|
ตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์หดตัว โมเดอร์นฯคาดยอดขายลด2-3%
ผู้จัดการรายวัน(22 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ปีหมู ยุคยากเข็นของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ “โมเดอร์นฟอร์มฯ”รับจัดสรรชะลอพัฒนาคอนโดมิเนียมและสำนักงาน กระทบยอดขายตลาดรวม คาดปี50 ตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ขยายตัว10-12% ลดจากประมาณการเดิม 15% ส่วนเฟอร์นิเจอร์เจาะตลาดคอนโดฯ คาดได้รับผลกระทบระยะ 1-2ปีข้างหน้า เหตุโครงการคอนโดฯใหม่ช่วงนี้ลดลลง งัดกลยุทธ์สู้ตลาดชะลอ เปิดทีมเจาะตลาดสำนักปรับปรุงใหม่ (Improvement) "กิจจา"บิ๊กอินเด็กซ์ฯ ยันตลาดคอนโดฯชะลอไม่กระทบยอดขาย เหตุมีสต็อกล่วงหน้าโครงการที่เปิดตัวช่วง1-2ปีที่ผ่านมาในมือแล้ว
นายพัฒนะ อุษณาจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ ว่า จากผลกระทบการออกมาตรการกันเงินสำรอง30% ของเงินทุนต่างประเทศ และการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ส่งผลให้เกิดการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ และการขยายพื้นที่ตลาดสำนักงานนั้น ยอมรับทำให้เกิดผลกระทบต่อยอดขายในตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ในประเทศบ้าง โดยคาดว่าจะทำให้อัตราการขยายตัวในตลาดเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศลดลงจากเดิม 2-3% จากปี2549 หรือมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 10-12% จากเดิมประมาณการว่าในปี2550 นี้ อัตราการขยายตัวของตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ จะขยายตัวประมาณ 15%
ทั้งนี้ ในส่วนของผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมาจากการชะลอการเพิ่มพื้นที่ออฟฟิศ หรือสำนักงานที่ลดลง โดยเฉพาะในส่วนของการขยายออฟฟิศของบริษัทจากต่างประเทศ ในบางบริษัทที่มีแผนจะเข้ามาลงทุนเปิดบริษัทในประเทศไทย แต่ในส่วนของบริษัทที่มีการลงทุนไปแล้วนั้น คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ หรือมีการชะลอการเปิดตัวออกไป อาทิ กลุ่มลูกค้าของบริษัท ซึ่งมีการเจรจาและตกลงทำสัญญากันแล้ว อาทิ ผู้ประกอบการรถยนต์ค่ายเบนซ์ ,โตโยต้าและฟอร์ด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีบางบริษัทชะลอการลงทุนออกไป แต่ในส่วนของหน่วยงานที่จะมีการดำเนินการต่อเนื่องในการขยายพื้นที่สำนักงานคือ กลุ่มหน่วยงานราชการ ,สถาบันการเงิน ,ธุรกิจไฟแนนช์ และกลุ่มธุรกิจพลังงานที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และโรงพยาบาล ทั้งนี้ ในส่วนบริษัทที่มีการชะลอการลงทุนนั้น คาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์ที่กระทบต่อเศรษฐกิจ หรือตลาดแรงๆ คาดว่า เมื่อสถานการณ์ชัดเจนขึ้นก็จะกลับเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น
นายพัฒนะ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเปิดตัวแผนกใหม่ขึ้นมา เพื่อดูแลด้านการบริการลูกค้ากลุ่มตลาดออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ หรือทีมบริการด้านการปรับปรุงสำนักงานใหม่ ซึ่งทีมดังกล่าวนี้จะเข้าไปให้บริการด้านการตกแต่ง และการปรับปรุงออฟฟิศใหม่ ซึ่งจะปรับปรุงเฉพาะพื้นที่บางส่วนของสำนักงาน
“ ทีมใหม่ที่ตั้งขึ้น จะเข้าไปรับผิดชอบในการให้บริการตกแต่งออฟฟิศให้แก่ลูกค้า ที่มีการขยายเพิ่มพื้นที่ออฟฟิศใหม่ หรือต้องการปรับปรุงพื้นที่สำนักงานใหม่ อาทิการทุบผนัง ปูพรม เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ ในแต่ละแผนกของสำนักงานแต่ละบริษัท ซึ่งแผนกดังกล่าวนี้จะเข้ามาสร้างรายได้ให้ในอนาคต โดยในเบื้องต้นนี้ ประมาณการว่าจะมีรายได้จากการปรับปรุง ต่อเดือนประมาณ 2ล้านบาท” นายพัฒนะกล่าวและชี้ว่า
ในส่วนผลกระทบของการชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่คาดว่าในปี2550 จะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากการวางระเบิดกลางเมือง ทำให้ผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมที่เตรียมจะพัฒนาโครงการใหม่ มีการชะลอการพัฒนาโครงการออกไปนั้น เชื่อว่าในปีนี้ ผลกระทบดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลถึงธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจาก ยังมีโครงการเดิมที่มีการก่อสร้างไปแล้วในช่วง1-2 ปีที่ผ่านมา ที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไว้ล่วงหน้าแล้วนั้น ยังคงมีการซื้อขายเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการอยู่
ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการที่กำลังเตรียมขึ้นโครงการใหม่ แต่มีการชะลอการพัฒนาโครงการออกไป เชื่อว่าจะมีอยู่ในบางส่วน และอาจจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในระยะ1-2 ปีข้างหน้าของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์บ้างแต่ก็คงไม่มาก เนื่องจากหลังจากนี้หากสถานการณ์ต่างๆ ชัดเจน โครงการที่ชะลอแผนการก่อสร้างออกไปก็จะกลับมาดำเนินการก่อสร้างโครงการหรือเปิดตัวโครงการใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นในปี 2550 เชื่อว่ายอดขายของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ คงจะยังไม่ได้รับผลกระทบจาการชะลอการพัฒนาโครงการคอนโดฯออกไป
ด้านนายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับผลกระทบจากการชะลอโครงการคอนโดมิเนียมนั้น จะไม่กระทบต่อตลาดเฟอร์นิเจอร์ เพราะบริษัทมีสต๊อกล่วงหน้ากับโครงการที่มีการพัฒนาโครงการไปแล้วเมื่อ1-2ปีก่อนหน้านี้ ส่วนการชะลอการพัฒนาโครงการใหม่นั้น เชื่อว่าอาจจะมีการชะลอการพัฒนาโครงการบางส่วน ซึ่งน่าจะเป็นในส่วนของผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ดำเนินการพัฒนาโครงการ แต่ในส่วนของผู้ประกอบการที่มีการดำเนินการ หรือเปิดตัวไปแล้วจะดำเนินโครงการต่อ
ในส่วนที่มีการดำเนินการพัฒนาโครงการต่อในตลาดคอนโดมิเนียมนั้น หากพิจารณาจำนวนการพัฒนาออกมาสู่ตลาดมีจำนวนมากถึง 20,000-30,000 หน่วย ปริมาณดังกล่าว จะทำให้ตลาดเฟอร์นิเจอร์สามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในระยะ1-2 ปีนี้ และเมื่อพิจารณาแล้ว หลังจากที่เหตุการณ์ต่างๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะทำให้ผู้ประกอบการที่ชะลอพัฒนาโครงการกลับมาพัฒนาโครงการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้มีการซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าโครงการเช่นเดิม
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|