กุหลาบแดงดอกน้อยๆ ของ Tom Cruise


นิตยสารผู้จัดการ( ธันวาคม 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

หลังจาก Tom Cruise พระเอกยอดนิยมวัย 44 ขวัญใจคนทั้งโลกและ Katie Holmes คู่ชีวิตแสนสวยวัย 27 ได้ลูกสาวสุดสวาทขาดใจ ซึ่งถือกำเนิดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2006 แล้ว ทั้งคู่ต้องผจญกับการตื๊อของสื่อมวลชนขอถ่ายภาพชุดลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา แต่พวกเขาไม่ยอมกระโจนลงไปเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมกระแสคลั่งไคล้นี้โดยเด็ดขาด แถมยังปล่อยให้ข่าวลือและการคาดเดาสารพัดอย่างเกี่ยวกับครอบครัว Cruise ดำเนินไปอย่างใจเย็น

Jane Sarkin ผู้เขียนบทความเรื่อง "Someone Wanted to See Me?" ของนิตยสาร Vanity Fair เล่าเบื้องหลังว่า เธอติดต่อขอถ่ายภาพชุดครั้งแรกของหนูน้อยครั้งแล้วครั้งเล่าเพียงเพื่อได้รับฟังคำปฏิเสธอย่างสุภาพทุกครั้ง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น ดาราชื่อก้องโลกอีกคู่หนึ่ง Brad Pitt และ Angelina Jolie ยอมให้มีการถ่ายและเผยแพร่ภาพชุดของ Shiloh ลูกสาวแรกคลอดแล้วนำรายได้บริจาคเข้าการกุศล แต่ Tom-Katie เลือกที่จะไม่ยอมให้ภาพชุดครั้งแรกของลูกน้อยเข้าไปเกี่ยวโยงกับเรื่องของเงินใดๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าพวกเขาจะยกย่องการตัดสินใจของเพื่อนดาราคู่ดังกล่าวก็ตาม

แต่แล้วในที่สุด Jane ก็ได้รับโทรศัพท์ติดต่อกลับในปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเพื่อได้รับคำตอบจาก Tom-Katie ว่า ทั้งคู่ตัดสินใจให้ลูกสาวสุดหวงปรากฏโฉมกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกนับจากลืมตาดูโลกและเลือกนิตยสาร Vanity Fair พร้อมกับเชิญ Jane Sarkin ผู้เขียนและ Annie Leibovitz ช่างภาพสาวไปทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ที่บ้านพักบนเนื้อที่ 400 เอเคอร์ ในเมือง Telluride มลรัฐ Colorado ในอีกสัปดาห์ถัดมา ทั้งสองใช้เวลาถึง 5 วันเต็มเก็บข้อมูลและกดชัตเตอร์ภาพของครอบครัว Cruise ด้วยความ เต็มใจยิ่งของเจ้าบ้าน

"ตลอดทั้ง 9 เดือนที่ตั้งท้อง ฉันอยากได้แต่สีชมพูเท่านั้น" Katie หรือ Kate ย้อนหลังประสบการณ์แสนสุข

ตอนนั้นว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่เชื่อมั่นว่าต้องได้ลูกสาว ตั้งแต่ก่อนตรวจอัลตราซาวด์ด้วยซ้ำ และช่วยกันตั้งชื่อลูกเตรียมไว้ "เราตั้งชื่อลูกรอไว้ตั้งแต่ก่อนจะตรวจและรู้ผลว่าเป็นเพศหญิงด้วยซ้ำ เราเชื่อว่าลูกต้องเป็นลูกสาวแน่ๆ" Tom ย้ำพร้อมเพิ่มเติมว่า

"เพื่อนๆ ส่งหนังสือตั้งชื่อเด็กมาให้ 2 เล่ม เมื่อเลือกมาถึงชื่อ Suri เราก็รักชื่อนี้ทันทีและพูดพร้อมๆ กันว่า "Suri Cruise" ต่อมาเรามารู้ในภายหลังว่าหมายถึง "กุหลาบสีแดง" ก็ต้องถือว่าเป็นโบนัสเลยล่ะ Suri... สมบูรณ์แบบจริงๆ"

กุหลาบแดงดอกน้อยๆ ของ Tom-Katie ลืมตาดูโลกในวันครบรอบ 1 ปีที่ทั้งสองออกเดทกันครั้งแรกพอดีเป๊ะ-18 เมษายน

"เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่แสนจะงดงาม เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของชีวิตเรา" Kate สรุป

ครอบครัวน้อยๆ ของ Cruise รอดพ้นมุมกล้องของปาปาราซซี่ และสื่อมวลชนได้ เพราะมีมุมสงบบนเนื้อที่ 400 เอเคอร์ที่อยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาสลับซับซ้อนของเทือกเขา Rockies อาทิ Wilson Peak, Gladstone Peak, Sunshine Peak และปากปล่องภูเขาไฟที่สงบแล้ว Lizard Head ซึ่งทั้งคู่เคยไปปีนเล่นด้วยกัน

Tom เริ่มวางแผนหาความสันโดษให้ตัวเองตั้งแต่ปี 1990 แต่เพิ่งจะถึงตอนนี้นี่เองที่เขาถือว่าความฝันกลายเป็นจริง เขาบรรลุทุกอย่างที่เคยใฝ่ฝันเอาไว้ไม่ว่าจะเป็นการมีมุมสงบอยู่ในหุบเขา มีบ้านอบอุ่นไปด้วยสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ เป็นบ้านที่เขาสามารถเลี้ยงดูลูกๆ ให้เติบโตขึ้นมา "ผมใฝ่ฝันจะได้เป็นพ่อคนมาตลอดทั้งชีวิต ผมบอกกับตัวเองเสมอว่า ลูกๆ จะมีผมเป็นที่พึ่ง และผมจะอยู่ให้พวกเขาพึ่งและให้ความรักแก่พวกเขาเสมอ ผมจะไม่ให้สัญญาอะไรกับลูก ถ้ารู้ตัวว่าจะรักษาสัญญาไม่ได้ ผมไม่ใช่คนประเภทที่เชื่อว่าคุณสามารถตามใจลูกจนเสียคนด้วยการให้ความรักมากเกินไป คุณให้ความรักลูกมากเกินไปไม่ได้ ไม่มีทางเลย"

ทุกเช้าเมื่อพ่อ-แม่-ลูก Tom-Katie-Suri ตื่นนอนขึ้นในห้องนอนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยหน้าต่างบานมหึมา ทำให้เห็นทิวทัศน์ของเทือกเขา Rockies เต็มๆ ตา ทั้ง Bella สาวน้อยวัย 13 และ Conner หนุ่มน้อยวัย 11 ที่ Tom รับเป็นลูกบุญธรรมเมื่อครั้งแต่งงานกับดาราสาวแสนสวย Nicole Kidman จะเดินหัวยุ่งออกจากห้องนอนของตัวเองมุ่งตรงมาที่ห้องนอนใหญ่ทันที แล้วโถมตัวลงเกลือกกลิ้งบนเตียงยักษ์ของ Tom แล้วแย่งกันเป็นคนแรกที่ได้อุ้มน้องน้อยออกจากเปล หรือไม่ก็ป้อนนมขวดให้อย่างขมีขมัน

บ้านของ Tom มีลักษณะเหมือนกระท่อมหรือลอดจ์ที่กินพื้นที่เหยียดยาวออกไปบนเนื้อที่กว้างและให้ความรู้สึกของ log-cabin แบบชนบทที่มีบรรยากาศไม่เป็นทางการ โปร่งโล่ง รับลมเต็มที่ และสร้างจากไม้ที่ตายแล้วสีน้ำผึ้งสวยงามจากมลรัฐ Oregon ในส่วนที่เป็นห้องชุมนุมของครอบครัวมีเตาผิงทำด้วยหินขนาดยักษ์ที่สร้างโดยช่างฝีมือถิ่นนั้น ครอบครัว Cruise รักที่จะใช้เวลาขลุกอยู่ในครัว ห้องอาหาร และห้องนั่งเล่นมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ก็มีเรือนรับรองอีกหลังหนึ่ง

ด้วยจิตวิญญาณของความรักกีฬาและการแข่งขันของ Tom ทำให้เขาส่งเสริมและนำให้เด็กๆ เล่นกีฬาสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ตกปลา ออกกำลังกาย เดินป่า แถมยังมีสนามโมโตครอสที่สร้างขึ้นเอง เอาไว้สนุกกับความเร็วด้วย

Tom-Katie เล่าว่าช่วง 3 เดือนแรกหลัง Suri น้อยลืมตาดูโลก พวกเขาต้องการจะเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อย่างเดียวเท่านั้น จึงเก็บตัวเงียบอยู่ใน Los Angeles แล้วอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ สั่งอาหารจากห้องอาหารในท้องถิ่นมากินที่บ้าน และไม่แยแสกับข้อเสนอขอถ่ายภาพชุดอะไรทั้งสิ้น Kate เล่าเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า

"Suri เกิดตอนภาพยนตร์เรื่อง M.I. 3 (Mission Impossible III) ลงโรงพอดี ทันทีที่ Tom เสร็จจากงานโปรโมตภาพยนตร์ สิ่งที่เราต้องการทำมีอย่างเดียวเท่านั้นคือ อยู่กับ Suri และครอบครัวและเพื่อนๆ ของเรา ไม่ต้องการวุ่นวายกับการถ่ายรูปอะไรทั้งนั้น ฉันอยากมีความสุขกับช่วงเวลาอันล้ำค่านี้กับลูกสาวจริงๆ เพราะรู้ว่าถ้าพลาดโอกาสนี้ไปแล้วจะย้อนคืนมาไม่ได้อีก"

"เราอยากอยู่กันตามลำพังเป็นชีวิตครอบครัว" Tom ยืนยัน "จริงๆ แล้ว เราถ่ายรูปไว้เองมากมายและมีแผนจะเผยแพร่อยู่แล้วเมื่อถึงเวลาเหมาะสม"

"แล้วความโกลาหลอย่างบ้าคลั่งก็อุบัติขึ้น" Kate เล่าต่อ "มีแต่คำถามโต้เถียงกันว่า Suri อยู่ที่ไหน? ฉันกับ Tom ได้แต่มองหน้ากันงงๆ และถามว่าเกิดอะไรขึ้น? เราไม่ได้พยายามซ่อนอะไรเลย"

Kate ยังเล่าประสบการณ์ความเจ็บปวดที่ได้รับจากข่าวลือและข่าวซุบซิบระหว่างเธอตั้งครรภ์ว่า

"ฉันรู้ว่า Tom คุ้นเคยกับเรื่องพวกนี้มากกว่า สำหรับตัวฉันตอนนั้นรู้แต่ว่า ดีใจสุดๆ ที่รู้ตัวว่าท้อง แต่แล้วก็ต้องทนกับเสียงเย้ยหยันเกี่ยวกับการตั้งท้องของฉัน ที่เป็นอย่างนี้เพราะทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้ไม่มีอะไรให้ขุดคุ้ยได้นั่นเอง ทุกอย่างที่เป็นข่าวออกมาจึงล้วนแต่กุขึ้นมาทั้งนั้น"

เกี่ยวกับข่าวลือที่ว่าพวกเขาลงทุนซื้อเครื่องอัลตราซาวด์มาตรวจดูเด็กในท้องเองที่บ้านนั้น Kate อธิบายว่า

"เรื่องเครื่องโซโนแกรมนี่ก็ไร้สาระสิ้นดี เพราะพวกปาปาราซซี่คอยตามเราตลอดเวลา ทำให้ต้องเชิญหมอมาตรวจที่บ้าน หมอจึงเอาเครื่องโซโนแกรมมาตรวจให้ด้วย!"

Tom จึงเสริมพร้อมพูดถึงปรัชญาชีวิตว่า

"ชีวิตต้องมีดุล โดยเฉพาะกับความเศร้าเสียใจ แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นกลับช่วยให้เราได้ซาบซึ้งกับความสุขในชีวิตได้ดีขึ้น เราจะไม่มีวันลืมห้วงทุกข์ แต่คุณก็ต้องรู้จักเฉลิมฉลองปีติยินดีในความสุขด้วย และ Suri ก็คือความสุข

การมีลูกเป็นการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ไม่มีพ่อแม่คนไหนจะไม่ซาบซึ้งกับช่วงเวลานั้น และต่อมาก็หวนรำลึกถึงลูกๆ และหลานๆ มันเป็นวัฏจักรของชีวิต"

แปลและเรียบเรียงโดย ดรุณี แซ่ลิ่ว
จากนิตยสาร Vanity Fair/October 2006


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.