แอสทีน่ายอดวูบสู้โปรโมชันไม่ไหว เบนเข็มจับอสังหาฯ


ผู้จัดการรายวัน(15 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เครื่องทำน้ำอุ่น "แอสทีน่า" ครวญ หลังปล่อยแคมเปญ "เซเว่นเซฟตี้" มากว่า 3 เดือน พลาดเป้าจาก 4.5 หมื่นเครื่อง เหลือ 3.5 หมื่นเครื่อง เหตุลมหนาวไม่เป็นใจ บวกสู้แคมเปญ ลด-แลก-แจก-แถมช่วงปลายปีไม่ไหว มั่นใจรายได้ตามเป้าที่ 470 ล้านบาท เผยปีหน้าเตรัยมรุกตลาดโปรเจกต์ จับมือแอลพีเอ็น ขนสินค้าติดตั้งทุกโครงการ ตั้งเป้ารายได้ปีหน้ากว่า 1 แสนเครื่อง

นางสาวพัชณี สุทิรัตน์เสรีกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสทีน่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ท้องถิ่นภายใต้แบรนด์"แอสทีน่า" เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้เตรียมงบทางการตลาดไว้ประมาณ 2 % จากยอดขายเครื่องทำน้ำอุ่นในปีนี้ ในการจัดแคมเปญ ชูคอนเซ็ปต์ "เซเว่น เซฟตี้" ตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน พร้อมกับได้จัดกิจกรรมทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการออกโรดโชว์ให้ความรู้และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสิ่งพิมพ์ต่างๆ

"แคมเปญดังกล่าวถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของการที่ผู้บริโภคตื่นตัวในการเลือกซื้อเครื่องทำน้ำอุ่มมากขึ้น แต่เมื่อเทียบยอดขายแล้วถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ โดยเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ควรจะมียอดขายต่อเดือนอยู่ที่ 10,000เครื่อง แต่ในปีนี้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมาจนถึงปลายเดือนธันวาคมนี้คาดว่าสร้างยอดขายได้ 30,000เครื่องหรือทั้งปีจำหน่ายได้ 3,500เครื่อง ห่างจากเป้าเดิมที่วางไว้กว่า 45,000เครื่อง"

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากการประเมินที่ผ่านมาคาดว่าตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นจะเติบโตขึ้น5 % คิดเป็นจำนวนกว่า 3 แสนยูนิต แต่ปีนี้อากาศไม่หนาว ส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตลดลง10-20% ขณะเดียวกันช่วงส่งท้ายปลายปีนี้หลายแบรนด์ใช้กลยุทธ์โปรโมชั่นมาร์เก็ตติ้ง อาทิ การลดแลกแจกแถมสินค้า จึงทำให้ยอดจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่นไม่เป็นไปตามเป้า แต่เมื่อเทียบในส่วนของยอดขายกลับพบว่าโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 100ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯมีการปรับราคาสินค้าขึ้น

สำหรับสินค้าของบริษัทฯจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดทั้ง 9ราย จำนวนกว่า 300สาขาทั่วประเทศ มีกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ระดับบนถึงล่าง

ในปีหน้าบริษัทฯกำลังเข้าสู่ปีที่10 ดังนั้นบริษัทฯจึงได้เตรียมงบการลงทุนกว่า7%ของรายได้ทั้งหมดในการทำกิจกรรมตลอดปี ขณะเดียวกันจะมีการเพิ่มไลน์สินค้าใหม่อย่างน้อย 2 ประเภท โดยเป็นกลุ่มสินค้าในครัวเรือน พร้อมทั้งเพิ่มไลน์อัพเครื่องทำน้ำอุ่นอีก 2 รุ่น เพื่อให้ครอบคลุมตลาดมากขึ้น

ในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องทำน้ำอุ่นนั้นทางบริษัทฯเตรียมที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการขายตลอดปี เนื่องจากมองว่า การซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นไม่จำเป็นต้องซื้อตามฤดูกาล อีกทั้งตลาดโปรเจกต์ประเภทบ้านใหม่กำลังเกิดขึ้นมาก ดังนั้นบริษัทฯเตรียมเจาะกลุ่มตลาดนี้มากขึ้น ขณะนี้ได้มีการเจรจากับกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านและ คอนโด เช่น กลุ่มแอลพีเอ็น ในการนำเครื่องทำน้ำอุ่นเข้าไปติดตั้งในโครงการ รวมถึงมีแผนที่จะรุกตลาดรีเทลหรือค้าปลีกในต่างจังหวัดอีกด้วย ขณะนี้เจรจาไปแล้วหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ อุบลราชธานี และสุรินทร์

"จากการที่รุกตลาดโปรเจกต์ในปีหน้าเราตั้งเป้าว่าจะขายเครื่องทำน้ำอุ่นได้กว่า 1 แสนเครื่อง แต่คาดว่าจะเป็นเป้าที่สูงเกินไป โดยบริษัทฯตั้งเป้าว่าไม่เกินปี2551จะสามารถทำได้1แสนเครื่อง ขณะที่ยอดรายได้ในปี2550ตั้งเป้าที่ 570 ล้านบาท"

ปัจจุบันบริษัทฯมีรายได้หลักจาก4 ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย เครื่องซักผ้า50 % ตู้เย็น 25 % เครื่องทำน้ำอุ่น20% และเครื่องดูดฝุ่น5% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีนและอิตาลีกว่า 70 % และผลิตในไทย30 %


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.