|
Jim Thompson's Back!!
นิตยสารผู้จัดการ( มกราคม 2550)
กลับสู่หน้าหลัก
ครั้งแรกที่เห็นกำหนดการที่จั่วหัวว่า "Jim Thompson กลับมาแล้ว" โดยมีนาวิน ลาวัลย์ชัยกุล เป็นผู้นำมาส่งที่บ้านไทย จิม ทอมป์สัน ในซอยเกษมสันต์ 2 ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมีทั้งตื่นเต้นดีใจระคนปนกับความไม่แน่ใจ พร้อมคำถามคาใจว่า "จิม ทอมป์สัน หายไปทำอะไรที่ไหนมาเกือบ 40 ปี?"
"ผู้จัดการ" จึงออกเดินทางไปยังบ้านไทยจิม ทอมป์สัน อย่างรวดเร็ว
เมื่อก้าวขึ้นไปยังชั้น 2 สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือ "ราชาไหมไทย" ที่ดูแก่ขึ้นสมกับวัย 100 ปี กับนกแขกเต้าคู่ใจ นั่งยิ้มแย้มดีใจที่ได้กลับมายังบ้านไทยหลังนี้และได้กลับมากรุงเทพฯ หลังจากไปผจญภัยแล้วหายตัวอย่างไร้ร่องรอยในป่าคาเมรอน ไฮแลนด์ ประเทศมาเลเซีย มาตั้งแต่ปี 2510
ทว่า มร.จิมที่เห็นเป็นเพียงหุ่นขี้ผึ้งขนาดเท่าตัวจริง ที่มีนาวิน ลาวัลย์ชัยกุล ศิลปินที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นผู้ปั้นแต่งขึ้นอย่างบรรจงและใส่ใจ ใช้เวลานานร่วม 6 เดือน ไม่ว่าจะเป็นชุดที่ใส่หรือนาฬิกาที่ข้อมือหุ่น ล้วนแต่เป็นข้อมูลจริงที่นาวินได้มาจากการสัมภาษณ์คนสนิทของจิม ทอมป์สัน
หุ่นขี้ผึ้งนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนิทรรศการศิลปะสื่อผสม "หลงกรุง (Lost in the city)" ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปี หาก มร.จิมยังมีชีวิตอยู่ เพื่อเป็นการรำลึกถึงเขาในฐานะผู้มีส่วนฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตผ้าไหมของไทย และทำให้ผ้าไหมไทยเป็นที่ชื่นชมไปทั่วโลก
นิทรรศการฯ นี้เป็นการยกเอาถนนสายหนึ่งที่ประปรายด้วยขยะปฏิกูลมาจำลองไว้ โดยนาวินตั้งสมมุติให้เป็นซอย "หลงกรุง 21" ภายใต้บรรยากาศของกรุงเทพฯ ในยุค 40 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นโรงหนังรุ่นเก่า ป้ายโปสเตอร์ขายหนังยุคเก่า หรือรถขายสินค้ายุคเก่า ผสมกับภาพวาดฝาผนังที่สะท้อนเหตุการณ์กรุงเทพฯ ยุคปัจจุบัน
ภาพม็อบเสื้อเหลือง ภาพโสเภณีกระเทย ภาพศูนย์การค้าสยามพารากอน ภาพช้างในเมือง ภาพดอนเมืองปิดดำเนินการ ภาพ รถเมล์ทับเด็ก ภาพรถติดยาวเหยียด ฯลฯ ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นอารมณ์ขันเสียดแทงที่อาจทำให้ชาวกรุงเทพฯ หลายคนขำไม่ออก
จิตรกรรมฝาผนังที่สอดแทรกทัศนคติของนาวินที่มีต่อความเปลี่ยนแปลง (เชิงลบ) ของกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่ศิลปินจินตนาการถึงความรู้สึกของราชาไหมไทยคนนี้ ถ้าเขากลับมากรุงเทพฯ ณ วันนี้ นั่นคือความตกใจ เสียใจ และเสียดายบรรยากาศดีๆ แบบเดิมๆ ของกรุงเทพฯ ที่หายไปแล้ว เพราะความเจริญทางโครงสร้าง อันเป็นความรู้สึกที่เขาคาดว่าคงไม่ต่างจากตัวเอง เพราะนาวินเองก็ใช้ชีวิตอยู่เมืองนอก นานๆ จึงกลับมาเมืองไทย
ภายในนิทรรศการนี้ยังมีภาพยนตร์แอนิเมชั่นและการ์ตูนเล่มละบาท ที่เล่าเกี่ยวกับการเดินทางของ มร.จิม ในกรุงเทพฯ ให้ผู้ชมได้สนุกกับจินตนาการของศิลปินกันต่อ รวมทั้งยังมีหุ่นกระบอกแสดงเรื่องขโมยขึ้นบ้านของ มร.จิม ซึ่งเปรียบได้กับกรณีการเวนคืนที่ดินชุมชนบ้านครัว
สุดท้าย ผู้ชมยังสามารถมีส่วนร่วมกับนิทรรศการครั้งนี้ได้ ด้วยการเขียนข้อความถึง มร.จิม หรือเขียนถึงสิ่งที่หายไป หรือจะเขียนถึงสิ่งใหม่ที่พบในกรุงเทพฯ รวมทั้งยังสามารถฝากข้อความถึง มร.จิมผ่านตู้โทรศัพท์ที่ยกมาตั้งไว้ในงานได้อีกด้วย
นิทรรศการศิลปะสื่อผสมร่วมสมัยที่ให้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน และยังกระตุกต่อมคิดของผู้ชมครั้งนี้ เปิดให้เข้าชมฟรีถึง 22 มีนาคมนี้ตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น.
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|