วันไทยฯเดินหน้ายกเครื่อง“ยำยำ”ดันช้างน้อย-จัมโบ้เรือธงเพิ่มแชร์


ผู้จัดการรายวัน(20 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร ประกาศแนวรบปีหน้า อัดฉีด 300 ล้านบาท โฟกัสยำยำ จัมโบ้ – ช้างน้อยเรือธง เปิดศึกโค้งสุดท้ายรีลอนช์ ยำยำ จัมโบ้ ครั้งแรกรอบ 30 ปี ยกเครื่องภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ดึงเป้ย-ปานวาดตอกย้ำความเซ็กซี่สื่อคอนเซปต์ “เผ็ดเปรี้ยว รสชาติจัดจ้าน” ต่อยอดภาพลักษณ์เจ้าตลาดบะหมี่ฯ ซองโต ปีหน้ากวาดแชร์เพิ่มจาก 22% เป็น 23.5%

นายซาโตรุ นาคามูระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วันไทยอุตสาหกรรมการอาหาร จำกัด ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำ เปิดเผยว่า นโยบายการทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีหน้านี้ บริษัทจะเน้นสินค้า 2 กลุ่ม ได้แก่ ยำยำ จัมโบ้ และยำยำช้างน้อย จากปัจจุบันมีสินค้า 5 กลุ่ม ได้แก่ ยำยำ มิกซ์ทูแมกซ์, ยำยำ พรีเมียมโบลว์ และยำยำ คัพ โดยได้ทุ่มงบการตลาด 300 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีนี้ ล่าสุดในช่วงโค้งสุดท้าย บริษัทได้รีลอนช์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยำยำ ตระกูลต้มยำ ครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยปรับปรุงภาพลักษณ์และบุคลิกของแบรนด์ให้มีความเซ็กซี่ เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซปต์”เผ็ดเปรี้ยว รสชาติจัดจ้าน”

ทั้งนี้เป็นเพราะจากการศึกษาพบว่า ภาพลักษณ์ของแบรนด์ยำยำเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองใหญ่หรือให้ในปริมาณที่มากกว่าบะหมี่แบรนด์อื่นๆ แต่บริษัทต้องการตอกย้ำในเรื่องของรสชาติด้วย โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้บริษัทยังได้ปรับปรุงรสชาติใหม่ ด้วยเครื่องปรุงต้มยำที่สดใหม่ อีกทั้งยังได้ดึง “เป้ย-ปานวาด” ขึ้นแท่นเป็นพรีเซ็นเตอร์ หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้ใช้พรีเซ็นเตอร์ อาทิ พลอย-ไลลา เชียร์-ฑิฆัมพร และเจน-ชมพูนุช พร้อมกันนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นและกลุ่มคนวัยเริ่มทำงาน

การที่บริษัทเลือกปรับยำยำ ตระกูลต้มยำ โดยเปิดตัวด้วยกัน 3 รสชาติ ได้แก่ รสต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น และรสต้มยำหมูสับ เป็นเพราะตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 หมื่นล้านบาท รสชาติต้มยำเป็นตลาดใหญ่ที่สุด โดยมีสัดส่วน 50% ของตลาดรวม ซึ่งบริษัทมีส่วนแบ่ง 5% และการปรับในครั้งนี้ตั้งเป้ายอดขายโต 15% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนการเลือกเป้ย –ปานวาด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะจากการวิจัยกลุ่มเป้าหมาย วัยรุ่น นักศึกษา ภาพลักษณ์ที่สื่อถึงความทันสมัย เซ็กซี่ ร้อนแรง พรีเซ็นเตอร์คนนี้สะท้อนผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด

สำหรับการรีลอนช์ยำยำตระกูลต้มยำ บริษัทใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท แบ่งเป็น งบอะโบฟเดอะไลน์ 70 % โดยได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาด้วยกัน 3 เรื่อง เริ่มออกอากาศวันที่ 20 ธันวาคม นี้ ส่วนงบบีโลว์เดอะไลน์ 30 % อาทิ การแจกผลิตภัณฑ์และจัดบูธชิมตามสถาบันศึกษา โรงเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังจับมือร่วมกับพันธมิตร เช่น บัตรเครดิตและปั๊มน้ำมัน จัดโปรโมชันเพื่อกระจายสินค้าสู่สินค้าผู้บริโภคทั่วถึง ทั้งนี้หลังจากการรีลอนช์คาดว่าปีหน้านี้ ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของยำยำ จัมโบ้ เพิ่มเป็น 23.5% จากปัจจุบันมี 22 % แบ่งเป็น ยำยำ 18% ช้างน้อย 4%

ระบุเศรษฐกิจพ่นพิษตลาดโต5%ปีหน้า

นายนาคามูระ กล่าวต่อถึงภาพรวมตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีอัตราการเติบโต 8 % ทั้งนี้เป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศยังไม่ฟื้นตัว อีกทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคยังได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยจึงมีความระมัดระวัง ขณะที่ปีหน้านี้คาดว่าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะมีอัตราการเติบโต 5 % ทำให้ตลาดจะมีการแข่งขันอย่างรุนแรง โดยบริษัทได้เตรียมเปิดตัวรสชาติใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร

สำหรับผลประกอบการปีหน้าบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10 % จากปีนี้ (รอบบัญชีเดือนเมษายน 49 – มีนาคม 50) บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการส่งออก 20% และภายในประเทศ 80% ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดในปีนี้ยำยำมี 22 % เพิ่มขึ้น 3-4 % โดยมาจากการพัฒนารสยำยำ จัมโบ้ หมูสับ ซึ่งได้ปรับปรุงรสชาติไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นมากกว่า 15% ซึ่งเป็นการเติบโตที่มากกว่าตลาดโดยรวมโต


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.