ผู้ถือหุ้น"EGCOMP"ไฟเขียวลงทุนบีแอลซีพีมูลค่าหมื่นล.


ผู้จัดการรายวัน(6 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้ถือหุ้น "EGCOMP" ไฟเขียวลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพี ในสัดส่วน 50% มูลค่ารวมกว่า 6.6 พันล้านบาท และมูลค่าหุ้นที่จะเรียกชำระเพิ่มอีก 3.7 พันล้านล้านในปีหน้า มูลค่ารวมกว่าหมื่นล้านบาท ระบุแหล่งเงินทุนจากการกู้สถาบันการเงินและเงินทุนหมุนเวียน

นายวิศิษฎ์ อัครวิเนค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCOMP กล่าวว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2549 และที่ประชุมคณะกรรมการครั้งที่ 8/2549 มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันในรายการการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินบีแอลซีพี โดยเข้าซื้อหุ้นบริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) จำนวน 57.422 ล้านหุ้น หรือ 50% ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวม 6,645 ล้านบาท

สำหรับการซื้อหุ้น BLCP ครั้งนี้ บริษัทได้ซื้อจากบริษัท ซีแอลพี เพาเวอร์ (บีแอลซีพี) ลิมิเต็ด (CLP Power (BLCP) Limited) (CLP-BLCP) และผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดา 2 ราย ได้แก่ Mr. James Richarde Truscott และ Mr. Mark Takahashi (กลุ่ม CLP)

สำหรับมูลค่าการลงทุนนั้น แบ่งเป็นเงินที่จ่ายเป็นค่าหุ้นสามัญเดิมของ BLCP จำนวน 7.422 ล้านหุ้น มูลค่า 4,645 ล้านบาท โดย EGCOMP จะชำระเป็นเงินสดทั้งจำนวนให้แก่กลุ่ม CLP ในวันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ และเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ EGCOMP ทดรองจ่ายให้ CLP-BLCP เพื่อนำไปชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BLCP ที่เรียกชำระเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2549 จำนวน 50 ล้านหุ้น ณ มูลค่าที่ตราไว้คือ 100 บาทต่อหุ้น โดยเรียกชำระค่าหุ้นบางส่วนที่ราคาหุ้นละ 40 บาท รวมเป็นเงิน 2,000 ล้านบาท

นอกจากค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 6,645 ล้านบาทแล้ว BLCP จะมีการทยอยเรียกชำระหุ้นเพิ่มทุนในปี 2550 อีก 93.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,700 ล้านบาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้รวมถึงเงินเพิ่มทุนที่ยังชำระไม่ครบจำนวน 60 บาทต่อหุ้นด้วย ซึ่งเป็นภาระผูกพันที่มีกับเจ้าหนี้ภายใต้สัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวเพื่อให้สามารถก่อสร้างและทำ Commissioning โรงไฟฟ้าหน่วยที่ 2 ได้

ส่วนแหล่งเงินทุนในการชำระมูลค่าเงินลงทุนนั้น จะมาจาก 2 ส่วน ส่วนแรกจำนวน 5,000 ล้านบาท จะเป็นการกู้จากสถาบันการเงิน และส่วนที่เหลือจะมาจากกระแสเงินสดภายในของ EGCOMP เอง ทั้งนี้ การกู้เงินดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อผลกำไรของ EGCOMP ในระดับที่ทำให้ไม่สามารถจัดสรรกำไรในรูปเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้

ขณะที่แหล่งเงินทุนของเงินเพิ่มทุนส่วนที่เหลือในปี 2550 จำนวนรวม 93.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 3,700 ล้านบาท) นั้น ส่วนแรกจะเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงินจำนวน 3,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะมาจากกระแสเงินสดภายในของ EGCOMP

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งนางวัธนี พรรณเชษฐ์ เป็นกรรมการตรวจสอบคนใหม่ แทนนายวรวิทย์ ขำขนิษฐ์ ที่ขอลาออก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2549


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.