"ศูนย์รับฝากฯ"ปรับโฉมหลังบ้านปูพื้นฐานตลาดหลักทรัพย์สู่สากล


ผู้จัดการรายสัปดาห์(4 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ศูนย์รับฝากฯรีแบรนด์ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ ทุ่มงบ 15 ล้าน ปรับโฉม ออกแคมเปญสปอตโฆษณา มุ่งให้นักลงทุนเห็นศักยภาพการรองรับขอบข่ายงานบริการได้ครบวงจร เน้นคอนเซ็ปต์ Your Partner in Success หวังให้เข้ามาใช้บริการที่มีหลากหลาย เดินหน้าสานระบบโครงสร้างพื้นฐานสู่การบริการแบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อรับนวัตกรรมการเงินในอนาคต พร้อมรับทราบหลักการซื้อหลักทรัพย์ที่ผิดนัดส่งมอบภายใน 1 วันทำการ

จากนโยบายของตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องการจะก้าวสู่ความเป็นตลาดรองมีสินค้าครบวงจรในการซื้อขาย มีความหลากหลายทั้งด้านประเภทและด้านปริมาณ ส่งผลให้ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกต้องขยายบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพื่อเติมเต็มบริการให้ธุรกรรมต่างๆดำเนินไปได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งนั่นหมายถึงการมีระบบและความพร้อมในการอำนวยความสะดวกที่หลากหลายมากขึ้น

ปัจจุบันศูนย์รับฝากฯมีภารกิจครอบคลุมการเป็น ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์,สำนักหักบัญชี, นายทะเบียนหลักทรัพย์, นายทะเบียนกองทุน และ บริการบริษัทหลักทรัพย์

แม้ในวันนี้ศูนย์รับฝากฯจะมีภารกิจและศักยภาพมากกว่าในวันเริ่มต้นเมื่อ 12 ปีที่แล้วก็ตาม แต่ทว่ายังไม่สามารถสร้างการรับรู้ให้ประจักษ์ในสายตาของนักลงทุนทั่วไปเท่าใดนัก จากบทบาทของกึ่งผู้ให้บริการที่ยังไม่ชัดเจนนัก ทั้งหมดจึงเป็นที่มาของการรีแบรนด์

โสภาวดี เลิศมนัสชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) ได้กล่าวถึงภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้วิสัยทัศน์ การร่วมเป็นพันธมิตรในธุรกิจตลาดทุน ด้วยบริหารที่เป็นเลิศ ว่า ทางTSDจะมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและหน่ายงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและมุ่งเน้นการส่งเสริมการทำงานให้มีความถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็ว และลดต้นทุนด้วยระบบเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ

"TSD ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการซื้อขายหุ้น โดยมีเป้าหมายในการทำงานเพื่อให้นักลงทุนสามารถลงทุนซื้อขายหุ้นได้ง่ายขึ้น โดยจะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านคอยบริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการชำระราคาซื้อขายหลักทรัพย์ การรับฝากหุ้นและการจ่ายสิทธิประโยชน์ให้ลูกค้า รวมถึงธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ด้วย"

แคมเปญปรับภาพลักษณ์ใหม่ดังกล่าวมุ่งเน้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มนักลงทุนรายย่อย รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศเป็นสำคัญ โดยมีการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านทั้งทาง โทรทัศน์ วิทยุ และสิงพิมพ์ โดยคาดหวังว่าลูกค้าเหล่านี้จะได้รับทราบ เข้าใจ และเข้ามาใช้บริการที่หลากหลายต่างๆของ TSD เพื่อมมากขึ้น

การปรับปรุงภาพลักษณ์ในครั้งนี้ TSDได้เลือกโลโก้เป็นรูปเครื่องหมายลูกศรคู่สีส้ม ซึ่งหมายถึงการเดินทางไปข้างหน้าพร้อมกับนักลงทุนแสดงถึงความเป็นพันธมิตร และยังสื่อถึงบริการอันรวดเร็ว โดยใช้สโลแกนว่า Your Partner in Success ทั้งนี้ทางศูนย์รับฝากฯได้มีแนวทางว่าจะให้บริการงานที่ครอบคลุมอย่างเต็มที่ ก่อนที่จะดำเนินการลดค่าธรรมเนียมให้ลูกค้าในอนาคต

สำหรับการปรับภาพลักษณ์องค์กรในช่วงเริ่มต้นนี้ได้ใช้งบประมาณไปแล้ว 5-6 ล้านบาท และยังจะมีงบในการซื้อสื่อโฆษณาอีกราว 9 ล้านบาท นอกจากนี้ในปีหน้าก็จะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กรด้วย

"มีความตั้งใจและเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการปรับปรุงงานบริการในครั้งนี้ พร้อมกับนำเสนอภาพลักษณ์ที่ชัดเจนภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ คือ การ่วมเป็นพันธมิตรในธุรกิจตลาดทุน ด้วยบริการเป็นเลิศ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานบริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ผู้ลงทุน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบวงจร"

ด้านแนวการดำเนินงานของ TSD จะมีแผนรุก 3 ด้านด้วยกัน คือ 1.การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบงานหลักให้เป็นเอกภาพ ด้วยระบบไอทีที่ทันสมัยสามารถเชื่อมโยงกับสมาชิกและหน่วยงานอื่นๆ ให้สามารถรองรับในธุรกิจที่หลากหลายและบริการใหม่ๆ ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ 2.การสร้างสรรค์งานบริการใหม่ เพราะปัจจุบันตลาดทุนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ขึ้นมา และ3.การเสริมสร้าง Corporate Identity เน้นการสื่อสารให้พนักงานในองค์กรทราบถึงบทบาทที่ชัดเจน รวมถึงการสร้างค่านิยมและการพัฒนาศักยภาพ ฝึกอบรมและพัฒนาให้สามารถใช้ระบบงาน เพื่อแนะนำลูกค้าแก้ไขปัญหาได้ทุกๆ เรื่อง มากกว่าให้ข้อมูลอยู่หน้าเคาน์เตอร์แบบเดิมๆ

ขณะที่แผนงานในปี 2550 TSD จะพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและระบบงาน โดยจะมีการเชื่อมต่อเทคโนโลยีให้มีประสิทธิภาพ ทั้งงานรับฝากหลักทรัพย์และสำนักหักบัญชี โดยจะขยายขอบเขตไปยังตลาดตราสารหนี้และตลาดอนุพันธ์แบบ One Stop Service รวมทั้งสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มการบริการต่อลูกค้า และเป็นการรองรับนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทศูนย์รับฝากฯ ล่าสุดได้มีมติให้เริ่มใช้หลักเกณฑ์การบังคับซื้อหลักทรัพย์ที่ผิดนัดส่งมอบในวันทำการแรกถัดจากวันที่ผิดนัด และการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ที่ซื้อในวันเดียวกับวันที่ซื้อหลักทรัพย์ (Next day buy - in, same day settlement) โดยให้สำนักหักบัญชีเรียกเก็บหลักประกันของหลักทรัพย์ที่ผิดนัดส่งมอบเพื่อเตรียมการบังคับซื้อดังกล่าว เป็นหน่วยการ ซื้อขาย(Board Lot) ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2549 เป็นต้นไป

สำหรับการใช้เกณฑ์บังคับซื้อเพื่อส่งมอบหลักทรัพย์ที่ผิดนัดส่งมอบในวันทำการถัดจากวันที่ผิดนัดนับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารความเสี่ยงต่อระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์โดยรวม และเป็นไปตามมาตรฐานสากล อาทิ Recommendation ของ Group of Thirty (G-30) ซึ่งเป็นองค์กรด้านเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศและสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ [World Federation of Exchanges (WFE)]

ทั้งนี้เป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาดทุนไทย อันจะส่งผลให้ตลาดทุนไทยมีศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดทุนในภูมิภาค และพร้อมที่จะเข้าสู่การประเมินในโครงการ Financial Sector Assessment Program (FSAP) ที่จัดโดย InternationalOrganization of Securities Commissions (IOSCO)

อย่างไรก็ตาม บริษัท ศูนย์รับฝากฯ มีแผนที่จะเริ่มใช้เกณฑ์การบังคับซื้อหลักทรัพย์ที่ผิดนัดส่งมอบภายในวันที่ผิดนัด โดยให้มีการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ในวันที่ซื้อหลักทรัพย์ (Same day buy - in, same day settlement) ในราวปลายปี2550


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.