ธุรกิจโรงแรมบูม!...เชนไทย-เทศ ปรับทัพรับปีหมูทอง


ผู้จัดการรายสัปดาห์(1 มกราคม 2550)



กลับสู่หน้าหลัก

ธุรกิจโรงแรมในช่วงปีที่ผ่านมานับว่ามีการแข่งขันกันมากขึ้นโดยเฉพาะเชนต่างชาติที่บุกเข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยขยายฐานเครือข่ายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะหัวเมืองท่องเที่ยวหลักที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไป

ขณะเดียวกันการเดินทางของนักท่องเที่ยวเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญของการขยายเชนเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในปี 2548 การเดินทางในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี 2547 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 27 ขณะที่การเดินทางของตลาดจีนกับอินเดียอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น อนาคตอันใกล้การเติบโตด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะส่งผลอย่างมากของการเติบโตโดยรวมทั่วโลก

แน่นอนกลุ่มตลาดจึงมีความหลากหลายเพิ่มขึ้น การปรับตัวเพื่อรองรับกระแสการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงเริ่มถูกนำมาใช้กันมากขึ้นเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่เชนโรงแรมไทยอย่างดุสิต ธานีที่ในช่วงปีที่แล้วกระโดดลงมาเล่นตลาดโรงแรมชั้นประหยัดเปิด “ดีทู”ออกมารองรับตลาด

ขณะที่เชนโรงแรมจากต่างชาติอย่าง “แอคคอร์”ในปี 2549 ที่รับบริหารอย่างเดียวกว่า 15 แห่งในประเทศไทย ดูจะสวนกระแสเศรษฐกิจมากกว่าใครเพราะยอดพุ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 8 โดยเฉพาะที่ภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักถึง 37% ทำให้เชนแอคคอร์ได้ใจประกาศจุดยืนภายในอีก 2 ปีข้างหน้าคือปี 2550 จะมีโรงแรมในเครือข่ายสูงถึง 40 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันแอคคอร์มีโรงแรมในเครือที่รับบริหารสำหรับประเทศไทยอยู่ในมือถึง 25 แห่ง และกำลังจะเปิดให้บริการใหม่เพิ่มอีกจำนวน 3 แห่ง คือในเมืองพัทยา,ชุมพร และกรุงเทพฯ

สอดคล้องกับคำพูดของ มร.ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก กรรมการผู้จัดการ แอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก ที่บอกว่า จะมีการขยายแบรนด์ในทุกระดับดาว ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ โซฟิเทล โรงแรมระดับ 5 ดาว,แกรนด์ เมอร์เคียว 4 ดาวครึ่ง,โนโวเทล 4 ดาว,เมอร์เคียว 3 ดาวครึ่ง และอีบิส 3 ดาว จึงไม่แปลกที่กลุ่มเชนแอคคอร์จะเพิ่มเครือข่ายมากกว่า 1 เท่าตัวใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น....

เปิดตัวแบรนด์ใหม่สไตล์รีสอร์ต

การบริหารโรงแรมใหม่ในสำหรับปีนี้ มร.ไมเคิล กล่าวว่า มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ออลซีซั่นส์” เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวในรูปแบบสไตล์รีสอร์ท และถือเป็นการเข้ามาครั้งแรกของแบรนด์นี้สำหรับประเทศไทย และเป็นแห่งที่สองในแถบภูมิภาคเอเชีย

“คาดว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวระดับกลางเช่นเดียวกันอีบิส”มร.ไมเคิล กล่าว

กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ ออล ซีซั่นส์ นับว่าเป็นแบรนด์ที่ 6 ของกลุ่มแอคคอร์ที่ถูกส่งมาวางตำแหน่งทางการตลาดเดียวกับอีบีส คือระดับ 3 ดาวแต่จะแตกต่างที่โลเคชั่นของโรงแรม โดยอิบิสจะเน้นกลุ่มโรงแรมในเมือง และมีราคาประหยัด

ขณะที่ ออล ซี ซั่นส์จะถูกวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น โรงแรมสไตล์รีสอร์ท ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยจะเน้นไปที่โลเคชั่นหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อย่างเช่น พัทยา ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้

“ด้วยศักยภาพที่มีเครือข่ายบริหารโรงแรมไปทั่วโลก โดยเฉพาะแถบภูมิภาคเอเชีย ทำให้ธุรกิจของแอคคอร์ในประเทศไทยกว่า 70%มาจากนักเดินทางในทวีปเอเชียด้วยกัน ดังนั้นแบรนด์ ออล ซีซั่นส์น่าจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการคนไทยที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทได้เช่นกัน”มร.ไมเคิล กล่าว

จากตัวเลขการเดินทางในแถบเอเชียที่เติบโตสูงขนาดนี้ น่าจะส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจโรงแรมอิบิสราคาประหยัด ออลซีซั่น เมอร์เคียวและโนโวเทลจะมีอัตราเติบโตรวดเร็วกว่าแบรนด์โซฟิเทล ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเดินทางที่มาจากประเทศห่างไกล อาทิ ยุโรป อเมริกา

แผนรุกตลาดเอเชีย

สนามบินสุวรรณภูมิที่จะถูกใช้เป็นศูนย์กลางการจราจรทางอากาศของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามและจีนตอนใต้...การเลือกที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในสนามบินจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ถูกเชนแอคคอร์วางยุทธศาสตร์ไว้

โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต คือโรงแรมแห่งที่ 2 ในจำนวนโรงแรมโนโวเทลทั้ง 3 แห่งที่เปิดให้บริการภายในบริเวณสนามบิน

“แอคคอร์เปิดให้บริการโรงแรมโนโวเทล ซิตี้เกท ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติฮ่องกงเพียง 5 นาท นอกจากนี้การเปิดตัวโรงแรม บันยัน กวางโจว ในปลายปี 2549 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีโรงแรมถึง 3 แห่งในสนามบินและเป็นโรงแรมแฟลกชิพของแอคคอร์”มร.ไมเคิล กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมีโรงแรมในบริเวณสนามบินให้ครอบคลุมภูมิภาค

การเปิดให้บริการของสนามกอล์ฟโภคีธรา คันทรี่ กลับ นครวัต เป็นเสมือนหนึ่งการปรับโฉมของการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ถึงแม้ว่าสนามกอล์ฟจะตั้งอยู่ในประเทศที่การเมืองผันผวนอยู่ตลอดเวลาอย่างกัมพูชาก็ตาม แต่การบริหารจัดการหรือมุมมองทางการตลาดที่เชนแอคคอร์วางไว้กลับไม่เป็นเช่นนั้น

ศักยภาพและตลาดการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวที่มีอยู่ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

มร.ไมเคิล บอกว่า โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีอสอร์ทก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากกรที่มีสนามกอล์ฟที่ดีหลายแห่ง เช่นเดียวกับเมืองพัทยาที่เติบโตเพราะส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนกอล์ฟ

“ในภูมิภาคนี้แอคคอร์มีรีสอร์ทหลายแห่งที่ให้บริการสนามกอล์ฟด้วย และโภคีธรา คันทรี่ คลับก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่จะใช้มาตรฐานโซฟิเทลเข้าไปบริหารจัดการ และคาดว่าการทำตลาดคงไม่ยากนักเพราะมีนักเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน”มร.ไมเคิลกล่าว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.