินสดรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนให้อยู่ในระดับต่ำในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวน สำหรับการลงทุนใหม่จะใช้กระแสเงินสดภายในบริษัทเท่านั้น โดยในช่วงนี้จะขออยู่อย่างพอเพียง
โดยในปีนี้ บริษัทบัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือทำหน้าที่พัฒนาบ้านจัดสรร จะไม่มีนโยบายรุกตลาด แม้ว่าจะเหลือสินค้าในมือเพียง 200 ยูนิต มูลค่ารวม 400 ล้านบาท จาก 2 โครงการได้แก่ โครงการภัทรทรัพย์ จำนวน 60 ยูนิต และโครงการ ทิพพิมาน การ์เด้น 140 ยูนิต โดยจะมุ่งสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ และทยอยโอนให้ลูกค้า ตั้งเป้าโอนบ้านในปีนี้ 460 ล้านบาท จากปี 2549 มียอดโอน 377 ล้านบาท
สำหรับโครงการใหม่มีแผนที่จะเข้าซื้อโครงการเก่าที่ไปไม่รอด ซึ่งปัจจุบันมีโครงการเข้ามาเสนอขายจำนวนมาก แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาถึงศักยภาพของโครงการ ซึ่งจะให้ความสำคัญกับโครงการที่ตั้งในทำเลดี สินค้ามีคุณภาพ ทั้งนี้การซื้อโครงการเก่าเข้ามาพัฒนาต่อนั้น จะใช้เงินลงทุนของบริษัทเท่านั้น หากขอสินเชื่อจะมีจำนวนน้อยเท่านั้นต้อง โดยตั้งงบประมาณไว้ที่ 100-200 ล้านบาท และเมื่อตลาดอยู่ในภาวะที่ดีจึงจะหันกลับมารุกตลาดอีกครั้ง
"ในอนาคตบริษัทมีแผนที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ แต่ยังไม่กำหนดว่าเมื่อใด ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้รองรับ และล่าสุดได้ซื้อที่ดินขนาด 2 .5 ไร่ เพื่อสร้างอาคารสำนักงานใหญ่ คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้าง 40 ล้านบาท ส่วนในปัจจุบันจะขออยู่อย่างพอเพียงไม่รุกธุรกิจอย่างที่ผ่านๆมา จนกว่าภาวะตลาดจะฟื้นจึงจะรุกอีกรอบ และเชื่อว่าคงไม่เกิน 2 ปี" นายไพโรจน์ กล่าว
ส่วนธุรกิจรับบริหารงานขายและการตลาดนั้น บริษัทยังคงใช้คอนเซ็ปต์ "บัวทอง ชัวร์โฮม" การันตีลูกค้าซื้อบ้านที่กลุ่มบัวทองรับริหารงานขายจะต้องได้บ้านและมีคุณภาพ สมราคา นอกจากนี้ยังไม่รับบริหารงานขายให้กับโครงการที่ไม่ผ่านกฎหมายจัดสรรหรือหลีกเลี่ยงกฎหมายจัดสรร อีกทั้งโครงการที่จะรับบริหารนั้นจะต้องอยู่ในเกณฑ์ 4P คือ product price place และ promation โดยทุกอย่างต้องสอดคล้องกันตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าพร้อมขายในมือ 1,500 ยูนิต
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้ารับบริหารงานขายและการตลาด 40 โครงการ ยอดขาย 2,500 ล้านบาท ยอดตั้งกล่าวไม่รวมบริษัทบัวทอง แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โดยแบ่งเป็นเป้าหมายของบริษัทบัวทอง พร็อพเพอร์ตี้ 1,100 ล้านบาท, บีที สมาร์ท พร็อพเพอร์ตี้ 1,100 ล้านบาท และบัวทอง มาร์เก็ตติ้ง 300 ล้านบาท
นางชนิศา เวชยาศรมพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีที สมาร์ท ซึ่งรับบริหารงานขายในกลุ่มสินค้ากลาง - บน กล่าวว่า ตลาดดังกล่าวแม้ว่าจะมีการชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจ แต่บริษัทยังคงเน้นการขายความฝันของผู้บริโภค ที่ทุกคนย่อมต้องการชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ต้องอยู่บ้านหลังใหญ่ขึ้น ดังนั้นกลุ่มลูกค้าระดับดังกล่าวยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดี อีกทั้งโครงการที่บริษัทรับเข้ามาบริหารจะไม่ใช้บ้านราคาแพงจนเกินความต้องการที่แท้จริง โดยระดับราคาจะอยู่ที่ 3-7 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวจะเป็นกลุ่มลุกค้าผู้บริหารระดับสูงหรือเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี เป็นต้น
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|