|
บาคาร์ดีปูพรมวิสกี้ทุกเซ็กเม้นท์
ผู้จัดการรายวัน(15 พฤศจิกายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บาคาร์ดี ชูเหล้าวิสกี้ครบพอร์โฟลิโอสู้ศึก เปิดตัวสก็อตวิสกี้วิลเลี่ยม ลอว์สัน ระเบิดเซกเมนต์สแตนดาร์ด ชูโมเดลกลยุทธ์ราคาหั่นจาก 400 บาท เหลือ 350บาท เล็งใช้สาวเชียร์บูมเหล้าแทนห้ามโฆษณา 24 ชั่วโมง ปีแรกกวาดแชร์ 5% รั้งเบอร์สามของตลาด ยันสเมอร์นอฟเปิดตัวไม่สะเทือน แถมยังช่วยปลุกตลาดฟื้น
นายสมพงษ์ โชคพิบูลการ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโส บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าสก๊อตวิสกี้หลายแบรนด์เช่น เดวาร์ เปิดเผยว่า แผนการตลาดเหล้าวิสกี้ของบริษัทฯต้องการมีสินค้าให้ครบทุกเซกเมนต์ในตลาดไทย
ดังนั้นจึงเปิดตัวสกอตช์วิสกี้ยี่ห้อ”วิลเลี่ยม ลอว์สัน” ระดับดีลักซ์นำเข้าจากสก็อตแลนด์ลงสู่ตลาดสแตนดาร์ด จากปัจจุบันเหล้าในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯมีสก็อตวิสกี้เดวาร์อยู่ในระดับเซกเมนต์พรีเมียม และไวท์ฮอลล์อยู่ในเซกเมนต์อีโคโนมี่
สำหรับแผนการทำตลาดสก็อตวิสกี้วิลเลี่ยม ลอว์สัน จะใช้กลยุทธ์ราคาเช่นเดียวกับโมเดลฮันเดรด ไพเพอร์ส และเบนมอร์ ที่ประสบความสำเร็จในการทำตลาดแล้ว โดยวิลเลี่ยม ลอว์สันเป็นสก็อตวิสกี้ระดับดีลักซ์ แต่จำหน่ายในราคาระดับวิสกี้สแตนดาร์ด คือ 350บาท เมื่อเทียบกับวิสกี้ระดับดีลักซ์จำหน่ายกว่า 400 บาทขึ้นไป เนื่องจากการสำรวจพบว่า พฤติกรรมของผู้ดื่มสก็อตวิสกี้ในเซกเมนต์สแตนดาร์ด การตัดสินใจซื้อจะมาจากราคาเป็นหลัก ตามด้วยรสชาติ และดื่มแล้วไม่ปวดหัวในเวลาตื่นนอน
ทั้งนี้ในช่วงเปิดตัวสินค้า บริษัทฯเตรียมจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ตตามสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังใช้สื่อโฆษณาสิ่งพิมพ์ เพื่อสร้างการรับรู้แก่กลุ่มเป้าหมาย ก่อนที่ประกาศห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โฆษณา 24 ชั่วโมง จากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือ(อย.) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้
ส่วนแผนการผลักดันสินค้าในระยะยาวเตรียมนำสาวเชียร์เหล้าตามช่องทางจำหน่ายเป็นหลัก อย่างไรก็ตามมองว่าเหล้าเซกเมนต์นี้ไม่ต้องมีการโฆษณามากนัก เนื่องจากผู้บริโภคมักมีการสื่อสารกันปากต่อปาก
สำหรับวิลเลี่ยม ลอว์สัน จำน่ายผ่านช่องทางออฟพรีมิสหรือโมเดิร์นเทรดในสัดส่วน 70% ส่วนออนพรีมิสหรือสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสัดส่วน 30% ทั้งนี้คาดว่าในปีแรกบริษัทฯจะมีส่วนแบ่งในเซกเมนต์สแตนดาร์ด 5% หรือ 1.5 แสนลัง เป็นอันดับสามของตลาด จากปัจจุบันฮันเดรดฯเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 80% เบนเมอร์มากกว่า 10% จากมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท โดยปีนี้คาดว่าสภาพตลาดจะมีอัตราการเติบโตไม่ถึง 10% แต่ก็เป็นตลาดที่มีการเติบโตมากที่สุด เมื่อเทียบเหล้าเซกเมนต์พรีเมียม 3 แสนลัง หดตัวลง 5% ซึ่งในเซกเมนต์นี้เดวาร์มีส่วนแบ่ง 8% ส่วนปีหน้าคาดว่าตลาดวิสกี้จะหดตัวลง 5-10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการห้ามโฆษณา 24 ชั่วโมง
**ยิ้มรับสเมอร์นอฟช่วยปลุกอาร์ทีดี**
นายมาเฮส มาดฮาวาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การที่แบรนด์สเมอร์นอฟเข้ามาทำตลาดอาร์ทีดีในไทย นับเป็นเรื่องดีในการกระตุ้นตลาดให้มีอัตราการเติบโต และเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับบาคาร์ดี้ บรีซเซอร์ เพราะเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งตลาดถึง 70% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 75% ในสิ้นปีนี้ จากมูลค่าตลาดอาร์ทีดี 1,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|