เครื่องสำอางออแกนิกขยายสู่ตลาดมวลชน

เครื่องสำอางออแกนิกขยายสู่ตลาดมวลชน

ผู้จัดการรายสัปดาห์(27 พฤศจิกายน 2549)

กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดเครื่องสำอางโดยรวมขณะนี้มีทิศทางไปในทางบวกมากขึ้นจากเดิมอย่างน่าพอใจ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มีฐานะทางรายได้ที่ดีขึ้น ประกอบกับสถานการณ์โดยรวมทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปในทางที่กระเตื้องดีขึ้น ซึ่งล้วนแต่เป็นไปในแนวทางที่เป็นผลดีต่อการประกอบการกิจการเครื่องสำอางมากขึ้น โดยเฉพาะแนวโน้มของเครื่องสำอางประเภท “ออแกนิก” ที่ชื่อเริ่มเป็นที่คุ้นเคยในวงการตลาดโลกมากขึ้นตามลำดับ

ในช่วงเวลาเพียงไม่นานนัก นักการตลาดได้มองเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วของกิจการเครื่องสำอางออแกนิก โดยเฉพาะแบรนด์ที่มาจากร้านเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการดูแลผิวพรรณชื่อ Careel + Hayden และบรรดาร้านค้าปลีกอาหารออแกนิก ตลอดจนอาหารจากธรรมชาติที่มีจำนวนการเติบโตของกิจการร้านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนนักการตลาดเชื่อว่าเครื่องสำอางออแกนิกจะกลายเป็นสายผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างถาวรในตลาดโลกในอนาคต

“มิเนอรัล ฟิวชั่น” เป็นหนึ่งในแบรนด์เครื่องสำอางออแกนิกที่ผลิตขึ้นมาเพื่อให้มีบทบาทในตลาดเครื่องสำอางออแกนิกอย่างมากในระยะหลังๆ นี้ ด้วยการวางเป้าหมายที่จะวางตำแหน่งทางการตลาดในฐานะกิจการที่มีอัตราการเติบโตของเครื่องสำอางออแกนิกที่รวดเร็วรายหนึ่งของโลก

รูปแบบที่น่าสนใจของสินค้าในกลุ่มเครื่องสำอางออแกนิกยี่ห้อ “มิเรอนัล ฟิวชั่น” ก็คือ การผสมผสานระหว่างเครื่องสำอางดูแลผิวพรรณ แอนตี้ ออกซิเดนท์ คุณสมบัติในการเป็นเมคอัพ และการปกป้องรังสียูวี โดยวัตถุดิบในการผลิตมาจากสารจากธรรมชาติแทนสารเคมี

นอกจากรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ เพราะสามารถช่วยเสริมความงามให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจรแล้ว ความแตกต่างในด้านการดำเนินงานทางการตลาดของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออแกนิกก็เป็นสิ่งที่นักการตลาดในวงการตลาดเครื่องสำอางให้ความสนใจ เพราะผู้ประกอบการเครื่องสำอางประเภทนี้เลือกที่จะใช้ช่องทางการจำหน่ายผ่านทางร้านจำหน่ายอาหารออแกนิก แทนการจำหน่ายผ่านร้านเครื่องสำอางตามปกติที่เป็นช่องทางการจำหน่ายหลักของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทั่วไป

การที่ผู้ประกอบการเครื่องสำอางออแกนิกเลือกใช้ช่องทางการตลาดผ่านทางร้านอาหารโดยเฉพาะโฮล ฟูดส์ มาร์เก็ต ที่เชื่อว่าน่าจะลงตัวอย่างดีกับแบรนด์มิเนอรัล ฟิวชั่น ด้วยการช่วยสร้างสรรค์กิจกรรมที่เน้นในด้านการจัดแสดงสินค้าเครื่องสำอางของตนในร้านอาหารออแกนิกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความจดจำและความเชื่อมั่นในสินค้าของแบรนด์

นอกจากนั้นยังเป็นการแสดงถึงเจตนาที่เครื่องสำอางออแกนิกรายนี้ ตั้งใจที่จะวางตำแหน่งทางการตลาดไว้ในกลุ่มเดียวกัน หรือพยายามต่อยอดลูกค้ากลุ่มที่บริโภคอาหารออแกนิกอยู่แล้วเป็นฐานในการขยายกิจการของเครื่องสำอางออแกนิกของตน

ส่วนผสมหลักที่เป็นสารจากธรรมชาติที่ใช้มาจากกลุ่มของชาแดง ที่มีคุณสมบัติสำคัญในการปกป้องผิวจากรังสียูวี กระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้คงอยู่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามอายุ และยังทำหน้าที่เป็นป้องกันมิให้ผิวหนังไหม้เกรียมจากแสงแดด

การวางตำแหน่งทางการตลาดในกลุ่มเดียวกับอาหารออแกนิก มีความสำคัญมากต่ออนาคตในระยะยาวของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออแกนิก

ดูเหมือนว่าผู้บริหารของบริษัทแครีล พลัส ฮาย์เดน จะเชื่อว่าอาหารออแกนิกได้รับความเชื่อถือในฐานะของอาหารที่มีคุณภาพสูงจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ และการที่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ทำให้คุณค่าของเครื่องสำอางออแกนิกไม่น่าจะมีความแตกต่างไปจากอาหารออแกนิกเหล่านั้นด้วย

ความหวังของผู้บริหารของบริษัทคือ การขยายช่องทางการตลาดและสัดส่วนทางการตลาดออกไปสู่ตลาดระดับมวลชนในวงกว้าง สำหรับตลาดลูกค้ารายได้ระดับกลาง ผ่านร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ด้วย โดยเฉพาะเมคอัพที่เป็นชาเขียวในระดับราคาประหยัดสำหรับลูกค้า เพื่อแสดงว่าเครื่องสำอางออแกนิกเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่เป็นประโยชน์กับผู้บริโภคทุกคน

นอกเหนือจากบริษัทแครีลแล้ว บริษัทเจน คอสเมติกส์ ก็เพิ่งเปิดตัว บี เพียว มิเนอรัล เพื่อวางจำหน่ายในตลาดสหรัฐฯไปเมื่อไม่นานมานี้ ด้วยระดับราคาระหว่าง 3-7 ดอลลาร์ต่อชิ้น โดยวางตำแหน่งทางการตลาดของเมคอัพไว้ที่การเป็นเครื่องสำอางออแกนิกที่ปราศจากน้ำมัน แวกซ์ แป้ง หรือ น้ำหอม

ผู้เชี่ยวชาญในวงการตลาดเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ออแกนิกกล่าวว่า การดำเนินธุรกิจเครื่องสำอางออแกนิก มีเคล็ดลับบางประการที่น่าจะต้องได้รับการพิจารณาจากกิจการที่สนใจ เช่น ประการแรก การเปิดตัวเครื่องสำอางออแกนิกจะต้องทำให้แน่ใจว่าได้ใส่ใจทั้งการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและทั้งผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ได้หลงลืมด้านใดด้านหนึ่งไป

ประการที่สอง ผู้ประกอบการต้องถือว่าสินค้าเครื่องสำอางออแกนิกของตนเป็นทางเลือกหนึ่งที่มาจากกลุ่มสารจากธรรมชาติ ที่น่าจะมีความปลอดภัยกว่าเครื่องสำอางทั่วไป ไม่ใช่สินค้าที่จะเข้าไปครองตลาดส่วนใหญ่

กระนั้นก็ตาม อัตราการเติบโตของสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางออแกนิกนี้ คาดว่าถ้าดำเนินไปในระดับเช่นเดียวกับระยะที่ผ่านมาก็จะสามารถผ่านยอดการจำหน่ายรวมทั้งหมดในตลาดไม่น้อยกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ หรือในอัตรา 20% ต่อปีทีเดียว

สิ่งที่เกิดขึ้นจากการบุกเบิกตลาดเครื่องสำอางออแกนิกของผู้ประกอบการบางราย และมีท่าทีว่าน่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี ได้ทำให้เกิดความตื่นตัวในทางการตลาดได้ไม่น้อยเพราะมีท่าทีว่าจะมีบริษัทเครื่องสำอางอีกหลายบริษัท เตรียมการพัฒนาสายเครื่องสำอางออแกนิกเพิ่มเติมขึ้นจากสายผลิตภัณฑ์เดิม เพื่อฉวยโอกาสในระหว่างที่ตลาดกำลังเป็นช่วงขาขึ้นเช่นนี้

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย