|
"แอตต้า"ไม่ปลื้มย้ายบินในปท.ชี้ปัญหาทอท."อย่าอ้างแออัด"
ผู้จัดการรายวัน(17 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า) เปิดเผยว่า ในเรื่องของการย้ายสนามบินในส่วนของเที่ยวบินภายใน
ประเทศ จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกลับไปใช้ท่าอากาศยานกรุงเทพ(ดอนเมือง) ทางบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือทอท.จะเป็นผู้เดียวที่บอกได้ดีที่สุดว่าจะย้ายหรือไม่อย่างไร ส่วนภาคเอกชนคือผู้ปฏิบัติตามเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้เคยนำเสนอข้อมูลถึงความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทอท.ก็ยืนยันว่าจะต้องย้ายไป ทุกฝ่ายก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากปฏิบัติตาม โดยจะต้องกำหนดวันย้ายให้แน่นอน เพื่อจัดทำแผนงานรองรับ ขณะเดียวกันมองว่า หากต้องย้ายสายการบินในประเทศ(โดเมสติก) ทอท.ต้องจัดรถชัตเตอร์บัสฟรี ไว้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่ต้องมีการเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อไปยังต่างประเทศ แต่ต้องกำหนดเวลาออกรถที่แน่นอนชัดเจน เพื่อบริษัททัวร์จะได้นำไปจัดตารางการเดินทางของลูกค้า
นอกจากนั้น ยังต้องการให้ทอท.จัดพื้นที่สำหรับจอดรถทัวร์ของแอตต้า พร้อมที่พักคนขับในสนามบินสุวรรณภูมิให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ซึ่งอยู่ไกลจากอาคารผู้โดยสารมาก พื้นที่แคบและแออัดไม่เพียงพอกับปริมาณรถในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังไม่มีอาคารสำหรับนั่งพัก มีเพียงตู้คอนเทนเนอร์ที่มาปรับใช้เป็นออฟฟิสเท่านั้น เชื่อกระทบผู้โดยสารชะงักเดินทาง50%
ทางด้านนายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง เพราะปัญหาสนามบินสุวรรณภูมิที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ได้เกิดจากปัญหาความแออัดของผู้ใช้บริการสนามบิน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่สนามบินที่เพิ่งเปิดดำเนินการเพียง 3 เดือน จะเต็มกำลังการรองรับแล้ว ทั้งนี้รัฐบาลชุดที่ผ่านมาระบุว่า สุวรรณภูมิเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย จะช่วยดันประเทศไทยให้เป็นฮับทางการบิน
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้มองว่า เป็นปัญหาที่เกิดจากการบริหารจัดการในสนามบินสุวรรณภูมิของทอท. ที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จึงจะหันกลับมาใช้สนามบินดอนเมือง ซึ่งแม้ว่าทอท.จะระบุว่า ต้องเสียค่าดูแลรักษาสนามบินดอนเมืองประมาณเดือนละ 40 ล้านบาท แต่เมื่อย้ายสายการบินในประเทศมาใช้ที่สนามบินดอนเมือง ก็ไม่มีใครตอบได้เช่นกันว่าค่าใช้จ่ายของทอท.ตรงนี้จะลดลง
นอกจากนั้นปัญหาที่สำคัญที่สุด คือ รัฐบาลและทอท.ยังไม่มีระบบการขนส่งระหว่างสองสนามบินที่ดีพอ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหากับนักท่องเที่ยวที่ต้องเปลี่ยนเครื่องไปต่างประเทศ เพราะการเดินทางระหว่างสองสนามบินจะล่าช้าใช้เวลามาก เพราะระบบการจราจรที่แก้ไม่ตก ระบบรถไฟฟ้ามักกะสัน-สุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ตลิงก์)การก่อสร้างยังไม่เสร็จ และก็ไม่มีแอร์พอร์ตลิงก์ระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับสนามบินดอนเมืองด้วย
ซึ่งหากจัดการปัญหาตรงนี้ได้ก็สามารถย้ายสนามบินได้ เพราะในต่างประเทศตามเมืองใหญ่ๆ อย่าง ลอนดอนและโตเกียว ก็มีหลายสนามบิน แต่ทางรัฐบาลในประเทศนั้นๆ ได้จัดทำระบบขนส่งที่ดี ไม่ให้ผู้โดยสารเสียเวลา
ทั้งนี้ หากทอท.ยังยืนยันที่จะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองสำหรับเส้นทางบินในประเทศ จะส่งผลกับการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในภูมิภาค ที่จะมีนักท่องเที่ยวใช้บริการลดลง ขณะที่นักท่องเที่ยวในประเทศที่ต้องการต่อเที่ยวบิน(ไฟลต์)ไปต่างประเทศก็จะลดลงไม่น้อยกว่า 50% ในช่วงแรก
ท่องเที่ยวปี2550ยังสดใส
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2550 ในงานพบปะสื่อมวลชนของสมาคมแอตต้า นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมแอตต้า กล่าวว่า มีแนวโน้มที่สดใสทุกตลาด ทั้งเอเชีย ,ยุโรป และ อเมริกา ส่วนเหตุการณ์ระเบิดเมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 49 มีผลกระทบน้อยมากเมื่อเทียบกับช่วงหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 47 โดยตั้งแต่วันที่ 1-14 มกราคม 50 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินสุวรรณภูมิลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 9% ซึ่งไม่นับรวมสนามบินนานาชาติแห่งอื่นๆ ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องควบคุมสถานการณ์ให้ดีและไม่ให้มีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นอีก โดยมั่นใจว่าจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ ททท.วางไว้ คือ 14.8 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 5.47 แสนล้านบาท
ด้าน ร.ท.สุวิทย์ ยอดมณี รัฐมนตรีว่าการกระรทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากข้อเสนอของแอตต้าในเรื่องของการให้พื้นที่แอตต้าในสนามบินสุวรรณภูมินั้น ให้แอตต้าทำเป็นหนังสือเสนอเข้ามา และยินดีที่จะนำไปยื่นให้แก่ กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน
นายวิจิตร ณ ระนอง ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการย้ายสนามบินจากสุวรรณภูมิกลับมาที่
สนามบินดอนเมือง แม้จะเป็นบางส่วนก็มองว่าไม่สมควร ซึ่งเรื่องที่เคยคุยกับไออาต้าแล้วซึ่งเห็นตรงกัน แต่หาก ทอท.ต้องการจะย้ายจริงๆ
ต้องมีเหตุผลและเงื่อนไข ระยะเวลาที่ชัดเจน ว่าทำไมต้องย้าย ขณะเดียวกันต้องการฝากให้หน่วยงานที่กำลังพิจารณาเรื่องการย้ายสนามบินด้วยว่า มีความคุ้มค่าเพียงพอหรือไม่ เพราะหากมี 2 สนามบิน ทุกฝ่ายทั้งรัฐและเอกชนต้องมีค่าใช้จ่ายต้นทุนด้านบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เพราะต้องวางพนักงานถึง 2 สนามบิน หอบังคับการบินก็ต้องใช้คน 2 ชุด เป็นต้น นอกจากนั้นสิ่งที่อยากให้รัฐคำนึงมากที่สุดคือความสะดวกของนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ รวมถึงภาพลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิเพราะเป็นสนามบินใหม่ที่เพิ่งเปิด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|