"บิลล์ เกตต์ VS รัฐบาลสหรัฐฯ คู่ชกสมน้ำสมเนื้อ"


นิตยสารผู้จัดการ( สิงหาคม 2537)



กลับสู่หน้าหลัก

ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าไมโครซอฟต์ของบิลลี่ เกตต์ คือบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากการเป็นผู้ผลิตและเจ้าของระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า MS-DOS และ WINDOW หัวใจของระบบปฏิบัติการในเครื่องคอมพิวเตอร์ กว่าล้านเครื่องทั่วโลก แต่ความยิ่งใหญ่ของไมโครซอฟต์เปรียบเสมือนดาบ 2 คมที่พร้อมบาดมือเจ้าของได้ทุกเวลายามพลั้งเผลอ

ความยิ่งใหญ่ของไมโครซอฟต์ ทำให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นมือเข้ามาสอบสวนไมโครซอฟต์ด้วยข้อหาเจ็บปวดที่ว่า บริษัททำการผูกขาดวงการอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์

การประทะกันระหว่างรัฐบาลกับไมโครซอฟทำให้บริษัทคู่แข่งไมโครซอฟต์ถึงกับตีปีกและจับตาดูผลของการสอบสวนอย่างไม่คลาดสายตา นักวิเคราะห์หลายรายคาดว่า รัฐบาลอาจถึงขั้นออกคำสั่งให้ไมโครซอฟต์ เปิดเผยรายละเอียดของระบบปฏิบัติงานในซอฟต์แวร์ให้บริษัทอื่นรับรู้มากขึ้น บังคับให้ไมโครซอฟต์เปลี่ยนกระบวนการการออกใบอนุญาตใช้ซอฟต์แวร์ และแม้กระทั่งสั่งให้ไมโครซอฟต์ เปลี่ยนนโยบายราคาสินค้าเพื่อช่วยให้ตลาดสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผลของการตัดสินอาจไม่เป็นตามความคาดหมาย อย่างกรณี อีสต์แมน โกดักที่ถูกคู่แข่งฟ้องว่า ผูกขาดตลาดกล้องถ่ายรูปและฟิล์มแต่ผลการตัดสินกลับปรากฏว่า โกดักไม่มีความผิดจริงแต่อย่างใด ขณะที่เอทีแอนด์ที บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ กลับถูกกระทรวงยุติธรรมเล่นงานจนงอมพระรามคือในช่วงปี 1960 และ 1970 บริษัทถูกสั่งให้เปิดเครือข่ายให้บริษัทคู่แข่งรายอื่น ๆ เข้ามาร่วมทำกำไรบ้างจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมโหฬารในวงการโทรคมนาคมสหรัฐฯ

ส่วนเกตต์ เจ้าของไมโครซอฟต์และบุรุษที่เพิ่งได้รับตำแหน่งคนที่รวยที่สุดในสหรัฐฯ มาหมาด ๆ ได้ออกมาโต้การสอบสวนของกระทรวงฯ ว่า มาตรฐานระบบซอฟต์แวร์ของเขานำไปสู่การผูกขาดด้วยตัวของมันเองอย่างยากหลีกเลี่ยง แต่ขอให้ดูตรงจุดที่ว่า บริษัททำการแข่งขันอย่างยุติธรรมหรือไม่จะดีกว่า และช่วงที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้ไมโครซอฟต์เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ก็คือ ผลการดำเนินงานไม่ใช่การใช้เทคนิคสกปรกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามไมโครซอฟต์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการโจมตีขุมกำลังบริษัทในครั้งนี้ โดยกำลังเสาะหาตลาดใหม่ที่ตนพอจะรุกเข้าไปทำกำไรได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างธุรกิจเคเบิลทีวี และในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รุกเข้าไปยังตลาดซีดีรอมเอ็มไซโคลพีเดีย ซึ่งนับเป็นตลาดที่เจาะยากตลาดหนึ่ง เนื่องจากมีแต่คู่แข่งชนิดเขี้ยวลากดินทั้งนั้น อย่างกลอเรียและคอมป์ตัน แต่นั่นมิได้ทำให้เสือร้ายอย่างเกตต์หวาดกลัวแต่อย่างใด โดยเขาได้ส่ง "เอ็นคาร์ตา" เข้าไปชิมตลาดดูในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าเอ็นคาร์ตาตัวนี้มีจุดเด่นตรงกราฟฟิคสีสันเฉียบคม ค้นหาข้อมูลได้รวดเร็วทันใจโดยเฉพาะเอ็นคาร์ตารุ่นล่าสุดอัดแน่นไปด้วยภาพประกอบหลากสี 7,000 ภาพพร้อมเสียงและการ์ตูนที่จะคอยสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ใช้อย่างไม่รู้เบื่อสนนราคาเพียง 139 ดอลลาร์

ซีดี-รอมประเภทหนังสืออ้างอิงอีกตัวที่ขายดีมากของไมโครซอฟต์ได้แก่ "บุ๊คเชลฟ์" ที่บรรจุอรรถาพิธาน หนังสืออ้างอิงคำพูด สารานุกรมฉบับตั้งโต๊ะแผนที่โลก ประวัติศาสตร์โลกและอัลมาแนคไว้เต็มเปี่ยมในดิสค์แผ่นเดียวและถือเป็นสินค้านำร่องตัวแรกของไมรโครซอฟต์ในตลาดดิสค์เอ็นไซโคลพีเดีย สนนราคาแค่ 99.95 คอลลาร์เท่านั้น

อีกตลาดที่ไมรโครซอฟต์พยายามจะครอบครองส่วนแบ่งชิ้นโตให้เป็นผลสำเร็จคือซอฟต์แวร์ประเภทบันเทิงศึกษา สินค้าใหม่ที่กำลังมาแรงในหมู่เยาวชนโดยผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้เป็นกอบเป็นกำให้บริษัทตอนนี้ได้แก่ "ซีดี-รอมไดโนซอร์" ที่จะให้รายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับสัตว์ดึกดำบรรพ์ชนิดขุดถึงขั้นบรรพบุรุษของพวกมัน ด้วยภาพเคลื่อนไหวที่คมชัด พร้อมคำบรรยายประกอบจากนักดึกดำบรรพ์วิทยาตัวจริง ดอน เลสเซ็ม และที่น่าสนใจไม่แพ้กันเห็นจะเป็นซีดี-รอม นามมิวสิคัล อินสตรูเม็นทัล สารานุกรมทางดนตรีที่ให้ทั้งภาพ และเสียงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นไปพร้อม ๆ กันและ "อาร์ต กาลอรี่" ซีดี-รอมที่รวบรวมความรู้และเรื่องราวต่าง ๆ ของแนชั่นแนล กาลอรี่ในลอนดอนเอาไว้สำหรับผู้ใฝ่รู้เรื่องราวทางศิลปะ ทั้งสองชุดสนนราคาเพียงชุดละ 79.95 ดอลลาร์เท่านั้น



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.