|
ดีแทคผนึกโตโยต้า-ยามาฮ่า-โมโตโรล่ารุกตลาดแนวใหม่ “รีฟิลล์ มาร์เก็ตติ้ง”
ผู้จัดการรายวัน(9 พฤศจิกายน 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
แฮปปี้ดีแทคจับมือพันธมิตรข้ามสายพันธุ์ทั้งโตโยต้า ยามาฮ่า โมโตโรล่า สร้างเครือข่ายโมบิลิตี้ อัดแคมเปญ “บัตร 60 โชคหกใส่” ที่มาพร้อมบัตรเติมเงินราคา 60 บาท สร้างตลาดแนวใหม่ในแบบรีฟิลล์ มาร์เก็ตติ้ง ที่เจาะเข้าถึงแมสมาร์เก็ตโดยตรง ส่วนยอดขายสิ้นไตรมาส 3 ทะลุเป้าถึง 3 ล้านราย ขณะที่แผนนำเข้าตลาดฯ ยันยังเป็นภายในปีนี้ และพร้อมให้ตรวจสอบเรื่องนอมินี
นายซิคเว่ เบรคเก้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ ดีแทค กล่าวว่า แฮปปี้ดีแทคได้ร่วมกับพันธมิตรคือ โตโยต้า ยามาฮ่า และโมโตโรล่า เพื่อสร้างเครือข่าย Mobility โดยนำจุดเด่นของการเป็นผู้ให้บริการด้านความเคลื่อนไหวสร้าง Trend ใหม่ของบริการข้ามสายพันธุ์เพื่อลูกค้า บนจุดยืน Customer Mobility ด้วยการเปิดตัวแคมเปญใหญ่ร่วมกันครั้งแรก “บัตร 60 โชคหกใส่” หลังแฮปปี้ออกบัตรเติมเงินราคาใหม่ 60 บาท จำนวน 45 ล้านใบ มูลค่า 2,700 ล้านบาท
จากความร่วมมือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ และวงการโทรคมนาคม จะช่วยสร้างเครือข่ายมูลค่าเพิ่มแห่ง Mobility (Mobility Value Creation Cycle) สร้างความสัมพันธ์คู่ค้าต่อเนื่องสู่ลูกค้าในมุมที่แตกต่าง และจะกลายเป็นความร่วมมือระยะยาวในการทำการตลาดร่วมกันในอนาคต
พันธมิตรที่มาร่วมมือกันในครั้งนี้ล้วนเป็นบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่เรียกว่า Mobility มีสินค้าและบริการเกี่ยวกับการเดินทางและการสื่อสารไร้สาย ที่ช่วยย่นระยะเวลาและให้ความสะดวกกับลูกค้าเป็นพื้นฐาน โดยผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากความร่วมมือในครั้งนี้จากการจัดแคมเปญดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เช่น เติมเงินมือถือแล้วยังมีโอกาสได้ขับรถกระบะโตโยต้า ขี่มอเตอร์ไซค์ยามาฮ่า และมีมือถือรุ่นใหม่ของโมโตโรล่า ซึ่งเป็นการมอบความสะดวกและรวดเร็วถึง 2 ต่อ
นอกจากการจัดชิงโชคครั้งนี้แล้วยังเป็นการโปรโมตการเติมเงินแฮปปี้ที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนมากได้เป็นอย่างดี โดยแฮปปี้ได้ผลิตบัตรเติมเงินราคา 60 บาทขึ้นมาเป็นครั้งแรก เป็นรุ่นพิเศษสำหรับใช้ในการร่วมสนุกกับพันธมิตร ได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรในการนำภาพสินค้ามาพิมพ์ลงบนหน้าบัตรเติมเงินเป็นครั้งแรก และเป็นการเปิดแนวการทำการตลาดใหม่ซึ่งเดิมเน้นในรูปแบบ acquisition marketing เป็น refill marketing มากขึ้น ตามพัฒนาการของตลาดมือถือที่เปลี่ยนไป
เหตุผลที่แฮปปี้ออกบัตรราคา 60 บาท เพราะต้องการเจาะเข้าไปในกลุ่มแมส มาร์เก็ต เนื่องจากบัตรเติมเงินที่เข้าถึงฐานลูกค้าที่กว้างอย่างแมสได้คือ 50 บาท แต่เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนกับแคมเปญใหม่ จึงต้องออกบัตรที่มีราคาใกล้เคียงกับ 50 บาท
ส่วนวิธีการชิงโชคสามารถส่งไปชิงโชครางวัลตามภาพสินค้าที่พิมพ์บนบัตรนั้นๆ ได้ สำหรับรางวัลประกอบด้วย โตโยต้า วีโก้ 5 คัน ยามาฮ่า ฟิโน 10 คัน และโมโตโรล่า วี3 จำนวน 100 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มจากวันนี้ถึงเดือนก.พ. 2550 และในช่วง 2-3 เดือนนี้ ดีแทคจะใช้งบการตลาดประมาณ 25 ล้านบาท
“ตลาดมือถือขณะนี้ที่สำคัญไม่ใช่ยอดขาย แต่เป็นการใช้งาน ปัจจัยหลักคือรายได้ ไม่ใช่ฐานลูกค้า รีฟิลล์ มาร์เก็ตติ้งจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการทำตลาด แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เน้นเรื่องฐานลูกค้า แต่เน้นในแบบฉบับของเรา”
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวและว่าสำหรับตลาดโดยร่วมของมือถือช่วงไตรมาส 4 ทั้งอุตสาหกรรมไม่โต เนื่องจากราคาค่าบริการลงมาต่ำมาก และต่ำมานานแล้ว ขณะที่การแข่งขันโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ยังมีความรุนแรง ซึ่งจะเห็นได้จากเบอร์หนึ่งกับเบอร์สามที่มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง มีโฆษณาออกมาเรื่อยๆ จนทำให้ผู้บริโภคงง
“อุตสาหกรรมโทรคมนาคมทำร้ายตัวเอง อย่างเอไอเอสกับทรูก็ยังเกทับกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ ออกโฆษณาจนทำให้ตลาดงง”
ด้านยอดขายของบริการแบบเติมเงินหรือพรีเพดของดีแทค สิ้นไตรมาส 3 มียอดลูกค้าใหม่ประมาณ 3 ล้านราย เกินเป้า 2 ล้านรายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี ส่วนช่วงไตรมาส 4 คาดว่ายอดขายจะใกล้เคียงกับไตรมาส 3 คือประมาณ 8 แสนราย
เข้าซื้อขายในตลาดฯ ปีนี้
นายซิคเว่กล่าวถึงแผนการนำดีแทคเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนเดิมคือ ภายในสิ้นปีนี้ เพราะขั้นตอนเหลือเพียงเรื่องของรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ส่วนเรื่องของโครงสร้างผู้ถือหุ้นในดีแทค ที่ถูกมองว่าคล้ายกับดีลเทมาเส็กกับชินคอร์ปที่เข้าข่ายเรื่องของนอมินีนั้น ซิคเว่กล่าวว่า ถึงจะคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน เพราะในการถือหุ้นของดีแทคทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังไม่มีการติดต่อขอตรวจสอบจากกระทรวงพาณิชย์ ถ้าหากทางภาครัฐมีการติดต่อขอตรวจสอบก็พร้อมจะให้ตรวจสอบได้ทุกเมื่อ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|