บลจ.วรรณแจงกองทุนได้ยกเว้นภาษีถูกต้อง


ผู้จัดการรายวัน(5 กุมภาพันธ์ 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

บลจ.วรรณปฏิเสธ ข่าวกองทุนบางกอกแคปิตอลเลี่ยงภาษี ระบุตามพระราชกฤษฎีกาได้ยกเว้นให้กองทุนไม่ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนการโอนสินทรัพย์ไป ให้บุคคลอื่นก็ไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ในฐานะผู้บริหารกองทุนจึงได้รับแค่ค่าธรรมเนียม โดยปัจจุบันเหลือสินทรัพย์ในพอร์ตเพียง 7,832 ล้านบาท จากมูลค่าเดิม 19,000 ล้าน บาท

จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่า คณะอนุกรรมาธิการศึกษา และติดตามการปรับโครงสร้างภาษีและการเลี่ยงภาษี ที่มีพล.ต.ท.ณรงค์ อมาตยกุล ส.ว. พิษณุโลก เป็นประธานได้เรียกให้บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการ ในกรณีการโอนสิทธิการบริหารจากโกลด์แมนแซคส์ ซึ่งไม่ได้ จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ตามกฎหมายนั้น

นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวมวรรณ จำกัด เปิด เผยว่า บริษัทไม่ได้มีการหลีกเลี่ยงภาษีในการซื้อสินทรัพย์จากองค์การ เพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) แต่อย่างใด ซึ่งข่าวที่ปรากฏ ออกมานั้นมีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง จนทำให้ธุรกิจของบริษัทรวมถึงลูกค้าของบริษัทได้รับความเสียหาย

โดยบริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทอยู่ในสถานะของผู้จัดการกองทุน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลจัดการกองทุนให้เป็นไปตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน และทรัพย์สินของกองทุนรวมจะถูกแยกต่างหากจากทรัพย์สินของบริษัท จัดการ โดยมีผู้ดูแลผลประโยชน์คอยเก็บรักษา

ทั้งนี้ โกลด์แมนแซคส์ เอเชีย ไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลได้ระบุชื่อกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอลให้เป็นผู้ลงนามในสัญญาขาย มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่ระบุในข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ ปรส.

การซื้อสินทรัพย์จาก ปรส. นั้น ผู้ซื้อทุกราย รวมถึงกองทุนรวมบางกอกแคปปิตอลได้รับการยกเว้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการขายสินทรัพย์ ของ ปรส. ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับ ที่ 321) พศ.2541 มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2540 เป็นต้นไป และไม่มีการโอนสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

โดยในเอกสารข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ของ ปรส. ระบุใน หัวข้อการปิดจำหน่ายว่า หากผู้ชนะการประมูลต้องการเสนอให้ผู้อื่นลงนามในสัญญาขายมาตรฐานแทน ผู้ชนะการประมูล จะต้องระบุชื่อพร้อมกับยื่นเอกสารของผู้ที่จะลงนามในสัญญาขายมาตรฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอเข้าศึกษาข้อมูล และในรายละเอียดเอกสารที่กำหนด สำหรับผู้ชนะการประมูล ซึ่งจะแจกให้กับผู้เสนอราคาในวันประมูล มายัง ปรส. ภายใน 2 วันปฏิทินนับจากวันประมูล และผู้ที่จะลงนาม ในวันดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาจาก ปรส.

อย่างไรก็ตาม ในวันทำสัญญา ผู้ชนะการประมูลจะต้องลงนามในหนังสือสัญญาค้ำประกันชนิดเพิกถอนไม่ได้ ซึ่งบรรจุอยู่ในข้อสารสนเทศฉบับเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาขายมาตรฐาน ปรส.อาจรับพิจารณาเป็นบาง กรณี ดังนั้น ผู้ซื้อที่ต้องการจะแยกสัญญาขายมาตรฐานสำหรับกลุ่มสินทรัพย์ที่ย่อยที่แยกจากกลุ่มสินทรัพย์ที่ตนประมูลได้ เพื่อทำการขายให้บุคคลอื่น บุคคลเหล่านั้นต้องยื่นเอกสารที่กำหนด ให้เช่นเดียวกับผู้ซื้อ เพื่อรับการพิจารณาจาก ปรส. ให้เป็นผู้มีสิทธิลงนามในสัญญาขายมาตรฐานได้ โดยผู้ซื้อจะต้องแจ้งให้ปรส. ทราบภายใน 2 วันทำการนับจากวันประมูล

ดังนั้น จากข่าวที่ปรากฏออกมานั้น บริษัทจึงได้ชี้แจงต่อโกล์ดแมนแซคส์ไปแล้วว่า การเลี่ยง ภาษีไม่เป็นความจริง ซึ่งข่าวในทำนองดังกล่าวอาจ ส่งผลกระทบต่อการเข้ามาลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยได้

สำหรับ บลจ.วรรณ ได้รับสิทธิในการเข้าไปบริหารสินทรัพย์จำนวน 19,000 ล้านบาท ที่บริษัท โกลด์แมนแซคส์ประมูลได้จาก ปรส. เมื่อปี 2541 ก่อนที่กองทุนจะได้รับอนุญาตจัดตั้งในวันที่ 30 เมษายน 2542 ซึ่งผลตอบแทนที่บริษัทได้รับอยู่ในรูปของค่าธรรมเนียมในการบริหาร ภายในระยะ เวลาภายใต้การบริหารเกือบ 4 ปี ปัจจุบันมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนอยู่ที่ 7,832 ล้านบาท



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.