วายุภักษ์1บุกตราสารหนี้รับดอกเบี้ยระยะยาวขยับ


ผู้จัดการรายวัน(15 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ในฐานะผู้จัดการกองทุนวายุภักษ์ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนวายุภักษ์ 1 กำลังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนใหม่ โดยจะให้น้ำหนักการลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ตามความเห็นของคณะกรรมการการลงทุน เนื่องจากที่ผ่านมาผลตอบแทนตราสารหนี้ในรูปของดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นมาพอสมควรทั้งระยะสั้น หรือระยะยาวเฉลี่ยแล้วให้ผลตอบแทนประมาณ 4-5% ต่อปีขึ้นไป ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุนมากขึ้นกว่าอดีต และอยู่ในวิสัยที่สามารถลงทุนได้

ทั้งนี้ ในส่วนอายุของตราสารหนี้ที่จะเข้าไปลงทุนนั้น คงยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกองทุนได้ปรับอายุการลงทุนในตราสารหนี้ให้ขึ้นไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งปัจจุบันกองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุไม่เกินอายุของกองทุนหรือ ประมาณ 7 ปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตราสารหนี้ที่อายุยาวกว่านั้นก็สามารถลงทุนได้ แต่กองทุนจะเลือกลงทุนในตราสารที่มีสภาพคล่องเป็นหลัก

อสึ่ง พอร์ตการลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ ปัจจุบันมีเงินลงทุนอยู่ประมาณ 35,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 4,000 ล้านบาท และสัดส่วนที่ลงทุนในหุ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนที่ลงทุนในหุ้นนั้น ที่ผ่านมากองทุนได้ทยอยปรับพอร์ตการลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่การปรับพอร์ตดังกล่าวเป็นการปรับพอร์ตแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นเองก็ยังน่าสนใจจากผลตอบแทนอันเนื่องมาจากการเติบโตของกำไรปีหน้าซึ่งอยู่ประมาณ 5%

"ขณะนี้เป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุน และเป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างช่วงก่อนรัฐประหาร และหลังรัฐประหาร แต่ถามว่าจะเปลี่ยนแปลงไปเยอะไหม ยังตอบไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงของการประเมิน แต่ในแง่ทิศทางการดำเนินงานแล้ว ก็กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคณะกรรมการการลงทุนจะมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง" นายพิชิตกล่าว

สำหรับการจ่ายปันผลของกองทุน นายพิชิตกล่าวว่า ทั้งปีนี้คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหน่วยได้ไม่ต่ำกว่า 6.5% ที่จ่ายไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กองทุนก็ได้จ่ายปันผลไปแล้ว 3.5% ทั้งนี้ การลงทุนของวายุภักษ์ที่ปรับพอร์ตเน้นลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ก็เชื่อว่าจะช่วยให้จ่ายปันผลตามเป้า ได้ แต่ก็คงต้องรอดูสถานการณ์ช่วงปลายปีอีกครั้ง ซึ่งดูแล้วผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นก็น่าจะยังบวกอยู่ แต่ตราสารหนี้ที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นก็น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กองทุนด้วย

" การจ่ายปันผลให้ผู้ถือหน่วยจะดูจากหลายปัจจัย ทั้งผลกำไรจากพอร์ตการลงทุนรวม และกำไรสะสมที่เกิดขึ้นในอดีตแต่ผลตอบแทนจากตราสารหนี้ที่ดีขึ้น แนวโน้มก็น่าจะดีขึ้นไปได้ ซึ่งในปีนี้ก็เชื่อว่าจะอยู่ในวิสัยที่สามารถจ่ายปันผลได้ไม่ต่ำกว่าปีที่แล้ว" นายพิชิตกล่าว

สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (เอ็นเอวี) รวมประมาณ 1.819 แสนล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 1.799 แสนล้านบาท ในช่วงปลายปีที่แล้ว ทั้งนี้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ดังกล่าว รวมเงินในส่วนที่จ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้าไปด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.