ริชมอนด์จับตลาดประชุมสัมมนาเท 5 พันล.ยึดเมืองท่องเที่ยวผุด รร.


ผู้จัดการรายวัน(14 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ริชมอนด์คึกวางแผนระยะยาว 5 ปี ใช้เงินอีก 5,000 ล้านบาท ลงทุนขยายธุรกิจโรงแรมทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด เน้นตามแหล่งท่องเที่ยว พัทยา เกาะช้าง และกระบี่ เผยทุกโรงแรมจะมีห้องจัดประชุมสัมมนาไว้บริการด้วยเพื่อตอกย้ำความเป็นโรงแรมเพื่อการประชุมและสัมมนา

นางสาวลักษณ์วรรณ วงศ์วรการ กรรรมการผู้จัดการ โรงแรมริชมอนด์ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 3-5 ปี ของบริษัทนับจากนี้ไป จะมีการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของธุรกิจโรงแรมคิดเป็นมูลค่า กว่า 5,000 ล้านบาท โดยจะยึดเมืองท่องเที่ยวเปิดตัวกลุ่มโรงแรมรีสอร์ต อีก 4-5 แห่ง ซึ่งทุกแห่งจะมีห้องประชุมและสัมมนาทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมรวมอยู่ด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นโรงแรมเพื่อการประชุมและสัมมนา โดยในแผนระบุชัดเจนว่า กลุ่มโรงแรมของบริษัททั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน และ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะดำเนินการเพื่อรุกตลาดไมซ์แอนด์คอร์ปอเรต และตั้งเป้าผู้นำธุรกิจโรงแรมเพื่อการประชุม สัมมนา โดยถ้าเป็นใน จ.นนทบุรี เราจะเป็นโรงแรมที่รองรับกลุ่มประชุมสัมมนา ที่ครบวงจรที่สุด เพื่อรองรับศูนย์ราชการ ที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลานับจากนี้ไป

ทั้งนี้โครงการแรกจะสร้างเป็นโรงแรมรีสอร์ตขนาด 300 ห้อง ระดับ 4 ดาว ที่หาดจอมเทียน พัทยาบนพื้นที่ 12 ไร่ ด้วยงบประมาณการลงทุนกว่า 300-500 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2551 ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง

สำหรับโครงการที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2550 ได้แก่ โครงการโรงแรมที่เกาะช้าง จ.ตราด บริเวณหาดไก่แบ้ พื้นที่ 14-15 ไร่ สร้างเป็นลักษณะรีสอร์ต จำนวน 150 ยูนิต พร้อมห้องประชุมขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนราว 400-500 ล้านบาท

ส่วนโครงการที่จะเริ่มในปี 2551 ได้แก่โครงการที่ จ.กระบี่ ซึ่งมีที่ดินพร้อมพัฒนาอยู่แล้ว 2 ผืน ขนาด 34 ไร่ และ 88 ไร่ อยู่ที่แหลมหางนาก และหาดบ้านอ่าวเสี้ยว โดย ในผืน 34 ไร่ จะแบ่งพัฒนาเป็น 2 เฟส ๆแรกแบ่งเป็น 7 ไร่ ก่อสร้างโรงแรมระดับหรู 5-6 ใช้งบ 200-300 ล้านบาท โดยรีสอร์ตแห่งนี้จะเน้นเจาะกลุ่มฮันนีมูน และไมซ์ อินเซนทีฟ ( MICE Incentive) เช่นเดียวกัน แต่เมื่อครบ 34 ไร่น่าจะใช้งบประมาณลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ส่วนพื้นที่ผืนที่ 2 จำนวน 88 ไร่นั้น จะมีการสร้างเป็นหมู่บ้านลองสเตย์ ซึ่งตั้งไว้ที่ 100 ยูนิต แต่ยังไม่ได้กำหนดแผนการลงทุน และการออกแบบก่อสร้างที่แน่นอนว่าจะเริ่มเมื่อใด ต่อมาในปี 2552 ก็จะเป็นแผนการพัฒนาที่ดินบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีพื้นที่ 18 ไร่ซึ่งมีหาดส่วนตัวยาวประมาณ 100 เมตรเลยทีเดียว โดยรายละเอียดการลงทุนและรูปแบบอยู่ในขันตอนของการวางแผนงานเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังได้มีแผนการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครเพิ่มด้วยคือการสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ขึ้นอีก 1 โรงแรมที่ถนนแจ้งวัฒนะเพื่อรองรับศูนย์ราชการใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย โดยมีพื้นที่จำนวน 7 ไร่ อยู่ใกล้กับโชว์รูมรถโตโยต้า โดยได้วาดแบบออกมาแล้วเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 19 ชั้น ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุ 1,000 ล้านบาท

ทั้งนี้กลุ่มโรงแรม และรีสอร์ตทั้งหมดนั้นจะมิได้มีชื่อโรงแรมเดียวกันหมด แต่จะมีชื่อ รูปแบบ หรือคอนเซปต์ที่มีสไตล์โดดเด่นแตกต่างกันไป โดยแผนการบริหารนั้นคาดว่าจะเป็นเชนโรงแรม local ทำการบริหารเอง แต่ก็มีแนวโน้มที่จะนำเชนต่างชาติเข้ามาบริหารเช่นกัน ซึ่งอยู่ในช่วงของการศึกษาระบบการบริหารของเชนโรงแรมต่างชาติอยู่ โดยสิ้นปี 2549 คาดว่าจะมียอดขายของทั้งกลุ่มโรงแรมริชมอนด์ทั้งหมด อยู่ที่ 240-250 ล้านบาท และตั้งเป้าในปี 2550 อยู่ที่ 500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในเครืออื่นๆ ของตระกูล "วงศ์วรการ" นั้นยังประกอบไปด้วยเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ซึ่งมีอยู่ 2 แห่งด้วยกันคือ สุขุมวิท 23 ชื่อ Two Tree Mansion และกำลังก่อสร้างอยู่ที่ประตู้น้ำ อีก 70 ยูนิต ใช้งบประมาณลงทุนไป 100 ล้านบาท โดยเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ทั้งสองนั้นมีกลุ่มลูกค้า นักธุรกิจต่างชาติมาใช้พักบริการแบบลอง สเตย์ เป็นกลุ่มลูกค้าพื้นฐานหลักอยู่แล้วได้แก่ พวกชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในประเทศไทยเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอพาร์ทเมนต์ที่เขตปิ่นเกล้า ที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังไม่ได้มีแผนการในการลงทุน และยังไม่นับรวมถึงธุรกรรมซื้อมาขายไปที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ อีกด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.