|
IEC ร้อนชนซิลลิ่งวอลุ่มแน่น ผู้บริหารมึนหุ้นขึ้นไร้สาเหตุ
ผู้จัดการรายวัน(10 พฤศจิกายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
2 หุ้นเก็งกำไร IEC-BLISS กลับมาคึกคักอีกครั้งรับข่าวลือนักลงทุนขาใหญ่พร้อมใจตะลุมบอลโดย IEC ปิดชนซิลลิ่งด้วยวอลุ่มสูงถึง 1.1 พันล้านบาท ขณะที่ BLISS ไม่น้อยหน้าพุ่ง 15% "สุมิท"งงหุ้นขึ้นไร้สาเหตุ ด้านโบรกฯพร้อมใจงดให้มาร์จิ้นป้องกันความเสี่ยง ผู้บริหาร POWER สั่งบรรจุ วาระด่วนเข้าบอร์ดพิจารณางบการเงินไตรมาส 3/49
วานนี้(9 พ.ย.)หุ้นบริษัทอินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) หรือ IEC และหุ้น บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นมาก โดยมีกระแสข่าวลือว่านักลงทุนรายใหญ่เข้ามาไล่ราคาหุ้น โดยเฉพาะกับหุ้นที่มีขนาดเล็ก โดยหุ้นบริษัทไออีซีนั้นราคาปิดที่ 1.66 บาท เพิ่มขึ้น 0.38 บาท หรือ 29.69%ถือว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นชนเพดาน และมีมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 1,176.03 ล้านบาท ถือว่าเป็นหุ้นที่มีการซื้อขายมากสุดเป็นอันดับ 2 ของวัน ขณะที่หุ้นบลิสเทล ราคาปิดที่ 3.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.44 บาท หรือ 14.97% มูลค่าการซื้อขาย 32.04 ล้านบาท
นายสุมิท แช่มประสิทธิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด(มหาชน )เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เข้าใจสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก เพราะบริษัทยังไม่มีข่าวที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพราะนักลงทุนกลับเข้ามาซื้อขาย เป็นปกติเนื่องจากราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงไปค่อนข้างมากก่อนหน้านี้ โดยการซื้อขายของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลว่ามีความผิดปกติหรือไม่
แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า มีกระแสข่าวลือที่ระบุว่ากลุ่มนักลงทุนรายใหญ่รวมตัวกันกลับเข้ามาซื้อหุ้นในตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยยังเน้นเข้าไปลงทุนในหุ้นที่เคยได้รับความสนใจมาก่อนหน้านี้ทำให้หุ้นอย่าง หุ้นไออีซี และ บลิสเทล
ทั้งนี้ การตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลการซื้อขายให้เป็นไปอย่างปกติ ควรจะต้องนำเรื่องบรรยากาศการลงทุน เข้ามาพิจารณาประกอบด้วย เนื่องจากหากการปรับขึ้นของราคาหุ้นใดแล้วมีการใช้มาตรการที่อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนคงไม่ใช่เรื่องที่ดีที่ จะดำเนินการในช่วงปลายปีเพราะอาจจะทำให้นักลงทุนต่างชาติที่พร้อมจะเข้ามาลงทุนหยุดการเข้ามาลงทุนได้
โบรกฯพร้อมใจห้ามมาร์จิ้น
แหล่งข่าวจากบล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทไม่ให้มาร์จิ้น หุ้นไออีซี เนื่องจากเป็นหุ้นเก็งกำไรมีความเสี่ยงทั้งในส่วนของนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุน และมีความเสี่ยงต่อบริษัทหากปล่อยมาร์จิ้น ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงสั้นราคาหุ้นอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรต้องระมัดระวัง เนื่องจากมีความเสี่ยงสูง โดยประเมินแนวรับไว้ที่ระดับ 1.66 บาท และแนวต้านที่ ระดับ 2.14 บาท และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 3 บาท
แหล่งข่าวจากบล.กสิกรไทย กล่าวว่าบริษัทได้ควบคุมความเสี่ยงในหุ้น IEC โดย 60% ของมูลค่าหุ้นลุกค้าจะต้องซื้อด้วยเงินสด ส่วนอีก 40% นั้นบริษัทจะให้ยมาร์จิ้น โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1.55-1.54 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1.70 บาท
POWERดันวาระด่วนเข้าบอร์ด
นายปิยะ พูลสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งกล่าวโทษผู้บริหารของบริษัทนั้น บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดัง กล่าว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทจึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบ โดยบริษัทจะจัด ให้มีกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2549 เพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำไตรมาสที่ 3/2549 ดังนั้นบริษัทฯจะได้นำเรื่องดังกล่าวนี้เข้าสู่การประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งที่ดังกล่าว เป็นวาระพิเศษเร่งด่วน
ด้านตลาดหลักทรัพย์แจ้งว่าตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้รับคำชี้แจงถึงผลกระทบจากบริษัทเพาเวอร์-พี ในเรื่องการจัดทำบัญชี โดยตลาดหลักทรัพย์ ได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเพียงว่า POWER จะต้องนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2549 ตลาดหลักทรัพย์จึงหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของหุ้นเพาเวอร์-พีต่อไป โดยขึ้นเครื่องหมาย "SP" สำหรับการซื้อขายวันที่ 9 พฤศจิกายน 2549 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขและรายงานตรวจสอบพิเศษตามที่ ก.ล.ต. กำหนด
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|