"BOURSE GAME เกมเรียนๆ เล่นราคาแพงของซิตี้แบงก์"


นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2538)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อซิตี้แบงก์ประเทศไทยประกาศจัดเล่นเกมแน่นอนย่อมไม่ใช่เกมธรรมดาเพราะ BOURSE GAME เป็นเกมค้าเงินที่โด่งดังระดับโลกของซิตี้แบงก์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้านำเข้าที่มีชาวสิงคโปร์หรือฟิลิปปินส์สอนคนไทยเล่นด้วยภาษาอังกฤษ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทีมคนไทยกำกับเวทีเอง นำทีมโดยปัญญา จรรยารุ่งโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายบริหารเงินซิตี้แบงก์ ซึ่งร่วมงานกับซิตี้แบงก์กว่า 10 ปี หลังจากจบวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และเอ็มบีเอจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา

"ตอนนี้บุคลากรด้านบริหารการเงินนี้ก็ขาดแคลนหนักมาก ประเทศไทยมีไม่กี่ร้อยคน ขณะที่สิงคโปร์เขามีดีลเลอร์ค้าเงินเป็นหมื่นคน นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราจัดสัมมนานี้ขึ้นมาเพื่อสร้างคน ที่ซิตี้แบงก์ ฝ่ายของผมมีคนอยู่ 35 คนที่ไม่ใช่ค้าเงินอย่างเดียวแต่ทำตราสารหนี้และดอกเบี้ยด้วย เราโชคดีที่ปีนี้ไม่มีใครลาออกสักคนเดียว แต่ว่าหลายแบงก์โดนซื้อตัวไปเช่น อินโดสุเอซแบงก์และดอยแบงก์" ผู้จัดการฝ่ายบริหารเงินของซิตี้แบงก์เล่าให้ฟัง

BOURSE GAME เป็นการสัมมนาเชิงปฏิบัติการแบบจำลองของจริงที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นกับความโหด มัน ฮา ขณะที่ต้องซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศที่ต้องวางแผนบริหารความเสี่ยงและรู้จักใช้กลไกเครื่องมือทางตลาดเงินเพื่อกำไร หัวใจสำคัญอยู่ที่การโค้ดราคาล่วงหน้าที่เรียกว่า FORWARD ที่ผู้เล่นต้องเข้าถึงความประสานกันระหว่างกลไก "สปอต" กับตลาดอัตราดอกเบี้ย

ความไม่ธรรมดดาที่ผู้เล่นยอมจ่ายเงิน 75,000 บาทกับการเล่นเกมนี้เพียง 5 วันโดยกินอยู่หลับนอนที่โรงแรมรีเจนท์ นับว่าเป็นการลงทุนที่แพงมากแต่คนเล่นอย่าง ศศิวิมล จาตุกัญญาประทีป ผู้จัดการฝ่ายบริหารการเงินของ บงล.จีเอฟ บอกว่า

"คุ้มจริงๆ ฟังดูเหมือน 75,000 บาทแพง แต่จริง ๆ ถ้าหากเราบินไปเรียนที่สิงคโปร์ต้องจ่ายไม่ต่ำกว่าแสนทั้งค่าเครื่องบินและที่พักโรงแรมเพื่อนร่วมทีมก็มีมาจาก บงล. เอกธนาและซิตี้แบงก์ เท่าที่ดูไฟแนนซ์มาเยอะเพราะหลายแห่งเตรียมตัวเป็นแบงก์"

จำนวนผู้เล่น BOURSE GAME ครั้งนี้มีทั้งหมด 33 คน ที่ส่วนใหญ่จะมาจากกลุ่มบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และกลุ่มซิตี้แบงก์ที่เป็นบรรษัทข้ามชาติ ปะปนกับเจ้าหน้าที่ค้าเงินของคนซิตี้แบงก์บางส่วน

ผู้เล่นทั้ง 33 คนจะถูกแบ่งเป็น 11กลุ่ม ๆ ละ 3 คนโดยสมมติให้แต่ละกลุ่มคือตัวแทนของแต่ละแบงก์ ต่างก็สวมบทบาทนักค้าเงินตัวยง โดยมีซิตี้แบงก์เล่นเป็นแบงก์ที่ 12 คือแบงก์ชาติ (STATE BANK) ผู้คอยกำกับดูแลและแทรกแซงตลาดเงิน

ในสองวันแรกความรู้ในห้องเรียนที่ทีมงานของปัญญาสอนเชิงทฤษฎีคือ การจัดองค์การบริหารการเงิน กำเนิดของตลาดเงิน กำเนิดและวิวัฒนาการของ EURO CURRENCY กับตลาดเงินนอกประเทศปัจจัยที่กระทบตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา และดอกเบี้ย

ยิ่งเรียนก็ยิ่งเจาะลึกลงไปถึงกลไกการซื้อขายแลกเปลี่ยน จะคิดสปอตอย่างไรและโค้ดราคา FORWARD ที่กำหนดล่วงหน้า 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ซึ่งผู้เรียนต้องใช้เวลาหนึ่งวันเต็ม ๆ เพื่อสอนให้เข้าใจถึงความประสานกันระหว่าง สปอตกับตลาดดอกเบี้ยซึ่งหัวใจสำคัญของการโค้ดราคาตลาด FORWARD ขึ้นอยู่กับสองตัวนี้

นอกจากนี้ยังมีการสอนถึงการบริหารทรัพย์สินหนี้สินในแง่สภาพคล่อง และพูดถึงตราสารอนุพันธ์ต่าง ๆ ที่เป็นเครื่องมือตลาดเงินใหม่ ๆ รวมถึงการอธิบายถึงตลาดการเงินไทย ตะกร้าเงินและดัชนีค้าเงินของซิตี้แบงก์ ตลอดจนสอนเครื่องมือการวิเคราะห์เชิงเทคนิเคิลประเภทกราฟ

หลังจากปูพื้นฐานความรู้ในห้องเรียนจุใจแล้ว ความเร้าใจตื่นเต้นกับเกมค้าเงินก็บังเกิดขึ้น แต่ละกลุ่มสุมหัวกันวางแผนทำกำไรวางกลยุทธ์ค้าเงินกันอย่างจริงจังภายในห้องพักที่กลายสภาพจำลองห้องค้าเงินไปเสียแล้ว ตามพื้นห้องเต็มไปด้วยแผงสายไฟ 4-5 เส้นเดินไปเชื่อมต่อกันทั้ง 11ห้อง

นี่คือการลงทุนมหาศาลของซิตี้แบงก์ที่วางเครือข่ายสื่อสาร สำหรับ BOURSE GAMES ครั้งนี้ ซึ่งใช้เพียง 3 วันก็ต้องรื้อทิ้งไปเปล่า ๆ

ภายในห้องค้าเงิน เสียงกริ่งโทรศัพท์ 3 เครื่องดังระรัวไม่หยุด เสียงโค้ดราคาซื้อขายเงินตราต่างประเทศตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็มีโทรทัศน์ 2 เครื่อง ซึ่งที่จอภาพจะมีกระดานราคาซื้อขายเงินตรา 3 สกุลและอัตราดอกเบี้ย 4 สกุลซึ่งรวมของไทยด้วย บนกระดานจะเห็นมีทั้งหมด 12 บรรทัดก็คือ 12 แบงก์นั่งเอง

"ขอซื้อเงินเยนที่ 17.220 ขอซื้อ 30เหรียญ โอ.เค. คอนเฟิร์มครับ!" เสียงโทรศัพท์ที่ระวังไม่ว่างเว้นสลับกับข้อมูลบนจอภาพที่เป็นทั้งข่าวจริงและข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาเขย่าตลาดค้าเงินเช่น ข่าวนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะลาออกแล้ว ความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ นับว่าเป็นสิ่งท้าทายผู้เล่นเกมที่เหมือนจริงมาก ๆ นี้ว่าจะวางแผนบริการความเสี่ยงอย่างไรจึงจะกำไรหรือขาดทุน โดยใช้ความรู้ในห้องเรียนมาใช้จริง

"ผู้เล่นเขาจะชอบมากเลยที่มีการซื้อขายแม้จะเป็นเงินปลอม แต่ละวันเราจะมีรายงานผลงานว่ามีกำไรหรือขาดทุน และสุดท้ายจะสรุปว่ากลุ่มใดจะเป็นเดอะเบสท์แบงก์" ปัญญาเล่าให้ฟัง

BOURSE GAMES รุ่นนี้จบลงอย่างสวยงามและประทับใจผู้เล่นมากบ้างน้อยบ้าง ขณะที่ชีวิตจริงของนักบริหารเงินเฉกเช่น ปัญญา จรรยารุ่งโรจน์ยังต้องเหนื่อยแบบสนุกกับงานค้าเงินที่เป็นตลาดที่ต้องเปิดหูเปิดตาตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันเลิกตราบเท่าที่พระอาทิตย์ยังฉายแสง ณ ตลาดเงินทุกประเทศ

"เป็นอาชีพที่ต้องใช้เวลาเยอะมาก ถ้าหากไม่รู้จัก "หยุด" ก็จะเหนื่อยมากเป็นพิเศษ" ปัญญา นักบริหารการเงินซิตี้แบงก์เล่าให้ฟัง

ถึงจะเหนื่อยแต่อาชีพนักค้าเงินก็ยังต้องการอย่างยิ่งยวดในยุคเปิดเสรีทางการเงิน ภาพการไล่ล่าซื้อตัวนักบริหารเงินและวาณิชธนกรกันด้วยค่าตัวอันแพงลิบลิ่ว สะท้อนปัญหาขาดแคลนหนักเช่นนี้แล้วความฝันที่จะให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาคนี้คงเป็นชาติหน้าตอนบ่าย ๆ กระมัง และ BOURSE GAMES ของซิตี้แบงก์ที่จะเปิดรุ่นต่อไปในวันที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ก็ยังขายได้และเป็นที่ต้องการของคนหนุ่มสาวค้าเงิน แม้จะแพงถึงระดับแสนก็ตาม !



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.