|
GL แจงการทำสัญญาขายหุ้นของรายใหญ่ "ขรรค์ชัย" ซื้อคืนได้หากปรับหนี้ไม่เสร็จ
ผู้จัดการรายวัน(19 ธันวาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
GL แจ้งสัญญาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่กับ บริษัท เอ.พี.เอฟ. แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยชี้ชัดว่า "นายขรรค์ชัย บุนปาน" มีสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทคืนจากผู้ซื้อได้ ภายใต้สัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้น (CallOption) หากบริษัทไม่สามารถที่จะปรับโครงสร้างหนี้กับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2550 โดยมียอดหนี้ 601.95 ย้ำบริษัทไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร
นายสามารถ จิระดำรง ประธานกรรมการ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) (GL) แจ้งว่า บริษัทได้รับแจ้งจาก นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์, นายขรรค์ชัย บุนปาน, คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา, ม.ร.ว.ชาญวุฒิ วรวรรณ, นางสันทนา เนตรประภา, นางกิ่งเพ็ชร วรพิพัฒน์ และนางพิมพ์กานต์ รวิบรรเจิดกุล (กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่) ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2549 ว่า (1) กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท กับบริษัท เอ.พี.เอฟ. แมเนจเม้นท์ จำกัด (ผู้ซื้อ) (2) นายขรรค์ชัย บุนปาน ได้ลงนามในสัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้นกับผู้ซื้อ และ (3) นายขรรค์ชัย บุนปาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) และผู้ซื้อได้เข้าทำบันทึกข้อตกลงการแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนเก็บรักษาทรัพย์สิน (Escrow Agent) นั้น บริษัทได้ทำการสอบถามไปยังกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า
1. บริษัท เอ.พี.เอฟ. แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ซื้อหุ้นของบริษัทจากกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เป็นบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยโดยมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนในบริษัทอื่น และมีบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัดเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 99.99% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด และปัจจุบันบริษัท เอ.พี.เอฟ. โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) โดยถือหุ้นอยู่ 132,565,419 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.53 ของทุนชำระแล้ว (อ้างอิงจากข้อมูลที่เปิดเผยในเว็บไซด์ของ บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 18 ธันวาคม 2549)
2. นายขรรค์ชัย บุนปาน มีสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัทคืนจากผู้ซื้อได้ ภายใต้สัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้น (CallOption) หากบริษัทไม่สามารถที่จะปรับโครงสร้างหนี้ทางการเงินกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ได้ภายในวันที่ 15 มีนาคม 2550 ตามที่ได้ระบุในสัญญาให้สิทธิในการซื้อหุ้น (Call Option) ฉบับลงวันที่ 15 ธันวาคม 2549 ยอดหนี้ของบริษัทที่มีต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ณ วันที่ 30 กันยายน 2549 มีมูลค่าประมาณ 601.947 ล้านบาท โดยนายขรรค์ชัยจะต้องใช้สิทธิในการซื้อหุ้นภายใน 30 วันทำการนับแต่วันที่ 15 มีนาคม 2550
3. ทั้งนี้ บริษัทขอแจ้งว่า ณ ขณะนี้บริษัทไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของบริษัท นโยบายในการดำเนินงานของบริษัท ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงกรรมการและพนักงานของบริษัทแต่อย่างใด หากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทจะดำเนินการแจ้งข้อมูลให้นักลงทุนทราบโดยทั่วกัน
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|