|
MSกู้3.5พันล.ผุดโรงถลุงเหล็ก
ผู้จัดการรายวัน(13 ธันวาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
มิลเลนเนียม สตีล กู้เงินอีกประมาณ 3,500 ล้านบาท เพื่อใช้สร้างโรงงานถลุงเหล็กต้นน้ำกำลังการผลิต 5 แสนตันต่อปี หวังลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มคุณภาพเหล็ก คาดเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ไตรมาส 3 ปี 51 และโครงการนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน ( IRR ) สูงกว่า 15% ขณะที่ผลงานปีนี้คาดกำไรดี ผลจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น ทาทา สตีล (ประเทศไทย) และใช้ชื่อเทรด TSTH หลังทาทา สตีลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 67%
นายสันติ ชาญกลราวี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิลเลนเนียม สตีล จำกัด (มหาชน) (MS) เปิดเผยว่าขณะนี้ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้ลงทุนโครงการถลุงเหล็กต้นน้ำ ซึ่งมีกำลังการผลิต 500,000 ตันต่อปี มูลค่าเงินลงทุน 3,400-3,500 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวจะให้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) มากกว่า 15% คาดว่าโครงการจะก่อสร้างเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ประมาณไตรมาส 3 ปี 2551
โดยแหล่งเงินทุนที่บริษัทจะนำมาใช้ในการลงทุนครั้งนี้ คือกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีและได้ดอกเบี้ยที่ระดับ MLR-1.1 และจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E RATIO) ของบริษัทเพิ่มจาก 0.6 เท่าเป็น 0.9 เท่า ซึ่งโครงการนี้จะก่อสร้างที่บ่อวิน จังหวัดชลบุรี
"ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ประมาณ 1,000บาทต่อตัน รวมทั้งยังช่วยเพิ่มคุณภาพเหล็กให้สูงขึ้นและเพิ่มความสามารถในการผลิตเหล็กเพื่อรองรับอุตสาหกรรมรถยนต์แหล่งเงินทุนจะกู้สถาบันการเงินในประเทศ 100% และเราหวังจะผลิตเหล็กเกรดคุณภาพสูงที่ไทยยังไม่มีผู้ผลิต เพื่อรองรับการนำเข้าและทำให้ประเทศลดการขาดดุลการค้า และรองรับความต้องการใช้ในประเทศ และรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ " นายสันติ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายปีนี้ MS คาดว่ากำไรน่าจะดีขึ้น อันเป็นผลจากกำไรการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทจะบันทึกในไตรมาสดังกล่าวประมาณ 270 ล้านบาท ซึ่งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ที่ผ่านมาพบว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 276 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและราคาขายที่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการเหล็กเส้นของตลาดสหรัฐฯ เพิ่มสูง โดยบริษัทสามารถปรับราคาขายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยตันละ 400 บาท และบริษัทยังสามารถลดผลกระทบเชิงลบจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อต้นทุนวัตถุดิบเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นสูงขึ้นและยอดขายก็สูงขึ้นด้วย ขณะที่ไตรมาส 3 ปี48 ขาดทุนสุทธิ 69 ล้านบาท
นายสันติกล่าวว่า MS ไม่มีแผนที่เข้าไปเทกโอเวอร์หรือซื้อกิจการที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน แต่ต้องการเน้นไปที่การผลิตสินค้าตัวอื่นที่มีความต้องการในตลาดสูงเป็นเหล็กชนิดพิเศษ ตลอดจนการหาโอกาสในการขยายการลงทุนในไทยเพื่อหาโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ ด้วย ขณะที่เป้าหมายของบริษัทคือต้องการหวังให้ EVA ของบริษัทเป็นบวก (EVA คือการประเมินผลที่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าการที่นักลงทุนได้รับจากการลงทุนในตลาด ) ซึ่งขณะนี้ของ MS ยังติดลบอยู่ และคาดว่าอย่างเร็วสุดน่าจะทำได้ภายใน 3 ปีหลังจากนี้ โดยเน้นการลดต้นทุนผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้MS ยังคาดว่ากำไรน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 48 ผลจากปริมาณขายเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้า 1.1 ล้านตัน ขณะที่ปีก่อนมียอดขายอยู่ที่ 9 แสนตันเท่านั้น และขณะนี้กำลังผลิตเหล็กรีดร้อนของบริษัทอยู่ที่ประมาณปีละ 1 -1.1 ล้านตัน และคาดว่าหลังจากนี้ไม่เกิน 2 ปีจะเดินเครื่องผลิตเต็มกำลังการผลิตที่ 1.7 ล้านตันต่อปีได้ และแผนระยะยาวของบริษัทหลังจากนี้ 10 ปี จะมีกำลังการผลิตเกิน 30 ล้านตันต่อปี และมีเครือข่ายที่จะตั้งกระจายอยู่ทั่วโลก
สำหรับแนวโน้มตลาดเหล็กภายในประเทศปี 2550 มองว่าความต้องการใช้เหล็กจะใกล้เคียงกับปีนี้ที่ระดับ 13 ล้านตัน เนื่องจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ยังไม่เกิดขึ้นเพราะยังอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ ขณะที่ภาพรวมของตลาดเหล็กโลกความต้องการใช้เหล็กน่าจะขยายตัวสูงขึ้นเนื่องจากประเทศจีน รัสเซีย และอินเดียยังมีความต้องการใช้เหล็กในก่อสร้างและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งราคาเหล็กโดยรวมน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้เล็กน้อย ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
นายสันติกล่าวว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทมาเป็น บริษัท ทาทาสตีล จำกัด(มหาชน) หรือ TSTH ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อยื่นต่อกับกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 14 ธันวาคม 49 นี้ หลังจากนั้นบริษัทจะดำเนินการยื่นเปลี่ยนแปลงชื่อหุ้นบนกระดานจาก MS เป็น TSTH ต่อไป
ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่บริษัท ทาทา สตีล ภายหลังจากที่ ทาทา สตีล เข้าซื้อหุ้น MS จาก SCC จนมีสัดส่วนการถือหุ้น 67% จากก่อนหน้าที่ถือหุ้นอยู่เป็นอันดับ 2 รองจาก NATSTEEL ASIA PTE LTD ซึ่งถืออยู่ 45.32%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|