'นัมเบอร์วัน'เล็งผุดโปรเจกต์ใหญ่คอนโดฯ-ทาวน์โฮม-เซอร์วิสฯ รับลูกค้าสุวรรณภูมิต่อ


ผู้จัดการรายวัน(19 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

"นับเบอร์วัน” แย้มแผนพัฒนาโครงการใหม่ครบวงจร ทั้งคอนโดฯ-ทาวน์โฮม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ติดด้านข้างโครงการบลู ลากูน เจาะลูกค้ากลุ่มเดิม แจงปี49 มีรายได้จากการขาย 180 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 50 ยอดขายรวม300-500ล้านบาท พร้อมทุ่มงบทำตลาดกว่า 40ล้านบาท อัดแคมแปญแรกรับปีหมู ซื้อบ้านแถมรถยนต์โตโยต้า ลุ้นรับแหวนเพรช 1 กะรัต ระบุไม่เกินกลางปี 52 ปิดการขายโครงการได้

นายสุธรรม สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นัมเบอร์วัน เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่าในปี2549 ที่ผ่านมา บริษัท มีรายได้จากการขายบ้านในโครงการ "โครงการมายเพลส วัชรพล” ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 60 หลัง บนพื้นที่ 15 ไร่ ราคา 3-5 ล้านบาท และบ้านในโครงการบลู ลากูน รวม 180 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นยอดขายจากโครงการมายเพลส วัชรพล 25 ยูนิต คิดเป็นมูลค่า 100 ล้านบาท และ จากโครงการบลู ลากูน 80 ล้านบาท ส่วนในปี2550นี้ ทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 300-500 ล้านบาท หรือมียอดขายประมาณ 30-40ยูนิต

นอกจากการพัฒนาโครงการบลู ลากูน ซึ่งเปิดขายในขณะนี้แล้ว บริษัทได้เตรียมแผนพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มเติมในส่วนของที่ดินที่เหลือจากการพัฒนาโครงการบลู ลากูนประมาณ 100 กว่าไร่ โดยแผนการทำโครงการดังกล่าว จะมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม, โครงการทาวน์โฮม และโครงการเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ซึ่งลูกค้าในโครงการใหม่ ยังเน้นกลุ่มลูกค้าระดับเดียวกับโครงการบลู ลากูน

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาโครงการใหม่ จะพัฒนาต่อเนื่องจากโครงการบลู ลากูน คาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ในระหว่างปลายปี 2551-2552 ซึ่งเป็นช่วงที่ทางบริษัทคาดว่า จะสามารถปิดการขายโครงการบลู ลากูนได้ประมาณกลางปี 2552

"หลังใกล้ปิดการขายโครงการแรก ก็จะทยอยลงทุนโครงการใหม่ และตามนโยบายของบริษัท ในแต่ละปีจะพัฒนาโครงการไม่ต่ำกว่า 1 โครงการ ภายใต้สถานการณ์ของตลาดและแนวโน้มของเศรษฐกิจประกอบด้วย "

สำหรับ โครงการบลู ลากูน เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน จำนวน 268 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการรวม 150 ไร่ ภายในโครงการมีการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะสวกไว้รองรับลูกค้าอย่างครบครัน อาทิ สโมสรซึ่งมีพื้นที่กว่า 2 ไร่ ซึ่งจะใช้งบประมาณในการพัฒนาประมาณ 30 ล้านบาท หรือมีทะเลสาป กลางโครงการเนื้อที่ 50 ไร่

นายสุธรรมกล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าของยอดขายโครงการบลู ลากูนในขณะนี้ เฟสแรกมีการพัฒนาบ้านเดี่ยวรวม 34 ยูนิต มียอดขายแล้ว 30% และคาดว่าในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20.ม.ค. 50นี้ บริษัทจะมียอดขายเพิ่มอีก 10% และจนถึงสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 70-80%

ทั้งนี้เราตั้งเป้าปิดการขายเฟสแรกในช่วงต้นปี 2551 ในสำหรับเฟสสองจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างกลางปี 2550 "แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจต้นปีจะชะลอตัวบ้าง แต่เรามั่นใจว่าผลการดำเนินการจะเป็นไปตามเป้า

เพราะกระแสตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี เรามีจุดเด่นเรื่องคุณภาพของบ้านและราคาที่สมเหตุสมผล อย่างไรก็ตาม เราจะใช้กลยุทธ์สร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยตรงด้วย เช่น การเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงศรีอยุธยาฯ โดยจะเสนอสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าของทั้งสองบริษัท”

นายสุธรรม กล่าวว่า สำหรับในวันแกรนด์โอเพนนิ่ง 20 ม.ค.นี้ จะเปิดขายบ้านในทำเลพิเศษริมทะเลสาป จำนวน9 ยูนิต จากทั้งหมด 15 ยูนิต ซึ่งบ้านทั้ง9ยูนิต จะพัฒนาในรูปแบบบ้านบลู ไดมอนด์ เป็นหนึ่งในแบบบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและจะมีการวางระบบไซเบอร์ที่สมบูรณ์แบบภายในบ้าน ราคาขายเริ่มต้นที่ 18-20ล้านบาท

นางสุกัญญา สุวรรณนภาศรี กรรมการบริหาร กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะใช้งบในการทำตลาดประมาณ 40 ล้านบาท โดยแคมเปญแรกของปีนี้ จะจัดขึ้นในงานเปิดตัวโครงการ ลูกค้าที่ซื้อบ้านแต่ละหลังจะได้รับรถยนต์ตามราคาของแต่ละบ้าน นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อบ้านยังมีโอกาสลุ้นรับแหวนเพชรหนึ่งกะรัตภายในงาน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.