AMCแรงไม่ตก4วันทำการพุ่ง62%โบรกฯเตือนระวังแรงขายทำกำไร


ผู้จัดการรายวัน(13 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เอเซีย เมทัล ระหว่างงัราคาพุ่งชนซิลลิ่งขณะที่ 4 วันทำการขึ้นแล้ว 61.84% นักวิเคราะห์เชื่อช่วงสั้นราคาหุ้นอาจจะปรับขึ้นต่อ แต่เตือนระวังมีการขายทำกำไรออกมา ด้านผู้บริหาร ยันยังไม่คิดควบรวมกิจการ ระบุราคาขายหุ้นเพิ่มทุนยังไม่มีการปรับจากกรอบ 2.75-3.30 บาท

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นบริษัท เอเซีย เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ AMC หลังราคาปรับขึ้นอย่างโดดเด่นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาโดยราคาปรับขึ้นจาก 3.46 บาท เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมาโดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้ (12 ธ.ค.) ราคาปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.16 บาท หรือ 26.13% โดยระหว่างวันราคาหุ้นปรับพุ่งชนซิลลิ่งที่ระดับ 5.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 115.95 ล้านบาท ทั้งนี้หากพิจารณาจากราคาปิดเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. หรือ 4 วันทำการราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว2.14 บาท หรือ 61.84%

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมากระแสการควบรวมกิจการที่เกิดขึ้นทำให้ธุรกิจหลายประเภทตกอยู่ในภาวะที่ต้องหากลุ่มหรือพันธมิตรเข้ามาควบรวมกิจการเพื่อรักษาให้บริษัทอยู่รอดภายใต้สถานการณ์ที่การแข่งขันในธุรกิจที่รุนแรงมากขึ้น สอดรับต้นทุนสินค้าและบริการที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่งที่มีกระแสข่าวลือมาโดยตลอดว่าอาจจะมีการควบควมกิจการ คือ บมจ.เอเซีย เมทัล หรือ AMC

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น AMC ที่ผ่านสะท้อนให้เห็นว่าอาจจะมีการเข้ามาเก็บหุ้นของนักลงทุนรายใหญ่เนื่องจากมีความพยายามที่จะเข้ามาดันราคาหุ้นให้ปรับขึ้นรองรับการขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท แต่หากนักลงทุนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนยังเชื่อว่าแม้ว่าช่วงสั้นราคาหุ้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อแต่อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกจึงแนะนำเลี่ยงลงทุน

"เชื่อว่าช่วงสั้นๆราคาหุ้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ แต่ในระยะกลางอาจจะมีการขายทำกำไรนักลงทุนจะเข้าลงทุนจะต้องประเมินความเสี่ยงประกอบด้วยเพราะราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว"แหล่งข่าวกล่าว

นายชูศักดิ์ ยงวงศ์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเซีย เมทัล หรือ AMC กล่าวปฎิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการเตรียมควบรวมกิจการระหว่างบริษัทกับบริษัทในธุรกิจเดียวกัน โดยกล่าวว่าที่ผ่านเคยมีการพูดคุยเกี่ยวกับการควบรวมกิจการระหว่างผู้ประกอบการในสมาคมผู้ประกอบการเหล็กแต่ไม่เคยมีการตกลงเพื่อควบรวบกับบริษัทใด

ในส่วนของเรื่องการขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทยังคงกรอบราคาที่จะเสนอขายตามที่เคยมีการกำหนดไว้ที่ 2.75-3.30 บาท เนื่องจากคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทได้อนุมัติกรอบการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนตามกรอบราคาข้างต้นแล้ว ซึ่งหากบริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนราคาเสนอขายจะต้องมีการเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและจะต้องขอมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมถึงจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อให้อนุมัติ บริษัทจึงยืนยันราคาที่จะเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน ณ ขณะนี้ยังอยู่ในกรอบราคาเดิม

สำหรับเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นเพิ่มทุนบริษัทจะนำไปเพื่อปรับปรุงโรงงานใหม่ โดยคาดว่าจะสามารถสร้างเสร็จได้ภายในปี 2550 โดยโรงงานที่ปรับปรุงนี้จะเน้นการผลิตท่อเหล็กคุณภาพเพื่อขายทั้งในประเทศและส่งออกสู่ต่างประเทศ โดยปัจจุบันสัดส่วนการส่งออก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนสินค้าส่งออกของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5% ขณะที่การปรับแข็งค่าของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้บริษัทได้รับผลดีเนื่องจากบริษัทมีการนำวัตถุดิบเพื่อเข้ามาผลิตสินค้า ทำให้ต้นทุนสินค้าลดลงและทำให้กำไรสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น แต่ผลดีที่ได้รับถือว่าไม่มากและไม่ถือว่ามีนัยสำคัญกับบริษัทเพราะว่าปัจจุบันบริษัทมีการนำเข้าวัตถุเพื่อผลิตเพียงแค่ประมาณ 10% เท่านั้น

อนึ่งกระแสข่าวลือเรื่องการการควบรวมกิจการของบมจ.เอเซีย เมทัล กับบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง เช่น บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP, บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ SAM , บริษัท ค้าเหล็กไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMT เป็นต้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.