ยักษ์ค้าปลีกโวยกม.คุมเว่อร์เกิน


ผู้จัดการรายวัน(1 ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

แหล่งข่าวจากสมาคมค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ของกระทรวงพาณิชย์ที่กำลังปรับปรุงแก้ไข เป็นการจำกัดขยายสาขาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ (โมเดิร์นเทรด) มากเกินไป โดยเฉพาะการอนุมัติขยายสาขา แต่ละครั้ง แม้คณะกรรมการส่วนจังหวัดกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง (กจค.) จะมีอำนาจอนุมัติขยายสาขาในต่างจังหวัด แต่ก็ต้องส่งผลการพิจารณากลับมาให้คณะกรรมการกลางกำกับดูแลธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง (กกค.) อนุมัติอีกครั้งหนึ่ง ทำให้ต้องใช้ระยะเวลานาน

“น่าเปลี่ยนชื่อ พ.ร.บ. ค้าปลีกค้าส่ง เป็น พ.ร.บ. จำกัดการขยายสาขาโมเดิร์นเทรดดีกว่า เพราะดูภาพรวมของพ.ร.บ. แล้ว แทบจะเป็นการจำกัดการขยายสาขาทั้งหมด ส่วนอำนาจของกกค. มีเยอะมาก ทำให้กังวลว่า จะมีการเรียกร้องผลประโยชน์ของคณะกรรมการได้ง่ายขึ้น เพราะการขยายสาขาแต่ละครั้ง ต้องได้รับการอนุมัติจากกกค. เท่านั้น และไม่รู้ว่า ถ้าจะขยายสาขาแต่ละครั้ง 1 ปี จะได้หรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง จะสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจอย่างมาก ”

นายพันธุ์เทพ สุรีสถิตย์ ประธานสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกต่างชาติ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ยังมีหลายข้อที่ต้องแก้ไข เช่น การตั้งกกค. และกจค. มีสัดส่วนของหน่วยราชการมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการบล็อกโหวตได้ง่าย จึงต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ เพิ่มสัดส่วนภาคเอกชนมากขึ้น และให้ระบุหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดความสมดุล

นายสมภพ อมาตยกุล ประธานคณะทำงานศึกษา วิเคราะห์ พิจารณากำหนดรูปแบบวิธีการในการกำกับดูแลและส่งเสริมธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง กล่าวว่า การประชุมคณะทำงานฯครั้งที่ 2/2549 ได้ศึกษาวิเคราะห์กฎหมายต่างประเทศ เพื่อทราบถึงมาตรการกำกับดูแลส่งเสริมผู้ค้าปลีกทุกระดับ เพื่อนำมาใช้เป็นแนวคิดในการปรับปรุงกฎหมายค้าปลีกค้าส่งให้เป็นสากล โดยได้ศึกษากฎหมายจากประเทศต่างๆ ประมาณ 7-8 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศที่มีธุรกิจค้าปลีกในไทยด้วย

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้พิจารณาประเด็นเกี่ยวกับพฤติกรรมที่พึงละเว้น และพฤติกรรมที่ทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งจะมีการสรุปในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ทั้งนี้ ข้อสรุปที่ได้จะนำไปใช้ในการปรับร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งต่อไป

“เท่าที่ดูร่างกฎหมายพ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง ที่กรมการค้าภายในได้ปรับปรุงฉบับล่าสุดค่อนข้างจะดี มีลักษณะองค์ประกอบและวิธีปฎิบัติคล้ายต่างประเทศ แต่ต้องมาดูรายบละเอียดว่าพฤติกรรมใดบ้างที่พึงละเว้นและพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่คงไม่ต้องปรับปรุงมากเพียงแต่ให้สอดคล้องกับแนวคิดความพอเพียง วัฒนธรรมทางการค้า รัฐธรรมนูญ และระบบการค้าเสรี”

นายสมภพกล่าวว่า การแก้ไขกฎหมาย จะไม่ใช่การจำกัดสาขาของค้าปลีกต่างประเทศ แต่ทำเพื่อให้ทุกฝ่ายทั้งรายใหญ่และรายย่อยอยู่ด้วยกันอย่างสมดุล ซึ่งการจะเปิดสาขาจะต้องดูว่าพื้นที่มีการ่อยู่อาศัยจำนวนมาก ต้องาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมในสังคม และไม่ขัดการค้าเสรี


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.