รับสร้างบ้านปี’50 แข่งเดือดปรับกลยุทธ์“หั่นราคา-ปรับดีไซน์”


ผู้จัดการรายสัปดาห์(8 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดรับสร้างบ้านปีหมูทองแข่งเดือด ผู้ประกอบการหมดทางสู้ แห่หั่นราคา รักษามาร์เก็ตแชร์ เตือนไม่เร่งพัฒนาคุณภาพ-บริการ มีสิทิ์ถูกลบชื่อจากทำเนียบ

ตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส 4 เริ่มกลับสู่ภาวะชะลอตัวเหมือนในช่วงครึ่งปีแรก แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3 ตลาดเริ่มฟื้นตัวและกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ และความผันผวนทางการเมือง

สถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้การแข่งขันกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง โดยผู้ประกอบการหันมาใช้วิธีการเดิม เพื่อแย่งชิงยอดขาย นั่น คือ ใช้สงครามราคา หรือตัดราคา ปรากฏการณ์ดังกล่าว ไม่ได้เห็นมานานในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา

จากกำลังซื้อที่ชะลอตัวส่งผลให้มูลค่าตลาดรับสร้างบ้านปี 2549 มีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือลดลงราว 5 – 10 %

แม้ว่าตลาดจะลดลงแต่กลับมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในระบบมีผู้ประกอบการราว200 ราย ในขณะที่ปี 2548 มีเพียง 140 รายเศษเท่านั้น

จากการสำรวจยอดขายของผู้ประกอบการรายเดิม พบว่ามียอดขายลดลงจากปี 2548 เพราะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งตลาด ดังนั้น แนวโน้มปี 2550 มีโอกาสที่การแข่งขันจะรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัวโดยเร็ว เพื่อเตรียมรับกับการแข่งขันและไม่ถูกลบชื่อจากทำเนียบรับสร้างบ้าน

ปี 2549 แม้ว่าตลาดรับสร้างบ้านจะมีมูลค่าการเติบโตไม่เป็นไปดังที่คาดการณ์ไว้ แต่ภาพรวมบ้านสร้างเองกลับมีสถิติเพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าปริมาณบ้านสร้างเองตลอดปี 2549 ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2548 ประมาณ 15% หรือมีจำนวน 28,000 – 29,000หน่วยเศษ คิดเป็นมูลค่า 40,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากผู้บริโภคหันมานิยมเลือกสร้างบ้านเองมากขึ้น เพราะมีปัจจัยสนับสนุนให้สร้างบ้านเองง่ายขึ้น เช่น มีแบบบ้านแจกฟรี มีสถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อ เป็นต้น รวมทั้งความต้องการสร้างบ้านตามรสนิยมที่แตกต่าง

อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงเลือกปลูกสร้างกับผู้รับเหมารายย่อย หรือจัดหาวัสดุแล้วว่าจ้างเหมาเฉพาะค่าแรงงาน มากกว่าการจะเลือกว่าจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน เพราะเข้าใจว่าสามารถปลูกสร้างได้ในราคาที่ต่ำกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็ขาดความเข้าใจว่าคุณภาพบ้านและความคุ้มค่าในระยะยาว ของการลงทุนสร้างบ้านว่าจะต้องคำนึงถึงสิ่งใดเป็นสำคัญบ้าง อาทิ การเลือกใช้วัสดุคุณภาพ บริการก่อนและหลังการขาย แบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย ที่มาของต้นทุนและราคาค่าก่อสร้างที่แท้จริง เป็นต้น

แนะยกระดับรับสร้างบ้าน

สำหรับในปี 2550 คาดว่าภาพรวมของมูลค่าตลาดรับสร้างบ้าน จะทรงตัวหรือชะลอตัว แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกหลายด้านมาช่วยหนุน แต่ภาวะทางการเมืองที่ยังขาดความชัดเจนและส่งผลถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคจะชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป เพื่อรอดูสถานการณ์ที่แน่นอน หากรัฐบาลไม่เร่งสร้างความเชื่อมั่น ด้วยการคืนอำนาจการปกครองและผลักดันให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ธุรกิจรับสร้างบ้านและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง คงหนีไม่พ้นผลกระทบที่ตามมาอย่างแน่นอน

แนวทางการช่วยยกระดับธุรกิจรับสร้างบ้าน ทางคณะกรรมการสมาคมฯจะกำหนดนโยบาย และแนวทางที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการให้พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถ ทั้งในแง่การยอมรับของผู้บริโภค การเร่งสร้างมาตรฐานคุณภาพสินค้า การยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และการร่วมกันพัฒนาตลาดรวมรับสร้างบ้านให้เติบโตเพิ่มขึ้น

ผลการสำรวจและวิจัยพฤติกรรมพบว่า 89 % ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าอันดับแรก และ 87 % ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังและเน้นความสำคัญคือ การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ซึ่งหากใช้การแข่งขันเรื่องราคาหรือเน้นรับงานปริมาณมากๆ อาจจะพบกับปัญหาผู้บริโภคไม่ยอมรับหรือไม่พอใจสินค้าและบริการ และอาจส่งผลเสียในระยะยาวทั้งต่อองค์กรและภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้าน แต่หากว่าสามารถปรับลดราคาลงมาได้ด้วยวิธีบริหารต้นทุนให้ต่ำลง โดยไม่กระทบกับคุณภาพของสินค้าและบริการ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค

สิทธิพร สุวรรณสุต เลขาธิการสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า จากยอดขายที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังที่ผู้ประกอบการแต่ละรายคาดหวังไว้ ส่งผลให้ในช่วงท้ายปี 2549 เริ่มเห็นการแข่งขันตัดราคากันมากขึ้น และมีแนวโน้มต่อเนื่องถึงปี 2550 หากภาวะกำลังซื้อยังการชะลอตัวต่อเนื่องต่อไป ทั้งนี้โดยรวมแล้วราคาที่ลดต่ำลงมากๆ อาจส่งผลไปถึงคุณภาพสินค้าและบริการที่ตามมา โดยเฉพาะกลุ่มราคาบ้าน 1 - 5 ล้านบาท ซึ่งนับว่าไม่เป็นเรื่องที่ดีนัก หากรูปแบบการแข่งขันเน้นราคาต่ำและลดคุณภาพลง เพราะจะส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านดังที่สมาคมฯวางไว้

สำหรับระดับราคาบ้านตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป การแข่งขันจะเน้นคุณภาพสินค้าและดีไซน์รูปแบบบ้าน เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญและหนีการซื้อบ้านจัดสรรมาเลือกสร้างบ้านเอง เพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพและดีไซน์ที่แตกต่าง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.