"เนสลัน อิง จากนิวเคลียร์ถึงหอสวรรค์"


นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2536)



กลับสู่หน้าหลัก

ในดิสนีย์เวิล์ดใจกลางเมืองฟลอริดา เสี้ยวหนึ่งของอารยธรรมจีนได้เข้าไปแทรกตัวอยู่ด้วย นั่นคือหอสวรรค์ (TEMPLE OF HEAVEN -สถานที่บูชากราบไหว้ฟ้าดินของกษัตริย์จีน) และสวนน้ำของซูโจว

สถานที่ดึงดูดใจแห่งนี้ ตั้งอยู่ท่ามกลางสิ่งน่าสนใจอย่างอื่น โดยตั้งอยู่ที่ เอพคอท เซนเตอร์ ซึ่งเป็นผลงานของ เนลสัน อิง วัย 50 ปี นักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ซึ่งหันมาทำธุรกิจเมื่อ 20 ปีที่แล้วเพื่อหาเงินทุนไปสนับสนุนการทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ของเขา

แม้ว่าจะสามารถทำรายได้หลายล้าน จากโครงการพัฒนาที่ดินในนามของ CHINA GROUP ของเขาและจากกิจการนำเข้าส่งออก รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ แต่สิ่งที่อิงรักมากเป็นพิเศษก็คือหอสวรรค์จำลองแห่งนี้ซึ่งเขาถือว่าเป็น "ลูกรัก"

อิงเล่าว่า ดิสนีย์เวิล์ดขอให้เขาเป็นสปอนเซอร์สนับสนุนการสร้างหอนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอพคอท เซนเตอร์ (EXPERIMENTAL PROTOTYPE COMMUNITY OF TOMORROW) แต่อิงทำมากกว่าการเป็นสปอนเซอร์ เขาเข้าไปมีส่วนร่วมของทุกขั้นตอนของโครงการนับแต่ต้น โดยลงทุนอพยพจากนิวยอร์คมาอยู่ที่ออร์แลนโดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เพื่อมาทำโครงการนี้ เขาได้ให้คำแนะนำในการวางผัง และออกแบบด้านสถาปัตย์

อิง เจ้าของเข็มขัดสายดำกังฟู และคาราเต้ ไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อเพื่อนนักลงทุนร่วมใน CHINA GROUP เขาเพียงแต่บอกว่า ผู้ร่วมทุนแต่ละคนมีเป้าหมายเดียวกันคือหาเงิน และเผยแพร่วัฒนธรรมจีน อิงซึ่งเป็นประธานและซีอีโอของกลุ่มเปิดเผยว่าหุ้นส่วนส่วนใหญ่เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ และจีนโพ้นทะเล

สมัยที่ยังเป็นหนุ่ม ความลึกลับเกี่ยวกับเรื่องอะตอมจูงใจอิงได้มากกว่าเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดขององค์กรนาซ่าที่มหาวิทยาลัยแบรนไดส์ หลังรับปริญญาเอกด้านนิวเคลียร์ ฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยอเดลฟี่ ก็ได้ทำงานในห้องปฏิบัติการด้านนิวเคลียร์ของกองทัพบกสหรัฐฯ ที่แมรี่แลนด์ เขาผิดหวังที่ทางกองทัพไม่มีเงินทุนพอที่จะมาสนับสนุนการทำวิจัยของเขาเป็นอย่างมาก "ผมรู้ว่า ถ้าต้องการความสำเร็จในงานวิจัยทางด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์แล้ว ผมจะต้องขอเงินทุนหรือทำธุรกิจของตัวเองเพื่อให้ได้เงินมา" อิงเล่า เขาคิดว่าจะกลับไปทำงานด้านวิทยาศาสตร์ตามเดิม หลังจากใช้เวลาหาเงินสักพักหนึ่ง "ผมไม่คิดว่า จะอยู่ในวงการธุรกิจถึง 20 ปี"

อิงเรียนรู้การทำธุรกิจจากพ่อของเขา เขาทำงานในกิจการของพ่อที่นิวยอร์ค ซึ่งมีธุรกิจภัตตาคารและกิจการพัฒนาที่ดิน ครอบครัวอิงทิ้งบริษัทเคมีภัณฑ์และอพยพจากเซี่ยงไฮ้มาอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เขาอายุเพียง 4 ขวบ เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีชัยในปี 1949

เมื่ออิงกลับมาสู่วงการวิทยาศาสตร์อีกครั้งก็ประสบความสำเร็จ ด้วยการค้นพบโคลด์ ฟิวชั่น (COLD FUSION) ซึ่งเป็นปฏิกริยานิวเคลียร์ในอุณหภูมิปกติ แต่วงการวิทยาศาสตร์อเมริกาพากันตั้งข้อสงสัยต่อการค้นพบนี้

อิงไม่กังวลนักต่อการไม่ยอมรับผลงานของเขา เขาบอกว่า "ผมจะทำได้หรือไม่ก็ตาม ไม่เกี่ยวกับคนอื่น" ไม่ว่าการทดลองของเขาจะมีผลลัพธ์อย่างไร อิงได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าเป็นเรื่องของการหาเงินแล้วละก็ เขาทำได้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.