NNCLเย้ยตลาดเมินห้ามเน็ตฯ"ชยุตม์"ได้ลูกหุ้น


ผู้จัดการรายวัน(22 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยในช่วงตลอดเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการเข้ามาไล่เก็บหุ้นและดันราคาหุ้นขนาดเล็กหลายบริษัท ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL, ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทนวนคร จำกัด (มหาชน) หรือ NNCL-W1, หุ้นบริษัท อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ RK, บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC, บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS, บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP เป็นต้น

ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามเกี่ยวกับมาตรการการดูแลของหน่วยงานที่กำกับดูแลให้การซื้อขายเป็นไปโดยปกติ อย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย น่าจะมีการกระทำบางอย่างออกมา เพื่อสะกัดกั้นไม่ให้การปรับตัวสูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อนักลงทุนรายย่อย ที่อาจจะต้องกลายเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบ หากกลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาสร้างความผิดปกติให้แก่หุ้นบริษัทใดบริษัทหนึ่งถึงจุดที่พอใจกับผลตอบแทนที่ได้รับและเทขายหุ้นออกมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ตลาดหลักทรัพย์ฯใช้มาตรการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (Net Settlement) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (Margin Trading) หุ้น NNCL, NNCL-W1, RK เป็นเวลา 30 วันทำการทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 ถึง 5 มกราคม 2550 หลังปรากฎว่ามีการเปลี่ยนแปลงของราคา และมูลค่าการซื้อขายรวมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากช่วงเวลาก่อนหน้าและมีการซื้อขายอย่างกระจุกตัวในหลักทรัพย์ดังกล่าว โดยไม่มีสารสนเทศใดที่มีผลกระทบต่อสภาพการซื้อขาย

ด้านความเคลื่อนไหว 3 หุ้นเก็งกำไรที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องใช้มาตรการห้ามเน็ตเซ็ทเทิลเมนต์และมาร์มาร์จิ้นเทรดดิ้งวานนี้ (21 พ.ย.) โดย NNCL ราคาปิดที่ 4.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 0.82% มูลค่าการซื้อขาย 63.64 ล้านบาท, NNCL-W1 ราคาปิดที่ 3.10 บาท ลดลง 0.04 บาท หรือ 1.27% มูลค่าการซื้อขาย 350.74 ล้านบาท, RK ราคาปิดที่ 4.08 บาท ลดลง 0.22 บาท หรือ 5.12% มูลค่าการซื้อขาย 38.85 ล้านบาท ขณะที่ NEP ราคาปิดที่ 4.58 บาท ลดลง 0.32 บาท หรือ 6.53% มูลค่าการซื้อขาย 17.74 ล้านบาท

ทั้งนี้ มีการทำรายการซื้อขายในกระดานรายใหญ่ใน NNCL-W1 จำนวน 2 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ย 3.10 บาท รวมเป็นเงิน 6.2 ล้านบาท

ขณะนี้หุ้นเก็งกำไรกลุ่มที่กลับมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นบมจ.ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ หรือ TFI โดยราคาปิดที่ 1.62 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 6.58% มูลค่าการซื้อขาย 72.18 ล้านบาท , บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น หรือ SYNTEC ราคาปิดที่ 1.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.33 บาท หรือ 29.20% มูลค่าการซื้อขาย 455.80 ล้านบาท,บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หรือ N-PARK ราคาปิดที่ 0.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 9.52% มูลค่าการซื้อขาย 185.77 ล้านบาท

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การดำเนินมาตรการกับ 3 หุ้นเก็งกำไรเมื่อวานนี้ เพื่อเป็นการเตือนนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายในช่วงที่ผ่านมาเป็นไปแบบไม่ปกติ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้ห้ามให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน เพียงแต่หากจะลงทุนจะต้องใช้เงินสดในการลงทุนเท่านั้น

โดยขั้นตอนต่อไปตลาดหลักทรัพย์ฯจะเข้าไปตรวจสอบในเชิงลึกเรื่องการสร้างราคา หรือการใช้ข้อมูลภายในว่ามีหรือไม่ ซึ่งขณะที่อยู่ระหว่างรอและประเมินข้อมูลการซื้อขายที่ได้ขอไปยังบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งหากพบความผิดก็พร้อมที่จะส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

"การเก็งกำไรถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ซึ่งหากพบว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นไม่ปกติ ก็จะมีการขอข้อมูลการซื้อขายไปยังโบรกเกอร์ เพื่อนำมาประเมินความผิดปกติก่อนจะมีการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อไป"นางภัทรียากล่าว

บิ๊กRKหนุนใช้มาตรการ

นายกิตติวัฒน์ มโนสุทธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.อาร์เค มีเดีย โฮลดิ้ง หรือ RK กล่าวว่า กรณีที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามซื้อขายเน็ตเซ็ทเทิลเมนต์และมาร์มาร์จิ้นเทรดดิ้งเป็นเวลา 30 วันทำการ ถือว่าเป็นมาตรการที่ดี ในการป้องกันนักลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะที่ผ่านมายอมรับว่าราคาหุ้นเคลื่อนไหวค่อนข้างร้อนแรง การห้ามเน็ตฯ-มาร์จิ้นของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยให้ราคาหุ้นลดความร้อนแรงลง และถือเป็นการช่วยป้องกันรายย่อยไม่ให้ได้รับความเสียหายจากความผันผวนของราคาหุ้นได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทอาร์เค มีเดียโฮลดิ้งส์ ที่เคลื่อนไหวค่อนข้างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมาว่า เชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือของผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่อย่างแน่นอน เพราะเท่าที่ได้หารือกัน กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่มีเป้าหมายมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจ และมีเป้าหมายที่จะพลิกฟื้นธุรกิจของบริษัทให้ปรับตัวดีขึ้นมากกว่าจะมุ่งหาประโยชน์จากราคาหุ้นบนกระดาน โดยใช้วิธีการไล่ราคาหุ้นดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์จะเข้าไปตรวจสอบตามหน้าที่อยู่แล้วและมั่นใจว่าสามารถหาความชัดเจนได้

โบรกฯชี้แค่หมุนตัวเล่นหุ้น

แหล่งข่าวนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ราคาหุ้น SYNTEC ที่ปรับเพิ่มขึ้นน่าจะเกิดจากการเข้ามาเก็งกำไรรับงานใหม่ที่คาดว่าจะได้รับในอนาคต โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับงานภาครัฐบาล รวมถึงการบริหารต้นทุนการดำเนินงานที่ลดลง นอกจากนี้ยังทำให้หุ้นในกลุ่มเดียวกันอย่าง N-PARK ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามไปด้วยตอบรับข่าวว่าการเจรจาหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทำธุรกิจคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ประเมินจากสัญญาณเทคนิค SYNTEC แนวรับอยู่ที่ 1.37 บาท ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1.44 บาท โดยหากทะลุแนวต้านดังกล่าวได้มีโอกาสขึ้นไปถึงแนวต้านถัดมาที่ 1.55 บาท ซึ่งหากสนใจสามารถเก็งกำไรได้

สำหรับการปรับขึ้นของราคาหุ้น SYNTEC ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าราคาหุ้นมีการไต่ระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากวันที่14 พ.ย. ราคาปิดที่ 0.87 บาท โดยเมื่อเทียบกับราคาเมื่อวานซึ่งอยู่ที่ 1.46 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว 0.59 บาท หรือ 67.81%

"ชยุตย์"มีชื่อรับNNCL-W1

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต.แจ้งว่า นาย ชยุตม์ ลี้อิสสระนุกูล ได้มาใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทนวนครหรือ NNCL-W1 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2549ที่ผ่านมาจำนวน 30.97 ล้านหน่วยหรือ 6.23% ในราคาหน่วยละ 2.96 บาท ซึ่งราคาหุ้น NNCL-W1 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ปิดที่ระดับ 2.90 บาทเพิ่มขึ้น 0.26 บาทหรือ 9.85%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.