บลจ.วรรณปฏิเสธ ข่าวกองทุนบางกอกแคปิตอลเลี่ยงภาษี ระบุตามพระราชกฤษฎีกาได้ยกเว้นให้กองทุนไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส่วนการโอนสินทรัพย์ไป ให้บุคคลอื่นก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารกองทุนจึงได้รับแค่ค่าธรรมเนียม
โดยปัจจุบันเหลือสินทรัพย์ในพอร์ตเพียง 7,832 ล้านบาท จากมูลค่าเดิม 19,000 ล้าน
บาท
จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษา และติดตามการปรับโครงสร้างภาษีและการเลี่ยงภาษี
ที่มีพล.ต.ท.ณรงค์ อมาตยกุล ส.ว. พิษณุโลก เป็นประธานได้เรียกให้บริษัทหลักทรัพย์
จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ ในกรณีการโอนสิทธิการบริหารจากโกลด์แมนแซคส์
ซึ่งไม่ได้ จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ตามกฎหมายนั้น
นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวมวรรณ
จำกัด เปิด เผยว่า บริษัทไม่ได้มีการหลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อสินทรัพย์จากองค์การ
เพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) แต่อย่างใด ซึ่งข่าวที่ปรากฏ ออกมานั้นมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
จนทำให้ธุรกิจของบริษัทรวมถึงลูกค้าของบริษัทได้รับความเสียหาย
โดยบริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทอยู่ในสถานะของผู้จัดการกองทุน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลจัดการกองทุนให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
และทรัพย์สินของกองทุนรวมจะถูกแยกต่างหากจากทรัพย์สินของบริษัท จัดการ โดยมีผู้ดูแลผลประโยชน์คอยเก็บรักษา
ทั้งนี้ โกลด์แมนแซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลได้ระบุชื่อกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอลให้เป็นผู้ลงนามในสัญญาขาย
มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ ปรส.
การซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. นั้น ผู้ซื้อทุกราย รวมถึงกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอลได้รับการยกเว้น
ภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการขายสินทรัพย์ ของ ปรส. ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับ ที่ 321) พศ.2541 มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป และไม่มีการโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
โดยในเอกสารข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ของ ปรส. ระบุใน หัวข้อการปิดจำหน่ายว่า
หากผู้ชนะการประมูลต้องการเสนอให้ผู้อื่นลงนามในสัญญาขายมาตรฐานแทน ผู้ชนะการประมูล
จะต้องระบุชื่อพร้อมกับยื่นเอกสารของผู้ที่จะลงนามในสัญญาขายมาตรฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอเข้าศึกษาข้อมูล
และในรายละเอียดเอกสารที่กำหนด สำหรับผู้ชนะการประมูล ซึ่งจะแจกให้กับผู้เสนอราคาในวันประมูล
มายัง ปรส. ภายใน 2 วันปฏิทินนับจากวันประมูล และผู้ที่จะลงนาม ในวันดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาจาก
ปรส.
อย่างไรก็ตาม ในวันทำสัญญา ผู้ชนะการประมูลจะต้องลงนามในหนังสือสัญญาค้ำประกันชนิดเพิกถอนไม่ได้
ซึ่งบรรจุอยู่ในข้อสารสนเทศฉบับเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาขายมาตรฐาน
ปรส.อาจรับพิจารณาเป็นบาง กรณี ดังนั้น ผู้ซื้อที่ต้องการจะแยกสัญญาขายมาตรฐานสำหรับกลุ่มสินทรัพย์ที่ย่อยที่แยกจากกลุ่มสินทรัพย์ที่ตนประมูลได้
เพื่อทำการขายให้บุคคลอื่น บุคคลเหล่านั้นต้องยื่นเอกสารที่กำหนด ให้เช่นเดียวกับผู้ซื้อ
เพื่อรับการพิจารณาจาก ปรส. ให้เป็นผู้มีสิทธิลงนามในสัญญาขายมาตรฐานได้ โดยผู้ซื้อจะต้องแจ้งให้ปรส.
ทราบภายใน 2 วันทำการนับจากวันประมูล
ดังนั้น จากข่าวที่ปรากฏออกมานั้น บริษัทจึงได้ชี้แจงต่อโกล์ดแมนแซคส์ไปแล้วว่า
การเลี่ยง ภาษีไม่เป็นความจริง ซึ่งข่าวในทำนองดังกล่าวอาจ ส่งผลกระทบต่อการเข้ามาลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้
สำหรับ บลจ.วรรณ ได้รับสิทธิในการเข้าไปบริหารสินทรัพย์จำนวน 19,000 ล้านบาท
ที่บริษัท โกลด์แมนแซคส์ประมูลได้จาก ปรส. เมื่อปี 2541 ก่อนที่กองทุนจะได้รับอนุญาตจัดตั้งในวันที่
30 เมษายน 2542 ซึ่งผลตอบแทนที่บริษัทได้รับอยู่ในรูปของค่าธรรมเนียมในการบริหาร
ภายในระยะ เวลาภายใต้การบริหารเกือบ 4 ปี ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนอยู่ที่
7,832 ล้านบาท