|
ยูเนี่ยนฯเลื่อนวันเทรดหวังปลุกไอพีโออีเทอร์นิตี้ฯเคาะขายไอพีโอ3.2-3.4บ.
ผู้จัดการรายวัน(13 พฤศจิกายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
เผยเบื้องลึกหุ้นยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอลเลื่อนวันเข้าเทรดเร็วขึ้นจาก 30 พ.ย.เป็น 27 พ.ย.แซงหน้า"บ้านร็อคการ์เด้น"ที่เข้าซื้อขาย 28 พ.ย.นี้ หวังเป็นหุ้นแรกที่เข้ามาปลุกตลาดไอพีโอ ขณะที่หุ้นอีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์เคาะช่วงราคาเบื้องต้น 3.20-3.40 บาท ส่วนหุ้นบ้านร็อคการ์เด้นเล็งเคาะราคาประมาณ 6 บาทเศษจากราคาพาร์ 5 บาทขณะที่บล.ฟิลลิปเล็งนำหุ้นน้องใหม่เข้าตลาดหุ้นปีหน้า 4 บริษัท
แหล่งข่าวจากวงการวาณิชธนกิจเปิดเผยว่า หุ้นบริษัทยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอลได้มีการเลื่อนระยะเวลาการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอหรือ mai ให้เร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าจะเข้าซื้อขายภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ได้ปรับเป็นวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ สาเหตุเนื่องจากบริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเห็นว่าหุ้นบริษัทบ้านร็อคการ์เด้นเตรียมที่จะเข้าซื้อขายภายในวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ดังนั้นจึงต้องการที่จะเข้าซื้อขายก่อน เพื่อเป็นหุ้นจองบริษัทแรกๆ ที่เข้ามาซื้อขายและหวังปลุกกระแสหุ้นจองให้ได้รับความสนใจ
อย่างไรก็ตามอาจจะมีเหตุอีกด้านคือเกรงว่าหุ้นบริษัทบ้านร็อคการ์เด้นเข้ามาซื้อขายแล้วถ้าราคาปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าจองอาจจะส่งผลกระทบเชิงจิวิทยาต่อหุ้นจองที่เตรียมจะเข้าซื้อขายในตัวต่อไป
แหล่งข่าวจากบริษัทบ้านร็อคการ์เด้น จำกัด(มหาชน)กล่าวว่า บริษัทได้แต่งตั้งให้บริษัทหลักทรัพ์ ซีมิโก้ เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ในส่วนของบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)นั้นเป็นแค่บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินเท่านั้น ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาในด้านราคาที่จะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าระดับราคาอาจจะอยู่ที่ประมาณ 6 บาทเศษจากมูลค่าที่ตราไว้หรือพาร์หุ้นละ 5 บาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่นอน เนื่องจากจะต้องรอให้คณะกรรมการของบริษัทพิจารณาก่อน
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน)ในฐานะแกนนำในการจัดหน่ายและรับประกันการจำหน่ายบริษัทอีเทอร์นีตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้กำหนดช่วงราคาเบื้องต้นที่ระดับราคา 3.20-3.40 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 15 พฤศจิกายน ซึ่งจะมีการลงนามแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายโดยหุ้นจะเสนอขายภายในวันที่ 20-21 พฤศจิกายนและคาดว่าหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอภายในวันที่ 29 พฤศจิกายน
นายวิชา โตมานะ หัวหน้าฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน)เปิดเผยว่า ภายในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอหรือmai จำนวน 4 บริษัทซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์,ธุรกิจรับจ้างหรือ outsourcing,ธุรกิจด้านวิศวกรรมและธุรกิจด้านเทรดดิ้ง ซึ่งแต่ละบริษัทคาดว่าจะระดมทุนประมาณ 100-200 ล้านบาท
ทั้งนี้ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการซึ่งคาดว่าจะยื่นแบบรายการแสดงข้อมูลหรือไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าบริษัทแรกจะสามารถนำเข้าจดทะเบียนได้ภายในไตรมาส 2 ของปี 2550 คาดว่าจะเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้บริษัทก็ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่จะนำเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หรือเงินทุนจากไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการนำบริษัทไทยไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ด้วย โดยอาศัยบริษัทแม่ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินต่างประเทศคอยให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีลูกค้าที่เป็นบริษัทของไทยไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์แต่อย่างใด
สำหรับความคืบหน้าในการนำบริษัทเดวา พร็อพเพอร์ตี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นายวิชากล่าวว่า ขณะนี้บริษัทไม่ได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ให้กับบริษัทเดวา พร็อพเพอร์ตี้แล้ว เนื่องจากได้หมดสัญญาการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ดังนั้นบริษัทเดวา พร็อพเพอร์ตี้คงจะหาบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินแห่งใหม่
อนึ่งสำนักงานก.ล.ต.เริ่มนับแบบไฟลิ่งของบริษัทเดวา พร็อพเพอร์ตี้ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2547 และได้ให้ความเห็นชอบตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2548แต่เนื่องจากบริษัทภาวะตลาดหุ้นไม่เอื้ออำนวย บริษัทจึงไม่ได้กระจายหุ้น และบริษัทได้ขอขยายระยะเวลาเสนอขายหุ้น จนหมดระยะเวลาที่สำนักงานก.ล.ต.ได้ขยาย ดังนั้นถ้าบริษัทเดวา พร็อพเพอร์ตี้จะเข้าจดทะเบียนก็จะต้องยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงานก.ล.ต.ใหม่อีกครั้ง
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|