แบงก์เปิดศึกหั่นราคาปั๊มยอดNPAดันตลาดอสังหาฯมือสองคึกส่งท้ายปี


ผู้จัดการรายวัน(22 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ตลาดอสังหามือ 2 คึกคักช่วงปลายปี สถาบันการเงินแห่ขนเอ็นพีเอขาย หวังเศรษฐกิจปลายปีช่วยดันยอดให้ถึงเป้าที่ตั้งไว้ "ธอส."จัดสินทรัพย์มือสองกว่า 3 พันรายการ มูลค่า 1.5 พันล้านออกขาย พร้อมเงื่อนไขพิเศษดาวน์ 10% นาน 12 เดือน ส่วน"กรุงไทย"จัดทรัพย์กว่า 1,000 รายการ ขายในงานมหกรรม KTB NPA Grand Sale ระว่างวันที่ 24-25 พ.ย. คาดขายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และหากไม่ได้ตามเป้าทั้งปีเตรียมจัดอีกล็อต 15-16 ธ.ค. ด้านแบงก์กรุงศรีฯยังนิ่งยันพอใจยอดขายทะลุเป้า 5 พันล้าน

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดงานประมูลทรัพย์มือสอง ครั้งที่ 3/2549 พร้อมกันทั่วประเทศเพื่อเป็นการส่งท้ายปี โดยได้คัดทรัพย์มือสองคุณภาพดี กว่า 3,000 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท โดยทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 200 รายการ มูลค่ากว่า 168 ล้านบาท จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2549 ตั้งแต่เวลา 10.00 - 16.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ชั้น 3 อาคาร 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ และในส่วนภูมิภาค จะจัดให้มีการประมูล ณ ที่ทำการสาขาที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่ ทั้งนี้ได้กำหนดราคาเริ่มต้นประมูลต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบันสูงสุดถึง 20%

นายขรรค์กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารได้จัดให้มีการจัดประมูลทรัพย์มือสองของธนาคารเป็นประจำทุกปี ๆละ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้นับเป็นโอกาสทองส่งท้ายปี สำหรับประชาชนที่กำลังหาซื้อบ้านเป็นของตนเอง ซึ่งนอกจากธนาคารได้ลดราคาสำหรับเริ่มประมูลต่ำกว่าปัจจุบันสูงถึง 20 % แล้ว ธนาคารยังได้เตรียมเงื่อนไขพิเศษ คือ เมื่อประมูลซื้อทรัพย์ได้โดยวางเงินประกัน เพียงร้อยละ 1.5 ของราคาซื้อ สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที โดย 10% แรกสามารถผ่อนชำระได้นาน 12 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย และส่วนที่เหลือธนาคารจะให้กู้ได้สูงสุด 90% ของราคาขาย

กรุงไทยจัดงานมหกรรม KTB NPA Grand Sale

ด้านนายสายัณห์ สตางค์มงคล รองกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารสินทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ธนาคารกำหนดจัดงานมหกรรม KTB NPA Grand Sale ในระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2549 โดยนำทรัพย์สินในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทั้งโกดัง ที่ดินเปล่า ทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว โรงงาน ห้องชุด อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ฯลฯ กว่า 1,000 รายการ มูลค่า 2,800 ล้านบาท จำหน่ายโดยตรงที่บริเวณชั้น 1 อาคารสุขุมวิท

นอกจากนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก ธนาคารยังเปิดจำหน่าย NPA ก่อนและหลังงาน 7 วันทำการ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถยื่นคำเสนอซื้อได้ตั้งแต่บัดนี้ที่ฝ่ายบริหารทรัพย์สินรอการขาย 1 ชั้น 16 อาคารสุขุมวิท การจำหน่าย NPA ธนาคารใช้หลักเกณฑ์ ผู้เสนอซื้อก่อน มีสิทธิ์ก่อน และหากมีผู้เสนอซื้อทรัพย์รายการเดียวกัน พร้อมกันมากกว่า 1 ราย จะใช้วิธียื่นซองแข่งขันราคา โดยผู้เสนอซื้อเพียงวางเงินประกันการซื้อ 10,000 บาท กรณีทรัพย์มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และ 50,000 บาท กรณีทรัพย์ราคา 1-10 ล้านบาท ส่วนทรัพย์ที่มีราคาเกิน 10 ล้านบาท วางเงินประกัน 5%ของราคาเสนอขาย

นายสายัณห์กล่าวอีกว่า ลูกค้าที่ซื้อ NPA สามารถยื่นขอสินเชื่อภายในงาน ซึ่งธนาคารให้สิทธิพิเศษสามารถกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยได้ 90% ของราคาซื้อขาย และให้กู้เพิ่มเพื่อปรับปรุงต่อเติม ซ่อมแซมบ้านได้อีก ในวงเงินกู้รวมถึง 110% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 4.25%ต่อปี หลังจากนั้นคิด MLR1-0.25%ต่อปี ส่วนกรณีกู้ซื้อที่ดินเปล่ากู้ได้ 80%ของราคาซื้อขาย โดยปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย MLR-1.00%ต่อปี ปีที่ 2 MLR-0.50% หลังจากนั้นคิด MLR ซึ่งปัจจุบัน MLR อยู่ที่ 7.75%ต่อปี

“การจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะจำหน่ายทรัพย์สินได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งตั้งแต่ต้นปีธนาคารได้จัดงานจำหน่าย NPA ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้สามารถลด NPA ลงได้ 4,300 ล้านบาท นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ NPA ลดลงตามเป้าหมายธนาคารจะจัดงานมหกรรม KTB NPA Grand Sale อีกครั้งในวันที่ 15-16 ธันวาคม 2549” นายสายัณห์กล่าว

นายสรรสฤษดิ์ เย็นบำรุง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในสิ้นปีธนาคารตั้งเป้าระบายสินทรัพย์รอการขาย (NPA) ออก 5,000 ล้านบาท จากต้นปีอยู่ที่ 17,000-18,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนตุลาคมธนาคารสามารถขายออกทอดตลาดไปได้แล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท

“ทั้งปีตั้งเป้าระบาย NPA ออก 5,000 ล้านบาท ถึงสิ้นปีคาดว่า NPA จะอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับที่ผ่านมาคงไม่น่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากว่าแม้เราจะขายออกไปได้ แต่ที่รับโอนมาจากกรมบังคับคดีก็ยังมีทยอยเข้ามาอยู่เรื่อยๆ” นายสรรสฤษดิ์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าในการโอนทรัพย์ให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.)ไปบริหาร หลังจากที่ได้ลงนามในสัญญาบันทึกข้อตกลงเพื่อการซื้อขายทรัพย์สินรอการขาย (NPA) กับ บสก.และสถาบันการเงิน 16 แห่ง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2549 ที่ผ่านมา นั้นขณะนี้ในส่วนของธนาคารยังไม่ได้มีการโอนทรัพย์ไปให้ บสก.บริหารเนื่องจากอยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดสรรทรัพย์และแบ่งเกรดว่าจะนำส่วนไหนออกกี่รายการ ราคาเท่าไหร่ จัดออกไปให้ บสก.รับโอนไปบริหารต่อ

ก่อนหน้านี้ ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)โดยนางกุลวดี กุลเนตุ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานบริหารทรัพย์สินพร้อมขาย เปิดเผยว่าธนาคารได้นำทรัพย์ประเภทโรงงานและที่ดินแปลงใหญ่ในพอร์ตของธนาคารจำนวน 25 แปลง รวมมูลค่ากว่า 700 ล้านบาทมาขายลดราคาต่ำกว่าทุนกว่า 100 ล้านบาทเพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจเลือกซื้อเพื่อการลงทุน ทั้งนี้ทรัพย์ประเภทโรงงานผลิตสินค้าต่าง ๆ 16 รายการรวมมูลค่าปกติมากกว่า400 ล้านบาท แต่ธนาคารได้กำหนดราคาขายรวมเหลือเพียง 300 ล้านบาท หรือมีส่วนลดมากกว่า 100 ล้านบาท

สำหรับทรัพย์เพื่อการลงทุนมีทั้งประเภทที่ดินเปล่าแปลงขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียงสุวรรณภูมิหรืออาคารสำนักงานร่วม 10 รายการ มูลค่ารวม 300 ล้านบาทมาให้เลือกจับจองเพื่อการลงทุนพร้อมด้วยเงื่อนไขพิเศษสำหรับผู้สนใจ การนำทรัพย์ประเภทโรงงานและทรัพย์เพื่อรอการขาย

ทั้งนี้ การลงทุนออกจำหน่ายล็อตใหญ่ในครั้งนี้เพราะธนาคารเล็งเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยหากพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2548 จะพบสัญญาณการเติบโตและการใช้ปัจจัยกำลังผลิตขยายตัวมากแม้จะชะลอตัวลงบ้างในช่วงปี2549 แต่ระยะ 1-2 เดือนหลังนี้ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในขณะที่ปัจจัยลบที่กดดันเศรษฐกิจไทยเริ่มผ่อนคลายลงทำให้หลายฝ่ายเชื่อมั่นในการขยายตัวต่อไปของเศรษฐกิจไทย และนักธุรกิจเริ่มหาช่องทางลงทุนเพื่อรับภาวะการขยายตัวรอบใหม่ทรัพย์สินของธนาคารส่วนนี้จะเพิ่มโอกาสและทางเลือกให้กับนักธุรกิจที่ต้องการขยายการลงทุน


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.