โลว์คอสต์จี้ ทอท.ขอกลับดอนเมือง หวั่นโกลาหล แอร์เวย์แห่ลงสุวรรณภูมิ


ผู้จัดการรายวัน(21 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

แอร์เอเชีย ร้อง บอร์ดใหม่ ทอท.เร่งพิจารณาความชัดเจนเรื่องการย้ายฐานการบินในประเทศกลับดอนเมือง เหตุสนามบินสุวรรณภูมิค่อนข้างแออัด หวั่นอีก 9 เดือนโกลาหลกว่านี้ เพราะมีสายการบินใหม่ๆเข้ามาเปิดตัวอีกเพียบ ขณะที่สนามบินดอนเมือง หากปล่อยไว้นานระบบก็จะเสีย เผยตั้งงบแต่เปิดใช้สุวรรณภูมิ บริษัทต้องควักกระเป๋าช่วยเหลือพนักงานไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท ส่งผลสิ้นปีนี้กำไรวูบลงกว่าปีก่อน

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทย แอร์ เอเชีย ผู้ให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) ไทย แอร์ เอชีย เปิดเผยว่า ต้องการให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ของ ทอท.ชุดใหม่ เร่งแก้ไขจัดการปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะความชัดเจนเรื่องการพิจารณาย้ายฐานการบินในประเทศกลับมายังสนามบินดอนเมือง เพื่อลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงอีก 8-9 เดือนข้างหน้า เพราะยังมีสายการบินต่างประเทศอีกหลายรายเตรียมที่จะมาเปิดให้บริการที่สนามบินสุวรรณภที่สนามบินสุวรรณภูมิดังกล่าว

ทั้งนี้หาก ทอท.ตัดสินใจย้ายเสียแต่ตอนนี้ ก็จะไม่ต้องเสียงบประมาณที่จะเข้าไปซ่อมแซมระบบที่สนามบินดอนเมือง เพราะเพิ่งหยุดใช้ไปเพียงไม่กี่เดือน แต่หากปล่อยเนินนาน ระบบที่เคยทำงานอาจไม่ขับเคลื่อนได้ดีเท่าที่ควรนอกจากนั้นยังเรื่องของปัญหาด้านความเป็นอยู่ของพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เรื่องพื้นที่รับประทานอาหาร เพราะทุกวันนี้ต้องอยู่กันอย่างแออัด ไม่ได้รับความดูแลและคุ้มครองเท่าที่ควร นอกจากนั้นยังเรื่องของพื้นที่สำนักงาน เพราะต้องให้บริการแก่ลูกค้า ทุกคนต้องทำงานหนัก แต่กลับไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล

“ที่ผ่านมา ทอท.เคยเรียกผู้ประกอบการไปหารือหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า หรือการจัดการแบบเป็นรูปธรรมใดๆออกมาเลย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ทราบว่า ทอท.เกรงว่าจะไปกระทบกับผลประโยชน์ของใครหรือไม่ หรือทำให้ใครต้องเสียหน้า ซึ่งถึงตอนนี้อยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริง และช่วยกันแก้ไขดีกว่า ที่จะปล่อยไปให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต”

สำหรับ ไทย แอร์ เอเชีย ตั้งแต่เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ใช้งบประมาณของบริษัท ช่วยเหลือพนักงานและลูกเรือไปแล้วมากกว่า 10 ล้านบาท โดยเฉพาะการช่วยเรื่องค่าเดินทาง ค่าที่พัก ส่งผลให้ต้นทุนการบริหารจัดการของบริษัทปรับสูงขึ้นถึง 30% ซึ่งจะส่งผลให้ผลกำไรของบริษัทในปีนี้จะลดลงกว่าปีก่อน จากเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ปีนี้ที่ 3,200 ล้านบาท โดยปีก่อนบริษัทมีรายได้ที่ 2,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการดำเนินงานปี 2550 บริษัท จะเพิ่มเครื่องบินเป็น 16 ลำ จากขณะนี้ที่มีอยู่ 10 ลำ เพื่อมาเพิ่มเส้นทางบินไปต่างประเทศ เช่น เส้นทางไปประเทศจีน โดยบริษัท มีแผนเปิดเส้นทางไป คุนหมิง เสินเจิ้น นอกจากนั้นจะเตรียมเปิดเส้นทางไป โฮจิมิน และเวียงจันทร์ เป็นต้น ส่วนเส้นทางในประเทศ จะเพิ่มเที่ยวบินในเส้นทางเก่าที่มีอยู่แล้ว

ส่วนแผนการตลาดยังใช้แผนการขายตั๋วราคาถูก ซึ่งถือเป็นจุดขายของ ไทยแอร์เอเชีย ซึ่งมองว่าบริษัทได้เดินนโยบายมาถูกทางแล้ว เพราะในปีนี้เฉพาะเส้นทางบินในประเทศ บริษัทเติบโตมากกว่า 10% ส่วนภาพรวมทั้งปี บริษัทคาดว่าจะให้บริการลูกค้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ 3 ล้านคน โดย 3 ปีที่ดำเนินธุรกิจมาสามารถขนผู้โดยสารได้แล้วกว่า 6 ล้านคน ตั้งเป้าภายในปี 2551 จะขนผู้โดยสารรวมได้ 12 ล้านคน

และเพื่ออำนวยความสะดวกด้านบริการให้แก่ลูกค้า ล่าสุดจับมือกับ บริษัท อมาดิอุส เอเชีย เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายตั๋วให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะสามารถจองตั๋วเครื่องบินไทย แอร์ เอเชีย ผ่านตัวแทนจำหน่าย และทางอินเทอร์เน็ต เป็นผลให้ยอดจองตั๋วล่วนหน้าของบริษัทในปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนเป็น 85% จากปัจจุบันอยู่ที่ 70-80%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.