|
ACAPมั่นใจปีนี้เติบโตอีก15-20%เบรกตั้งบ.ใหม่เน้นร่วมประมูลงาน
ผู้จัดการรายวัน(15 มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ACAP มั่นใจปีนี้เติบโตอีก 15-20% แม้จะลดลงจากปีก่อน แต่ฐานรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อโตจากปี ก่อน เบรกแผนการร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่เพื่อเข้าประมูลงานไม่เกิด แต่เปลี่ยนเป็นการจับมือกันเข้าประมูลงานแทน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเรียนรู้กันก่อนจะลงขันลุยงานใหญ่ในอนาคต พร้อมปรับแผน
นายเอนก ปิ่นวนิชย์กุล กรรมการ บริษัท เอแคป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด (มหาชน) (ACAP) เปิดเผยว่าปีนี้ บริษัทจะเติบ โตอีก 15-20% แม้ว่าอัตราการเติบโตจะเป็นการลดลงจากปีก่อนที่ตั้งเป้าไว้ที่ระดับ 20-30% แต่เปอร์เซ็นต์การเติบโตของรายได้ที่ ลดลงนั้น มาจากฐานที่ใหญ่หรือเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการบริหารพอร์ตสินเชื่อมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
" ปัจจุบัน พอร์ตสินเชื่อที่เราบริหารอยู่ที่ประมาณเกือบ 4 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นพอร์ตที่เราบริหารได้เท่ากับจำนวน พนักงานของเรา เพราะหากมากกว่านี้เราก็ต้องเพิ่มพนักงานเข้ามาอีก เป็นการเพิ่มต้นทุนไปในตัว เราขอเท่านี้พอ ล่าสุดเมื่อไตร มาส 3 ปี 49 ACAP เพิ่งได้งานใหม่มาเพิ่มพอร์ตวงเงินประมาณ 4-5 พันล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตของบริษัทอยู่ในระดับที่รับได้ " นายเอนกกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ ACAP จะหันมาเน้นงานด้านวาณิชธนกิจ หรือ IB เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สัดส่วนใกล้เคียงกับ งานบริหารหนี้ เป็นการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินงานของบริษัทด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทเน้นให้บริการด้านบริหารหนี้ เป็นอันดับหนึ่ง ที่สำคัญงานด้านวาณิชธนกิจนั้น จะเป็นงานเน้นร่วมลงทุน งานปรับโครงสร้างหนี้และ M&E ขณะที่งานด้านที่ ปรึกษาการเงินให้กับบริษัทที่ต้องการระดมทุนด้วยการขายหุ้น IPO นั้น เป็นงานที่บริษัทไม่ถนัด และผลตอบแทนจากงานดังกล่าว มีน้อย เพราะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอื่น ๆ สูง แต่ ACAP ก็ยังมีงานเป็นที่ปรึกษาการเงินให้กับบริษัท 2 แห่ง ที่อยู่ระหว่างดำเนิน การเพื่อขายหุ้น IPO ให้กับประชาชนทั่วไป
สำหรับผลงานไตรมาส 4 ปี 49 ที่กำลังปิดงบการเงินลงแล้วนั้น กำไรไม่เพิ่มจากงวดเดียวกันของปี 48 แต่ก็ไม่ลดลง ขณะที่รายได้ดีขึ้นแต่ตัวเลขที่ชัดเจนต้องรอแจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อน อันเป็นผลจากดีลที่บริษัทบริหารหนี้และงานวาณิชธนกิจที่ บริษัทได้รับรู้รายได้เข้ามาเพิ่ม และงานด้านวานิชธนกิจ ACAP ก็ได้งานเพิ่มเข้ามาอีก 3-4 ดีลแล้ว
นายเอนกกล่าวถึงพันธมิตรที่เจรจาเพื่อหาทางร่วมทุนในการเข้าประมูลงานเข้ามาบริหารว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งจากก่อนหน้าที่จะร่วมลงขันเพื่อจัดตั้งบริษัทใหม่ด้วยเงินประมาณ 300 ล้านบาทนั้น จะไม่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากบริษัทได้ปรับแผน ใหม่ ด้วยการจะหันมาใช้เงินเพื่อลงขันในการที่จะเข้าประมูลงานแต่ละงานและเป็นการสร้างความเชื่อถือให้กับพันธมิตร
" และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่จะมาลงขันกับเราก่อน เหมือนเป็นการศึกษาและให้เขาเห็น ศักยภาพของเราว่าเราบริหารงานกันแบบไหน และผลตอบแทนเป็นอย่างไร ก่อนที่จะเข้ามาร่วมงานกันจริง และภาวะปัจจุบันก็ทำ ลักษณะนี้ไปก่อนดีกว่า แต่อนาคตหากมีสิ่งที่เราต้องลุยงานแบบงานใหญ่ เราค่อยมาว่ากันอีกทีว่าดีลที่เราเคยคุยกันมาก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นผลออกมา แต่ผมเชื่อว่าปีนี้ไม่น่าจะเป็นรูปแบบของการตั้งบริษัทใหม่ น่าจะเป็นลักษณะของการร่วมกันเพื่อเข้าประมูล งานแล้วมาร่วมบริหารมากกว่า " นายเอนกกล่าว
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรทั้ง 3 รายที่เคยดีลงานกันมาแล้วนั้น ก็ยังจะร่วมและช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจ และแม้การ ร่วมทุนตั้งบริษัทใหม่จะไม่เกิดขึ้น แต่บริษัทก็ยังมั่นใจถึงตัวเลขรายได้ของบริษัทที่จะเติบโตจากปีที่แล้วแน่นอน เนื่องจากบริษัท ยังมีสินเชื่อในระบบอีกมาก ที่จะสามารถเข้าไปประมูลเพื่อนำมาบริหาร
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหาร ACAP เคยกล่าวไว้ว่าผลงานปี 50 จะเติบโตได้มากขึ้น หลังการร่วมทุนกับพันธมิตรเกิดขึ้น เพราะ เชื่อว่าจะสามารถรับงานและมีงานมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ของบริษัทสูงขึ้น ส่วนการร่วมทุนกับพันธมิตรแม้จะไม่ใช่การตั้งบริษัทใหม่ แต่การที่มีพันธมิตรมาหนุนต่อทำงาน และจะส่งผลตอบแทนการลงทุนให้เพิ่มขึ้นถึง 20%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|