|

แอล.พี.เอ็น.เดินหน้าคอนโด6แสนลุยปี'กุน'โครงการใหม่เกือบหมื่นล.
ผู้จัดการรายวัน(14 ธันวาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แอลพีเอ็น เดินหน้าคอนโดฯ 6 แสน หลังชะลอมาเกือบปี ประเดิมโครงการแรกย่านรามคำแหง ซ.43/1 พร้อมกันบางส่วนสำหรับนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า แถมเตรียมพนักงานช่วยบริหารจัดการเสร็จสรรพ ตั้งเป้าปีหน้าเปิด 5 โครงการมูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ยอดขายพลาดเป้าทำได้เพียง 6,600 ล้านบาท โต 30% จากเป้าหมาเดิม 7,400 ล้านบาท
นาย โอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมยังได้รับการตอบรับที่ดี เห็นได้จากโครงการที่บริษัทเปิดขาย สามารถปิดการขายได้รวดเร็ว โดยในปีหน้ามีแผนจะเปิดโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 5 โครงการ มูลค่ากว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมี 1 โครงการที่จะพัฒนาในระดับ C+ ราคาเริ่มต้น 6 แสนกว่าบาทต่อยูนิต
ทั้งนี้โครงการดังกล่าว ตั้งอยู่ในซ.รามคำแหง 43/1 อยู่บนเนื้อที่ 32ไร่ มูลค่าโครงการ 2,400 ล้านบาท จำนวน 3,300 ยูนิต 14 อาคาร ประกอบด้วยห้องสตูดิโอ 25 ตร.ม และ 1 ห้องนอน 28 ตร.ม. เน้นจับกลุ่มลูกค้าเช่าอพาร์ตเมนต์ เนื่องจากค่าเช่าและค่าผ่อนชำระต่องวดประมาณ 3,000บาทต่อเดือน ผ่อนดาวน์ 12 งวดโดยจะร่วมกับธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารอาคารสงเคราะห์
“เป็นที่รู้กันอยู่ว่าตลาดคอนโดระดับล่างค่อนข้างน่ากลัว เพราะมีราคาถูกและสามารถซื้อเพื่อเก็งกำไรได้ง่าย และสถาบันการเงิน ก็ไม่อยากปล่อยกู้เนื่องจากเห็นว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีรายได้ไม่ประจำ อีกทั้งต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีมากๆ จึงจะบริหารจัดการหลังการขายให้กับลูกค้าหลายพันรายได้ แต่เราก็มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการในรูปแบบดังกล่าวในโครงการลุมพินี เซ็นเตอร์ลาดพร้าว 111 ย่านแฮปปี้แลนด์มาก่อน จึงคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการพัฒนา”นายโอภาส กล่าว
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า บริษัทมีแผนที่จะกันอาคารบางส่วนไว้สำหรับลูกค้าเหล่านี้โดยเฉพาะ แต่จะต้องซื้อไม่ต่ำกว่า 3-5 ยูนิต ซึ่งบริษัทได้เตรียมพนักงงานเพื่อดูแลและบริหารจัดการในการปล่อยเช่า เก็บค่าเช่าให้กับลูกค้าอีกด้วย ส่วนการป้องกันกลุ่มที่เข้ามาเกร็งกำไร บริษัทได้ตั้งกฎห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือ หรือหากต้องการจะต้องเสียค่าดำเนินการจำนวนมากจนแทบไม่มีกำไร ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนปีนี้บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย 6,600 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 7,400 ล้านบาท โดยจะมียอดรับรู้บายได้ 4,600 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 30% ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ยอดขายไม่เป็นตามเป้าเนื่องจากต้องเลื่อนเปิดโครงการลุมพินีเพลส ปิ่นเกล้า 3 มูลค่า 1,500 ล้านบาท เป็นต้นปีหน้า จากเดิมจะเปิดขายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนในปี 2550 บริษัทคาดว่าจะมียอดขาย 8,000-8,500 ล้านบาท และมียอดรับรู้รายได้ 6,500 ล้านบาท
นายโอภาส กล่าวว่า เนื่องจากการที่ภาครัฐกำหนดให้ปี 2549 เป็นปีมหามงคลที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรแสดงความจงรักภักดี เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทรงอุทิศตนบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรของพระองค์ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองสิริราชสมบัติมายาวนานถึง 60 ปี อีกทั้งในปี 2550 ยังเป็นปีที่พระองค์จะทรงเจริญพระชนมายุครบ 80 พรรษา อีกด้วย บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) จึงได้จัดทำพ็อคเก็ตบุ๊ค เรื่อง "9 คน 9 ความดี เพื่อพ่อ" ขึ้น เพื่อเป็นสื่อกลางในการนำตัวอย่างความดีที่บุคคลทั้ง 9 ได้ประพฤติปฏิบัติต่อผู้อื่นโดยมิได้หวังผลตอบแทนใดๆ โดยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแรงบันดาลใจ มาเผยแพร่และถ่ายทอดให้คนในสังคมได้รับรู้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น เพื่อนำแนวคิดของบุคคลทั้ง 9 เป็นจุดเริ่มต้นในการทำความดีเพื่อสังคมต่อไป
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|