ผังเมืองบีบดีมานด์ทาวน์เฮาส์ซบอาคารชุดเค.ซี.ฯมั่นใจปี50ตลาดคอนโดฯโต


ผู้จัดการรายวัน(12 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

เค.ซี.ฯแจงแผนปี50 เน้นเปิดเฟสต่อเนื่องโครงการเดิม ไม่ตำกว่า12 เฟส พร้อมผุดโครงการใหม่เพิ่ม 4 โครงการบ้านเดี่ยว 1 ทาวน์เฮาส์ 1 คอนโดมิเนียม 2 เชื่อปี 50 คอนโดฯยังรุ่ง เหตุผังเมืองรวมกทม .บีบผู้ประกอบการทำโครงการทาวน์เฮาส์ได้ยากขึ้น เผยยอดขาย3ไตรมาส 1,600 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปียอดขายตามเป้า 2,000 ล้านบาท ส่วนปี 50 ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 10%

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2550 ว่าในปีหน้าบริษัทจะมีสัดส่วนรายได้จากการขายบ้านเดี่ยวประมาณ 40% ทาวน์เฮาส์ 45% และคอนโดมิเนียม 15% จากเดิมที่ในปี 2549 นี้ บริษัทมีรายได้จากการขายบ้านเดี่ยว 60% และทาวน์เฮาส์ 40% โดยในปีหน้าบริษัทจะเน้นการพัฒนาโครงการในเฟสต่อเนื่องเป็นส่วนใหญ่

สำหรับการพัฒนาโครงการใหม่นั้นคาดว่าจะมีการเปิดเพิ่มอีก 3-4 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว เค.ซี เนเชอร์รัล ซิตี้ รามคำแหงวงแหวน จำนวน 320 ยูนิต บนเนื้อที่ 75 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 5.2ล้านบาท คาดว่าจะสามารถเปิดการขายได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550

ส่วนอีก 2 โครงการจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ย่านพระราม 9 จำนวน 320 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 3 ไร่ แบ่งการก่อสร้างเป็นอาคาร 8 ชั้น 2 อาคารมูลค่าขาย 400 ล้านบาท มีขนาดพื้นที่เริ่มต้น 28-40 ตารางเมตร ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมโครงการที่ 2 อยู่ในย่านประชาชื่นใกล้ทางด่วน ซึ่งจะก่อสร้างเป็นอาคาร 8 ชั้น 2 อาคารเช่นกัน มีจำนวน 300 ยูนิต บนเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน มีขนาดพื้นที่เริ่มต้น 30-45 ตารางเมตร สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 2 โครงการนี้ จะมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 38,000-40,000 บาทต่อตารางเมตร หรือมีราคาขายเฉลี่ยที่ 1.5 ล้านบาท ส่วนราคาต้นทุนที่ดินที่ซื้อมาทั้ง 2 แปลงเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดฯดังกล่าวบริษัทซื้อที่ดินมาในราคาเฉลี่ย 50,000 บาทต่อตารางเมตร ส่วนโครงการที่ 4 คาดว่าจะสามารถเปิดขายได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2550 โดยขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเจรจาซื้อที่ดินกับเจ้าของเดิมอยู่

"หลักการเลือกซื้อที่ดินในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่รวมต่อโครงการ 10,000 กว่าตารางเมตร นี้ต้นทุนในการซื้อที่ดินดิบไม่ควรจะเกิน 60,000 บาทต่อตารางวา ซึ่งที่ดินที่บริษัทซื้อเข้ามาทั้ง 2 โครงการถือว่ามีราคาถูก ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถทำกำไรเบื้องต้นได้ไม่ประมาณ 30-35% อย่างไรก็ตามสาเหตุที่บริษัทยังไม่เปิดการขายโครกาคอนโดมิเนียมทั้งสองโครงการดังกล่าว เนื่องจากยังรอให้โครงการผ่านกระบวนการขออนุมัติสิ่งแวดล้อมก่อน คาดว่าจะได้รับอนุมัติจากสำนักงานสิ่งแวดล้อมในเดือน ม.ค.-ก.พ.นี้"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมทั้ง 2 โครงการถือเป็นการศึกษาเทรนและตลาดของบริษัทก่อนที่จะเข้ามาพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมีเนียมในสัดส่วนที่มากขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมยังมีอยู่สูง และคาดว่าในปี 2550 ตลาดคอนโดมิเนียมยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะ ปัจจุบันผังเมืองรวมที่ประกาศบังคับใช้อยู่ในขณะนี้บีบให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภททาวน์เฮาส์ได้ยากขึ้น

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการหันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม เพือรองรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจำนวนโครงการประเภททาวน์เฮาส์ราคาระดับ 1-2 ล้านบาทในตลาดมีจำนวนจำกัด โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นทุนในการเดินทางเพิ่มสูงขึ้น จากการปรับตัวของราคาน้ำมัน ซึ่งทำให้ผูบริโภคหันมาเลือกที่อยู่อาศัยประเภทคอนดดมิเนียมระดับบราคาเหมาะสมกับกำลังซื้อ และอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า หรือระบบการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่แหล่งงานได้รวดเร็ว ปัจจัยดังกล่าวทำให้เค.ซี. มั่นใจว่าดีมานด์ในตลาดคอนโดมิเนียมจะยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี2550

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่เปิดขายอยู่รวม 29-30 โครงการ โดยคาดว่าจะสามรถเปิดการขายได้ภายในปี 2550 นี้ 16 โครงการ ประกอบด้วยโครงการเค.ซี.กรีนวิลล์ โซนเอ,บีและดี ,โครงการเค.ซี การ์เด้นโฮม 18 โซน อีและเอฟ ,โครงการเค.ซี.การ์เด้นโฮม 20 โซน เอและบี, โครงการเค.ซีคาร์วิลล์ 2, โครงการเค.ซีคาร์วิลล์ 3 โซน เอและบี, โครงการเค.ซี.รามอินทรา 8 โซน เอและบี, โครงการเค.ซี.เลควิว โซน เอ ,ซี,และอี, โครงการเค.ซี.สุวินทวงส์ โซนดี

ส่วนโครงการที่มีการขยายเฟสต่อเนื่องในปี 2550 ประกอบด้วย โครงการเค.ซีคาร์วิลล์ 3 โซนซีและดี, โครงการ เค.ซี.วงแหนวรามอินทรา โซนซีและดี, โครงการเค.ซี.เนเชอร์รัล วิลล์ เทพารักษ์ โซน เอ,บี,ซี และดี โครงการ เค.ซี. เนเชอร์รัล วิลล์ ร่มเกล้า โซนบี, โครงการเค.ซี. คัสเตอร์รามอินทรา, โครงการคัสเตอร์วงแหวนรามคำแหง เฟส 2 และโครงการเค.ซี. เนเชอร์รัล ซิตี้ วงแหวนรามคำแหง

สำหรับ ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 1,600 ล้านบาท จากเป้าที่วางไว้ 2,000-2,100 ล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อครบ 4 ไตรมาสแล้วบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนยอดรับรู้รายได้ของบริษัทในปีนี้จะมาจาก การของบ้านพร้อมที่ดิน 50% มาจากการเหมาก่อสร้าง 25% และการร่วมทุนพัฒนาโครงการอีก 25% ส่วนในปี 2550 บริษัทตั้งเป้าว่ามีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นอีก 10% จากปี 2549 โดยคาดว่ารายได้จากการขายบ้านพร้อมที่ดินและการร่วมทุนจะเพิ่มขึ้น ส่วนรายได้จากการรับเหาก่อสร้างจะมีสัดส่วนที่ลดลง


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.