ปี49เกินดุลฯ3พันล้านดอลล์


ผู้จัดการรายวัน(23 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ส่งออกปี 49 ไทยพลิกกลับเกินดุลการค้าเฉียด 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลบคำสบประมาทที่หลายสำนักคาดไว้ว่าทั้งปีจะขาดดุลการค้า ส่วนยอดส่งออกทั้งปีโต 16.9% ต่ำกว่าเป้าเพียง 0.1% เท่านั้น “เกริกไกร”เผยผลหารือภาคเอกชน ยืนยันตรงกัน ส่งออกปีนี้ทำได้ 12.5% แน่ หากบาทอยู่ที่ 36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือนธ.ค.2549 มีมูลค่า 10,959 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.5% โดยเป็นมูลค่าการส่งออกเกินหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 10,047.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.1% โดยในในเดือนธ.ค.ไทยเกินดุลการค้า 911.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ เมื่อรวมการส่งออกทั้งปี 2549 (ม.ค.-ธ.ค.) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 129,744.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.9% คิดเป็น 99.5% ของเป้าหมายการส่งออก หรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 17% เพียง 0.1% เท่านั้น ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 126,830.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.3% โดยไทยเกินดุลรวมทั้งสิ้น 2,913.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเทียบกับปีก่อนหน้าขาดดุลการค้าสูงถึง 7,236.7 ล้านเหรียญสหรัฐ

“สรุปทั้งปี 2549 เกินดุลการค้าเกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อต้นปีหลายๆ สำนัก คาดว่าจะขาดดุลการค้า 6-7 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ทั้งปีกลับมาเกินดุลได้ ถือว่าทำงานได้ดี ส่วนปีนี้ คิดว่าไม่น่าจะขาดดุลการค้า น่าจะเกินดุลนิดหน่อย เพราะเราตั้งเป้าส่งออก 12.5% การนำเข้าน่าจะใกล้เคียงกัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยน้ำมัน หากราคาสูงขึ้น ก็อาจขาดดุลจากราคาน้ำมัน ถ้าน้ำมันลด การเกินดุลการค้าอาจจะมากขึ้น”นายการุณกล่าว

วันเดียวกันนี้ นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือกับภาคเอกชน 3 สถาบัน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย เพื่อหารือถึงมาตรการในการผลักดันให้การส่งออกปี 2550 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 12.5%

นายเกริกไกรกล่าวว่า ผลการหารือได้รับการยืนยันจากภาคเอกชนว่าเป้าส่งออก 12.5% น่าจะทำได้ แต่ก็มีความกังวลเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่หากอยู่ในระดับที่ 36 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็ไม่น่ามีปัญหา ส่วนมาตรการที่จะต้องนำเข้ามาเสริม เช่น การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก (SMEs) การมีระบบเตือนภัยทางการค้าโดยใช้กลไกของทูตพาณิชย์ การแสวงหาแหล่งวัตถุดิบและตลาดใหม่ การแก้ไขปัญหา AD/CVD และการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ซึ่งกระทรวงฯ ได้รับที่จะช่วยดำเนินการให้ เพราะอยู่ในอำนาจที่จะทำได้

นายกุญญพันธ์ แรงขำ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่า แผนการผลักดันการส่งออกในปี 2550 กรมฯ จะร่วมกับภาคเอกชนในการเจาะและขยายตลาดเชิงรุก โดยเฉพาะตลาดใหม่ ที่จะมีกิจกรรมเป็นกรณีพิเศษ ในตลาดอาเซียน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมไปถึงการส่งเสริมการส่งออกธุรกิจบริการใหม่ๆ การเพิ่มจำนวนผู้ส่งออกรายใหม่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุนการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ทางด้านการนำเข้า แนวโน้มการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบ เช่น เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ในเดือนม.ค. คาดว่าจะนำเข้าใกล้เคียงกับเดือนม.ค.2549 ปริมาณ 1.2 ล้านตัน ส่วนทองคำคาดว่าจะนำเข้าเพิ่มขึ้น เพราะใกล้เทศกาลตรุษจีน ส่วนสินค้าเครื่องจักรกล และส่วนประกอบ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ คาดว่าจะนำเข้าเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของกำลังการผลิตและการลงทุน ขณะที่การนำเข้าของภาครัฐ จะมีมูลค่า 62.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะนำเข้าทั้งปีประมาณ 1,160.6 ล้านเหรียญสหรัฐ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.