ค่ายฝึกเขาชนไก่ "เขตทหารยินดีต้อนรับค่ะ"


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2543)



กลับสู่หน้าหลัก

เขตทหาร ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นจุดขาย ที่กำลัง"สด"ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คำว่า"เขตทหารห้ามเข้า" ที่เคยเห็นกันชินตา กำลังจะเปลี่ยนเป็น "เขตทหารยินดีต้อนรับ"

นอกจาก" พิพิธภัณฑ์ของรัชการล ที่6 ในกรมรักษาดินแดน" ที่ยินดีต้อนรับประชาชนทุกคนให้เข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติไทยแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหลักของรัฐบาล และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์ ผู้บัญชาการทหารบก ก็ได้จัดตั้งโครงการ" พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหาร" ขึ้นเมื่อปี 2540 โดยมีคณะทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในเขตทหารเป็นผู้ดูแล

แหล่งท่องเที่ยวทางทหารถือว่าเป็นสินค้าตัวใหม่ของตลาดการท่องเที่ยวเพราะยังไม่มีประเทศใดนำเสนอมาก่อน จุดเด่น ที่สำคัญของแหล่งท่องเที่ยวทางทหารคือ จะมีความแปลกใหม่ครอบคลุมทั้ง ที่ตั้ง แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ทางการเมือง การทหาร และบางแห่งก็สามารถผนวกรวมกับแหล่งท่องเที่ยวเดิมของจังหวัดได้ด้วย ทำให้มีความสมบุรณ์ในการท่องเที่ยวมากขึ้น

สำหรับเขตทหาร ที่เปิดตัวไปแล้วจนเป็นที่ยอมรับของนักท่องเที่ยว ว่ามีความท้าทาย และน่าสนใจก็คือ "ค่ายบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี" "กองพลทหารม้า ที่1 จังหวัดเพชรบูรณ์" "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก" ซึ่งสถานที่ล่าสุดนี้ได้รับรางวัลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทสไทย ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวดีเด่นในปี2543

ในปีหน้า "ค่ายฝึก เขาชนไก่ ของกรมรักษาดินแดน" ในจังหวัดกาญจนบุรี ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวี่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่กองทัพบก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการภาคเอกชน กำลังร่วมมือกันทำโครงการร่วมกัน เพื่อประชาสัมพันธฺ์กิจกรรมต่างๆให้เกิดขึ้นในดินแดน ที่ส่วนใหญ่ผู้ชายชาติทหารเท่านั้น จะมีโอกาสได้ไปสัมผัส

สถานที่แห่งนี้ ใช้เป็นที่ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร(รด) ปีละประมาณ 60,000-70,000คนในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปี เป็นพื้นที่ๆทดสอบกำลังกาย กำลังใจ ที่ผู้ชายส่วนใหญ่ ไม่เคยลืม และยังเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ในอดีต บริเวณรอบเขาชนไก่ และบนยอดเขาชนไก่ มีการค้นพบซากเจดีย์โบราณ ซึ่งมีการเชื่อกันว่าสร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์ชัยชนะการทำสงคราม ทุ่งลาดหญ้า สมัยสงคราม 9 ทัพ ในกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และณ.เขาชนไก่นั้น เป็นสถานที่สำคัญแห่งการรบในครั้งนั้น ด้วยความสูงของภูเขา ที่ไม่ใหญ๋โตนัก มี3ยอดในลูกเดียวกัน ยอด ที่สูงที่สุดสูงประมาณ 272 ฟิต หรือประมาณ 5เส้น ระยะทางเดินขึ้นเขาประมาณ3กิโลเมตร ด้วยชัยภูมิ ที่เป็นต่อ และอยู่กลางเมืองกาญจนบุรี จึงถูกใช้เป็นที่ๆคอยตรวจกำลังความเคลื่อนไหวของข้าศึก ซึ่งมองลงมาเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากเมื่อพม่าเดินทางข้ามเทือกเขาบรรทัดเข้ามาจะพบพื้นที่ราบบริเวณกว้างใหญ่ก่อน ที่จะเดินทางมาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี ฝ่ายไทยจึงสามารถส่งกำลังลงมาสะกั้ดกั้นไว้ได้ทุกครั้ง การรบในครั้งนั้น กองทัพไทยจึงสามารถเอาชนะกองทัพพม่าได้อย่างเด็ดขาด

นอกจากนั้น ยังเชื่อกันว่า บริเวณเขาชนไก่เดิมเป็นบ้านของขุนไกร พ่อของขุนแผน ซึ่งภายหลังขุนแผนเข้ารับราชการ และได้รับตำแหน่งเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าเมืองกาญจนบุรี หรือ พระสุรินททร์ฤาชัย ชาวบ้านจึงได้สร้างศาล"เจ้าพ่อเขาชนไก"่ ขึ้นมาสักการะ

ค่ายฝึกเขาชนไก่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2543 และเมื่อ วันที่11-12 พฤศจิกายน 2543 ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก ที่มีคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยว และสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศ นำคณะเข้าไปพักณ.ค่ายพักเป็นเวลา1คืน 2วัน

ภายในค่ายจะมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการ ซึ่งเป็นกิจกรรม ที่สนุกสนาน ท้าทาย ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิดของครูฝึก เช่น กระโดดหอสูง เกมส์ทดสอบกำลังใจโดยกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง 10 สถานี ไต่เชือกข้ามลำน้ำ การดำรงชีพในป่า นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมเกมล์วอคแรลลี่ หรือจักรยานแรลลี่ พอตกกลางคืน จะมีการฝึกให้รู้จัก ฟังเสียง ดมกลิน สัมผัส ฝึกดูทิศ ดูดาว ซึ่งเป็นวิชาของทหารราบ

กิจกรรมทั้งหมด ที่ไม่เหมือนใครนี้จะเป็นเสน่ห์สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้าไปพัก โดยจะรับเข้าพักเป็นหมู่คณะปัจจุบันจะรับกลุ่มละ 50คนขึ้นไป และสามารถเลือกกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสมกับบุคคลของแต่ละกลุ่มได้เช่นกัน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.