อิออนระดมทุน1พันล้านขยายธุรกิจจีอี มันนี่ทุ่มงบรีแบรนด์เฟิร์สช้อย


ผู้จัดการรายวัน(28 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AEONTS กล่าวว่า บมจ.อิออน ได้รับความเชื่อถือจากสถาบันการเงินญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องให้สินเชื่อเงินกู้ร่วมอีกครั้ง ในวงเงิน 6 พันล้านเยน หรือประมาณ 1,870 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยเซ็นสัญญาเมื่อวันที่15 พฤศจิกายน 2549 ที่ผ่านมา

สถาบันการเงินจากญี่ปุ่นที่อนุมัติให้สินเชื่อมีจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ Mizuho Corporate Bank ,Ltd. ซึ่งเป็นธนาคารกลางจัดสรรเงินกู้ร่วมกับ ,Resona Bank ,Ltd. , Sompo Japan Insurance Inc. ,และTokio Marine & Nichido Fire Insurance Co.,Ltd. โดยสินเชื่อดังกล่าวได้รับเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษ BBA LIBOR plus 0.40% ตลอดระยะเวลา 3 ปี การปล่อยสินเชื่อดังกล่าวของสถาบันการเงินญี่ปุ่นได้สะท้อนภาพความเชื่อมั่นในธุรกิจของ บมจ.อิออนฯและตลาดสินเชื่อรายย่อยของประเทศไทย แม้จะมีเหตุการณ์ยึดอำนาจและปฏิรูปการเมืองก็ตาม

นายมาซาโอะเปิดเผยผลประกอบการที่ผ่านมาว่า ในรอบปีบัญชี 2005 บมจ.อิออนฯมีฐานลูกค้าจากบัตรสมาชิก และเครดิตการ์ด รวม 3.8 ล้านราย โดยมีรายได้รวม 6,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้ 4,931 ล้านบาท โดยมีผลกำไรสุทธิ 981 ล้านบาท เพิ่มขึ้น25%จากปีก่อนซึ่งกำไรสุทธิ 784 ล้านบาท

"บริษัทฯได้พยายามอย่างยิ่งที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสินเชื่อแก่ลูกค้า และยังมีนโยบายที่จะดำเนินการเพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆเพื่อเป็นการสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว การปล่อยสินเชื่อเกิดการขยายตัว และก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง บริษัทฯ จึงต้องมีการระดมทุนเพื่อนำมาใช้ในการหมุนเวียนธุรกิจ การระดมทุนจากต่างประเทศในครั้งนี้ จะทำให้อิออนมีแหล่งเงินทุนหลากหลายขึ้นจากเดิม"

จีอีรีแบรนด์เฟิร์สช้อยส์

นางสาวณญาณี เผือกขำ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ บริษัทจีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยส์คาร์ด จีอี มันนี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท ได้ทำการรีแบรนด์ เฟิร์สช้อย มาเป็น จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยคาร์ด เพื่อต้องการให้ลูกค้าทราบว่า จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยคาร์ด เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้ จีอี มันนี่ ที่ให้บริการทางด้านสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระซึ่งการทำรีแบรนด์ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ลูกค้ามีความมั่นใจในการใช้บริการ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าที่ต้องการทำสินเชื่อ ทั้งนี้ทางจีอี มันนี่ คาดหวังว่าลูกค้าจะหันมาให้ความสนใจและใช้บริการกับ จีอีมันนี่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ทาง จีอี มันนี่ ยังได้วางแนวทางในการให้บริการลูกค้าแบบ(Customer Centric) หรือมุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค(Product Innovation) และการให้บริการที่รับผิดชอบต่อลูกค้า(Responsible Lending) โดยคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระคืนของลูกค้า เพื่อป้องกันไม่ให้ประสบภาวะขาดสภาพคล่องหรือต้องแบกรับสภาวะทางการเงินมากจนเกินไป ขณะเดียวกันยังเน้นความโปร่งใส(Transparency) ด้วยการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อให้ลูกค้าสามารถทำความเข้าใจในรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ก่อนการตัดสินใจ

“การรีแบรนด์ในครั้งนี้ จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยคาร์ด ต้องการสร้างความชัดเจนทางการตลาดและความแข็งแกร่งของบริษัทและต้องการทำให้ลูกค้ามั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยจะมุ่งเน้นแข่งขันที่ความน่าเชื่อถือและการให้บริการที่ดีและความรับผิดชอบต่อลูกค้าเป็นสำคัญ” นางสาว ณญาณี กล่าว

ทั้งนี้ ทางจีอี มันนี่ เฟิร์สช้อยคาร์ด ได้เปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าแบบผ่อนชำระ ณ. ห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกชั้นนำกว่า 6,000 แห่ง สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ จีอี มันนี่ให้ความสนใจที่จะเจาะตลาดมากที่สุด คือ กลุ่ม ลูกค้าที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดคิดเป็นสัดส่วน 50-60% ส่วนลูกค้าที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯคิดเป็นสัดส่วน 40%เท่านั้น เพราะ ทางจีอี มันนี่ ต้องการที่จะให้ลูกค้าต่างจังหวัดรู้จักและให้ความไว้วางใจที่จะใช้บริการกับ จีอี มันนี่

อย่างไรก็ตาม ในการรีแบรนด์ครั้งนี้ ทาง จีอี มันนี่ ยังมีกิจกรรม จีอี มันนี่เฟิร์สช้อยคาร์ด กิฟท์คาราวาน หนึ่งฝันจากพันดาว เพื่อมอบให้กับลูกค้าในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ สำหรับงบประมาณที่ใช้จัดทำกิจกรรมทั้งหมดในตอนนี้จวบจนถึงต้นปีหน้าประมาณ 50,000,000 ล้านบาท แม้ว่าการทำรีแบรนด์ทาง จีอี มันนี่ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายของฐานลูกค้าแต่เน้นไปที่การให้บริการลูกค้าเป็นหลัก แต่จำนวนฐานลูกค้าของจีอี มันนี่ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดเป็นฐานลูกค้าเก่าของเฟิร์สช้อยและมีฐานเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ 15,000 บาท ทั้งนี้ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยที่ จีอี มันนี่ เฟิร์สช้อย จะเรียกเก็บอยู่ในระดับ 20-25% แต่ไม่เกิน 28%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.