แม้ว่าสภาพตลาดคอมพิวเตอร์จะซบเซา หลายร้านต้องม้วนเสื่อกลับบ้าน แต่สำหรับดิเรก
หฏิทัศน์ ไม่เป็นเช่นนั้น เขามีวิธีมองช่องทางที่สดใสไม่เหมือนใคร นั่นคือ
ทำอย่างไรเมื่อตั้งบริษัทแล้วสามารถมีฐานลูกค้าได้เลยและมีมาก ๆ ด้วย
แล้วลูกกอล์ฟก็เป็นเหตุให้อดิเรกได้พบกับผู้บริหารบริษัท โมเดอร์นฟอร์ม
กรุ๊ป ( มหาชน) เมื่อตีกอล์ฟไปคุยกันไป ความคิดเห็นตรงกันในหลาย ๆ เรื่อง
จึงเกิดขึ้น หนทางร่วมทุนกันจึงเกิดขึ้นต่อมาในนามโมเดอร์นฟอร์ม โอเอ ด้วยทุนจดทะเบียน
10 ล้านบาท
นั่นหมายความว่า อดิเรก จะได้ฐานลูกค้า เดิมทั้งหมดที่เคยซื้อเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้สำนักงานทังหมดจากโมเดอร์นฟอร์มทันที
รายได้กว่า 70 ล้านกว่าบาทหลังจาการตั้งบริษัทได้เพียง 6 เดือน (กรกฏาคม-ธันวาคม
2535) จากที่คาดไว้ทั้งปีเกิดขึ้นอย่างไม่ยากเย็นทำให้อดิเรกหยุดแผนการตลาดไว้สิ้นปี
35 และเริ่มเป้าใหม่ที่ 200 ล้านบาทในปี 36 ทันที ซึ่งเขาก็สมารถทำได้ถึง
270 ล้านบาท ดังนั้นด้วยความเ ป็นนักบริหาร หนุ่มยุคใหม่จึงตั้งยอดขายเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น
400 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเข้าเป้าแน่นอนหรือไม่ก็บวกลบไม่เกิน 5% เท่านั้น
" เป้า 400 ล้านบาท ในธุรกิจทั่วไปจะดูว่าตั้งไว้เยอะ แต่ที่เราทำได้
ไม่ใช่เป็นเพราะเก่งอย่างเดียว แต่เป็นเพราะตลาดมันโตด้วย ขณะเดียวกันสินค้าที่เราจับก็เป็นสินค้าที่ดีด้วยคือ
คอมพิวเตอร์ยี่ห้อ 'คอมเพค' จะพูดว่าเราเป็นดีลเลอร์ซึ่งเป็นผู้นำในการขายคอมแพ็คก็ได้
เพราะยอดขาย 400 ล้านบาทนี้ เป็นคอมเพคเพียว ๆ เลย" อดิเรก กล่าว
อดิเรกจบการศึกษาทางด้านบัญชี และการเงิน จากธรรมศาสตร์ จากนั้น ก็บินไปเรียนเพิ่มเติมด้านคอมพิวเตอร์และการบริหารการตลาดที่อเมริกา
เคยผ่านงานธนาคารมา 2ปี ก่อนมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทเอกปัญญา
ตัวแทนจำหน่ายคอมพิวเตอร์ หลายยี่ห้อ เป็นเวลา 7 ปี จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาสามารถอธิบายและวางแผนได้เกือบทั้งระบบ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบัญชี การเงิน การขาย การบริหาร และการตลาด
จากกำดำเนินงานที่ลงตัวนี้เอง ล่าสุดทางไอบีเอ็มได้ติดต่อให้โมเดอร์นฟอร์มโอเอ
เป็นตัวแทนขายคอมพิวเตอร์ ตระกูลใหม่ " แอบติว่า" สำรหับตลาดคอมซูมเมอร์
ทั่วไป อีกด้วย โดยจะเริ่มทำตลาดตั้งแต่ปี 38 พร้อมกับยี่ห้อ คอมแพ็ค รุ่น
" พริซาริโอ" ที่จะเป็นตัวบุกตลาดพร้อมกับสินค้าเดิมทีทำตลาดอยู่แล้ว
หลายคนกล่าวกันว่า โมเดอร์นฟอร์ม โอเอ กินบุญเด่าของโมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป
ซึ่งอดิเรกก็ไม่ปฏิเสธว่า ครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าเก่าจากโมเดอร์นฟอร์ม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ยอมหาลูกค้าใหม่มาเสริม
กลุ่มลูกค้าบ้านคือเป้าหมายต่อไป และเพื่อสร้างฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก ขณะนี้กำลังตกลงกับบริษัท
ยูไนเต็ดคอมมูนิเคชั่น เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือระบบดิจิตอล
โดยให้เหตุผลว่าต่อไปโทรมือถือจะเข้ามาลิงค์กับคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนสินค้าไลน์ใกล้เคียงเช่น
แฟกซ์ ตู้พีเอบีเอ็กซ์ หรืออุปกรณ์ด้านการสื่อสารอื่น ๆ ทางอดิเรกตอบว่ายังไม่คิด
และไม่ใช่เวลาอันใกล้นี้ แต่ก็ทิ้งท้ายเป็นนัยว่า " ถ้าโอกาสมีหรือเป็นจังหวัะที่ดี
ได้สินค้าดี โมเดอร์นฟอร์มโอเอก็คงไม่ปิดตัวเองแน่"
ขณะนี้ซับดีลเลอร์ของโมเดอร์นฟอร์ม ทั้งประเทศมีประมาณ 70 ราย อยู่ในกรุงเทพฯ
ประมาณ 80% โดยยอดขาย 70% มาจากโมเดอร์นฟอร์ม ด้วยวิธีการขายตรง อีก 30%
จะเป็นรายได้จาการขายส่งผ่านตัวแทนจำหน่าย และเกือบทั้งหมดที่ผ่านมาเป็นตลาดสำนักงานเสียส่วนใหญ่
คือเป็นลูกค้าเก่าจากโมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป 50 % ลูกค้าที่หาเองอีก 50%
อดิเรกคาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป ตลาดคอนซูมเมอร์ จะเกิดขึ้นและบูมมาก
ดังนั้น จะเพิ่มแผนกคอนซูเมอร์ขึ้น เพื่อที่จะขยายช่องทางการตลาดให้มากที่สุดเป็นการขายแก่กลุ่ม
End Useser ที่ใช้กับบ้าน ซึ่งตลาดกลุ่มนี้ ปีที่ผ่าน ๆ มาโมเดอร์นฟอร์มโอเอไม่เน้นเท่าไร
" ตลาดคอนซูเมอร์ จะเป็นตลาดใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันเมืองไทยมีไม่ถึง
3% นั่นคือบ้าน 100หลัง คาเรือน จะมีคอมพิวเตอร์ใช้เพียง 3 หลังเท่านั้น
เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำมาก เรามองว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า ตลาดนี้จะบูมมากอาจจะเป็นว่า
ทุก ๆ 100 หลังคาเรือน จะมีคอมพิวเตอร์ใช้ถึง 50 หลัง แนวโน้มการเติบโตของตลาดคอนซูเมอร์
จะสม่ำเสมอไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่บัดนี้ซึ่งไม่น่าจะต่ำกว่า 20-30% ต่อปี"
อดิเรก คาดการณ์
ถ้าการขยายตัวของตลาดคอมพิวเตอร์ ตามบ้านเป็นไปตามที่ว่านี้ โมเดอร์นฟอร์ม
โอเอ ก้มีโอกาสที่จะขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ไม่ต้องพึ่งพาใบบุญจากลูกค้าที่ชื่อ
เฟอร์นิเจอร์จากโมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป เพียงกลุ่มเดียวอีกต่อไป