|
ผวาตลาดนาฬิกาไทยปี50ไม่ฟื้น'แฟรงจิวเวลรี่'งดนำเข้ายี่ห้อใหม่
ผู้จัดการรายวัน(14 ธันวาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แฟรงจิวเวลรี่ ครีเอชั่น เผยไม่มีแผนนำเข้านาฬิกาแบรนด์ใหม่ในช่วง 1-2 ปีนี้ ยึดสร้างแบรนด์เดิมที่มีอยู่10แบรนด์ให้ดี ปีหน้าโฟกัสแบรนด์หลักที่สร้างยอดขายสูง ได้แก่ เพียเจต์และบริเกต์ เล็งเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ต่อเนื่อง ระบุตลาดรวมนาฬิกาปีหน้ายังไม่ฟื้นผู้บริโภครอดูความชัดเจนทางการเมืองก่อนลงทุนซื้อนาฬิกา พร้อมส่งท้ายปีด้วยการนำเข้าบริเกต์หลานรุ่นเจาะตลาดผู้หญิง
นายชัยยศ เอี่ยมอมรพันธ์ ประธานบริหาร บริษัทแฟรงจิวเวลรี่ ครีเอชั่น จำกัด ผู้แทนจำหน่ายนาฬิกา 10แบรนด์ อาทิ อูโบลท์, เพียเจต์,บริเกต์,โอเมก้า ฯลฯ เปิดเผยว่า แผนการตลาดในช่วงระยะ 2ปีนี้ไปบริษัทฯ ยังไม่มีแผนนำนาฬิกาแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด แต่จะเน้นการทำตลาดให้นาฬิกาแบรนด์เดิมที่มีอยู่รวม10 แบรนด์ให้ดีเสียก่อน เนื่องจากว่าตลาดรวมนาฬิกาในประเทศไทย พบว่าเริ่มมีการเติบโตที่ช้าลง หากนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดกลัวว่าจะดูแลไม่ทั่วถึง ซึ่งในปีหน้าแบรนด์หลักที่บริษัทฯ เตรียมให้ความสำคัญมี 2 แบรนด์หลัก ได้แก่ เพียเจต์และบริเกต์ ซึ่งทั้ง 2แบรนด์มียอดรายได้สูงหรือมีสัดส่วนแบรนด์ละ 40%ของยอดรวม โดยในปีหน้าบริษัทฯ มีแผนนำเข้านาฬิกาคอลเลกชั่นใหม่อย่างต่อเนื่อง อาทิ นาฬิกาบริเกต์คอลเลกชั่นสำหรับผู้ชายและรุ่นดับเบิ้ลทูร์บิญอง ราคาประมาณ 15 ล้านบาท เป็นต้น
"ตลาดรวมนาฬิกาปีหน้าบริษัทฯ คาดว่าตลาดยังไม่ค่อยดี การทำตลาดจะมีความลำบาก ขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคก็ยังไม่อยากใช้จ่ายเงินในช่วงนี้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ซึ่งตรงนี้คงต้องรอดูภาพรวมตลาดไปอีก1 ปีกว่าตลาดจะฟื้นกลับมาดี"
สำหรับแผนการตลาดของบริษัทฯ ในช่วงเดือนธันวาคม2549 นี้ บริษัทฯ เตรียมโฟกัสไปที่แบรนด์หลักอย่างบริเกต์ ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้นำเข้านาฬิกาบริเกต์เข้ามาทำตลาดหลายรุ่น อาทิ บริเกต์ พลุมส์ ซึ่งประดับเพชร 44.89 กะรัต ราคา 20ล้านบาท และรุ่นมารีน 5817 สองกษัตริย์ ราคาประมาณ 8แสน-1ล้านกว่าบาท เป็นต้น โดยคอลเลกชั่นใหม่นี้เตรียมนำมาแสดงในงาน "An Eeening with Breguet Plumes" ในวันที่ 13 ธ.ค.49 ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล
"วัตถุประสงค์การนำเข้าคอลเลกชั่นนี้เพื่อเจาะตลาดลูกค้าผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันลูกค้าของบริเกต์ที่เป็นลูกค้าผู้หญิงยังมีสัดส่วนน้อยหรือประมาณ 30% ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่หรือ 70%เป็นผู้ชาย"
ในส่วนยอดรายได้ของบริษัทฯสิ้นปี 2549นี้บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดรายได้เติบโต10% โดยปัจจัยหลักที่โตมาจาก 2แบรนด์หลักบริเกต์ที่เติบโต 40% และเพียเจต์ที่เติบโตตามเป้าที่วางไว้
สำหรับมูลค่าตลาดรวมนาฬิกาในปัจจุบันมีกว่า 4-5พันล้านบาท โดยสภาพตลาดในปีนี้พบว่าตลาดมีอัตราการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยลบมาก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ,ราคาน้ำมัน และการเมือง ฯลฯ โดยในส่วนของผู้ประกอบการหลายรายก็พบว่ายอดรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าหรือยอดตกลงไป 20%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|