ตลาดท่องเที่ยวอนุรักษ์บูมโต25%“สทอ.”ควง”ททท.”โรดโชว์รับตลาด


ผู้จัดการรายวัน(16 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

สทอ. ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มสูบ รับกระแสเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัยมาแรงปี 49’ โต 25% เตรียมควงแขนททท.ออกโรดโชว์ต่างประเทศ ประเดิมก.พ.นี้ 2 งานในอเมริกา เจาะกลุ่มสถาบันการศึกษา ส่วนตลาดในประเทศ ททท.ไฟเขียวจัดโซนพิเศษให้ในงานไทยเที่ยวไทย เผยจับมือ สพท.เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร นำร่องจัดอบรมมัคคุเทศก์รุ่นแรก พร้อมเร่งจัดเก็บข้อมูลตัวเลขนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้อย่างเป็นทางการ

นางสุภาภรณ์ ปราชญ์อำไพ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย(สทอ.) หรือ TEATA เปิดเผยว่า ในปีนี้สมาคมจะร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ทำตลาดเชิงรุก เพื่อต้องการขยายตลาดในกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ซึ่งจะมีแผนการดำเนินงานเป็น 2 กลุ่ม คือ ตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศ และตลาดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ” หรือ เรสฟรอสเทเบิ้ล ทราเวล เยียร์

เดินสายโรดโชว์ต่างประเทศ

ในส่วนของตลาดต่างประเทศ จะนำสมาชิกเดินไปออกงานเทรดโชว์ และโรดโชว์ร่วมกับ ททท. ล่าสุดเดือนก.พ.นี้ จะไปร่วมงาน "เอ็ดดูเคชั่น ทราเวล” หรือการประชุมสมาคมท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา ที่ Daltimre กรุงวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ซึ่งสมาคมฯได้รับเกียรติขึ้นบรรยาย ดังนั้นจึงคิดว่าจะใช้เวทีนี้เผยแพร่สินค้าทางการท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์และผจญภัยของไทย ซึ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมงานจะเป็นสถาบันการศึกษาในอเมริกา ที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อการศึกษาเข้ามาในเอเชีย

ในวันที่ 23-27 ก.พ.นี้ จะเดินทางไปกับ ททท.เพื่อร่วมงาน นิวยอร์คไทม์ ทราเวลโชว์ ซึ่งจะเป็นงานเทรนด์โชว์ที่นำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวในรูปแบบอีโคทัวริสซึ่มโดยเฉพาะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา ททท.ไม่เคยไปร่วมงานโรดโชว์ที่อเมริกาเลย แต่ปีนี้อเมริกาถือเป็นอีกหนึ่งตลาดเป้าหมายที่ททท.สนใจ โดยมองว่าตลาดนี้มีศักยภาพขยายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นนักเรียนนักศึกษา กลุ่มอาสาสมัครและกลุ่มคนรุ่นใหม่

จัดกิจกรรมกระตุ้นตลอดปี

ด้านตลาดในประเทศ จะร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) บูมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย ให้คนไทยได้รับรู้ข้อมูล โดยการจัดงานไทยเที่ยวไทย ของ ททท.ปีนี้ จะแยกพื้นที่ส่วนหนึ่งให้แก่ บริษัทนำเที่ยวที่เสนอขายแพกเกจทัวร์แนวอนุรักษ์และผจญภัยให้มาออกบูธ ซึ่งสมาคมฯ จะเน้นการตกแต่งพื้นที่ เพื่อสร้างสีสันและจูงใจให้ผู้มาร่วมงาน แ และเตรียมเข้าร่วมกับสทน.จัดงานอีสานทราเวลมาร์ท เพื่อโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวภาคอีสาน

“เนื่องจากทีต้าเป็นสมาคมที่มีจำนวนสมาชิกยังไม่มาก แต่แนวโน้มตลาดมีการเติบโตสูง ดังนั้นที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์ หรือการจัดงานแฟร์เพียงสมาคมเดียวจึงไม่แรงพอที่นักท่องเที่ยวจะรับทราบและไม่เป็นที่น่าสนใจ แต่นับจากนี้ไปเราจะร่วมงานกับ สทน.เพื่อโปรโมตตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ”

จับมือสพท.อบรมไกด์รุ่นแรก

นางสุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า สมาคมฯได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดฝึกอบรมมัคคุเทศก์รุ่นแรก 30 คน เพื่อให้ความรู้ในเรื่องของการนำเที่ยวเชิงนิเวศน์ หรือ ผจญภัย

ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และผจญภัย มีตัวเลขการเติบโตสูง โดยตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปี 2549 โต 25% จากปกติปีก่อนโต 10% ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวคนไทยโต 10-15% จากปีก่อนโตไม่ถึง 10% ปีนี้ตั้งเป้าโตใกล้เคียงกับปีก่อน และสมาคมฯ ยังได้ร่วมกับสมาชิกทุกคนจัดเก็บข้อมูลสถิติตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการต่อปี ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยข้อมูลที่ได้เพื่อใช้กำหนดนโยบายและแนวทางการดำเนินงานต่อไป ตลอดจนสามารถส่งข้อมูลให้ ททท.เพื่อขอรับการสนับสนุนด้านต่างๆ

“ยอมรับว่าคนไทย ไม่นิยมท่องเที่ยวเพื่อการศึกษา และนิยมที่จะเดินทางท่องเที่ยวเอง ซึ่งจะได้ข้อมูลความรู้น้อยกว่า การท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ ซึ่งปัจจุบันหากลูกค้าต้องการเป็นส่วนตัว สามารถจัดเป็นกรุ๊ปขนาดเล็กได้ โดยลูกค้าคนไทยส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มบริษัท และสถาบันการศึกษา”

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตลาดหลัก ได้แก่ อเมริกา อังกฤษ และฮ่องกง ซึ่งมีแผนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มอเมริกาใต้และยุโรป โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว จะมีวันพักนานเฉลี่ย 3 สัปดาห์ ค่าใช้จ่ายต่อทริปคนละ 40,000บาท ขณะเดียวกันทัวร์ในกลุ่มเชิงนิเวศน์และผจญภัยจะมีการจับจ่ายระหว่างการเดินทางลงพื้นที่ ซึ่งตรงนี้จะเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างแท้จริง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.