ซีมิโก้เปิดทางพันธมิตรร่วมธุรกิจหวังดึงทุนนอกรับมือเปิดเสรีการเงิน


ผู้จัดการรายวัน(15 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

บล.ซีมิโก้ เปิดทางดึงพันธมิตรต่างประเทศร่วมทำธุรกิจรองรับการเปิดเสรีการเงินในอนาคต พร้อมเปิด 2 บริษัทใหม่ปีหน้า "เดลิเวอร์ทีฟ-บลจ." หวังกระจายรายได้ ขณะที่ตั้งเป้ามาร์เกตแชร์เพิ่มจาก 3.5% เป็น 4% ส่วนมาร์เกตแชร์เทรดหุ้นออนไลน์เพิ่มจาก 5.5% เป็น 10% หลังพัฒนาระบบซื้อขายใหม่ ZNET ชูฟังก์ชั่นที่ตอบสนองความต้องการนักลงทุนเต็มที่คาดเพิ่มจำนวนนักลงทุนได้ 30-40%

นายเรืองวิทย์ ดุษฎีสุรพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO กล่าวว่า บริษัทพร้อมเปิดทางในเจรจาหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจรองรับการเปิดเสรีทางการเงิน ทั้งในส่วนของใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (ไลเซนต์) และเสรีค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (คอมมิชชัน) โดยที่ผ่านมาได้บริษัทได้พูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรต่างชาติแล้วประมาณ 3-4 ราย

"ขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการตกลงในรายละเอียดที่ชัดเจนว่า จะมีการเข้ามาร่วมทุนหรือร่วมทำธุรกิจในรูปแบบใด แต่สิ่งที่บริษัทต้องการจากการดึงพันธมิตรเข้ามา คือ การเพิ่มช่องทางในการเพิ่มสัดส่วนของนักลงทุนต่างประเทศให้มากขึ้น"

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมที่จะหาช่องทางในการเพิ่มรายได้ในส่วนต่างๆ มากขึ้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากรายได้หลักจากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และรายได้จากงานด้านวาณิชธนกิจ โดยปัจจุบันสัดส่วนรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ประมาณ 75% และรายได้จากงานวาณิชธนกิจประมาณ 25% ซึ่งบริษัทหลังว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนเป็นรายได้จากนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 35-40% รายได้จากงานวาณิชธนกิจ 35-40% ส่วนที่เหลือเป็นงานด้านอื่นๆ

"เราถือว่าเราเป็นโบรกเกอร์คนไทยที่มีความเป็นอิสระ ซึ่งยอมรับการที่บริษัทบางแห่งมีแบงก์เป็นผู้ถือหุ้น หรือมีนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ถือใหญ่ได้เปรียบในเรื่องการแข่งขัน แต่เราได้เตรียมความพร้อมมาโดยตลอด และพยายามสร้างจุดแข็งของบริษัทขึ้นมาเอง ซึ่งอาจจะมีการดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมทุนธุรกิจ แต่ยังไม่ได้สรุปในตอนนี้ โดยสิ่งที่เราต้องการจากพันธมิตรทางธุรกิจ คือ การเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในส่วนของนักลงทุนต่างชาติ" นายเรืองวิทย์ กล่าว

สำหรับช่องทางในการเพิ่มรายได้ของบริษัทในปีหน้าบริษัทเตรียมจะเปิดบริษัทใหม่ 2 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทซีมิโก้ เดลิเวอร์ทีฟ เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้บริการสินค้าประเภทตรสารหนี้นอกเหนือจากสินค้าจากตลาดอนุพันธ์ (TFEX) โดยจะมีการออกตราสารหนี้ตามความต้องการของนักลงทุน ซึ่งจะซื้อขายนอกตลาด (OTC) โดยบริษัทดังกล่าวจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศ และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค. ปีหน้า

นอกจากนี้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีมิโก้ ซึ่งบล.ซีมิโก้ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% โดยขณะนี้ได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้วคาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาส1/50

นายเรืองวิทย์ กล่าวอีกว่า บริษัทตั้งเป้าในส่วนของส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เกตแชร์ ในปีหน้าอยู่ที่ 4.5% จากปีนี้ซึ่งอยู่ทีประมาณ 4% ขณะที่มาร์เกตแชร์การซื้อขายหุ้นผ่านระบบอินเตอร์เน็ตอยู่ที่ 10% จากปัจจุบันอยู่ที่ 5.5% โดยปัจจุบันบริษัทมีนักลงทุนที่ซื้อขายอย่างสม่ำเสมอประมาณ 5 หมื่นบัญชี และซื้อขายอย่างสม่ำเสมอผ่านระบบอินเตอร์ประมาณ 10,000 บัญชี

ทั้งนี้ งานทางด้านวาณิชธนกิจของบริษัทในปีหน้าขณะนี้บริษัทมีงานที่อยู่ในมือประมาณ 20 ดีล ซึ่งประกอบไปด้วยงานทางด้านการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ งานในการควบรวมกิจการ ฯลฯ

ในส่วนของการสร้างฐานนักลงทุนใหม่ๆของบริษัท บริษัทได้พัฒนาระบบการซื้อขายหุ้นออนไลน์โดยได้ลงทุนประมาณ 25 ล้านบาทในการพัฒนาระบบที่เรียกว่า ZNET โดยเพิ่มควาพร้อมและฟังก์ชั่นต่างๆที่จะตอบสนองต่อความต้องการให้นักลงทุนมากขึ้นกว่าระบบในปัจจุบัน โดยสิ่งที่ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น การเพิ่มระบบกรองข้อมูล (Data Filtering) เพื่อเพิ่มความเร็วในส่วนของการรับข้อมูลและการส่งคำสั่งต่างๆ


นอกจากนี้ ยังมีโปรแกรมเพื่อการตั้งระบบเตือนในกรณีที่ราคาอยู่ในระดับที่นักลงทุนกำหนดไว้ รวมถึงข้อมูลข่าวสารทางการเงินที่นักลงทุนซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัทสามารถตรวจสอบได้ทันที และโปรแกรมที่เพิ่มความสะดวกสบายในการส่งคำสั่ง ยากเลิกคำสั่ง ตรวจสอบคำสั่งซื้อขาย เป็นต้น โดยบริษัทหวังว่าการพัฒนาระบบในครั้งนี้จะทำให้ลูกค้าที่ซื้อขายหุ้นออนไลน์เพิ่มขึ้น 30-40% และทำให้บริษัทติด 1 ใน 3 โบรกฯที่มีมาร์เกตแชร์ซื้อขายหุ้นออนไลน์สูงสุด

นายเรืองวิทย์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในตลาดทุนปีหน้ายังถือว่าคาดการณ์ในเรื่องต่างๆได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าการซื้อขาย รวมถึงรายได้ของบริษัท เนื่องจากปัจจัยลบหลายเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนในประเทศยังไม่มีความชัดเจน ทั้งในเรื่องปัญหาทางการเมือง รวมถึงทางด้านเศรษฐกิจ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.