ดีพีซียิ้มแก้มปริยอดมือถือทะลุเป้า


ผู้จัดการรายวัน(7 พฤศจิกายน 2549)



กลับสู่หน้าหลัก

ดีพีซีทำยอดขายถล่มทลายเกินเดือนละ 3 แสนเครื่อง คาดสิ้นปีทะลุเป้า 3.4 ล้านเครื่อง เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 45% รายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท ขายดีจนโนเกียต้องให้รางวัล Overall Sales Performance พร้อมเปิดกลยุทธ์เบอร์หนึ่งดิสทริบิวเตอร์มือถือ

นายกุลดิษฐ์ สมุทรโคจร ผู้จัดการทั่วไปบริษัท ดิจิตอลโฟน หรือดีพีซีผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Big Brand อย่างโนเกีย ซัมซุง และมือถือเฮ้าส์แบรนด์เอ็มเอฟเอ กล่าวว่าปีนี้คาดว่าดีพีซีจะขายมือถือได้ทั้งหมดประมาณ 3.4 ล้านเครื่องจากตลาดรวมประมาณ 7.4 ล้านเครื่องมูลค่าประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาทหรือมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 45% จากปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 2.6 ล้านเครื่องมีส่วนแบ่งตลาด 40% โดยที่รายได้ในปีนี้อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท

“ปีหน้าคาดว่าตลาดรวมมือถือจะโตขึ้นประมาณ 5% หรือมีจำนวนประมาณ 7.8 ล้านเครื่องซึ่งดีพีซีจะมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 45% หรือ 3.5 ล้านเครื่องเป็นอันดับหนึ่งในตลาดด้วยรายได้ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาทโดยมีเอ็ม-ลิ้งค์เป็นอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งตลาดประมาณ 35%”

ดีพีซีขายโนเกียประมาณ 70% ของจำนวนมือถือที่ขาย ซึ่งทำให้ได้รับรางวัล Overall Sales Performance จากโนเกีย เอเชีย แปซิฟิก โดยที่ปีนี้ทำยอดขายสูงกว่า 3 แสนเครื่องต่อเดือนติดต่อกันหลายเดือน อย่างเดือนก.ย.ที่ผ่านมาดีพีซีมียอดขาย 3.3 แสนเครื่องหรือส่วนแบ่งตลาด 53% จากขนาดตลาดรวม 6.25 แสนเครื่อง ซึ่งการเติบโตของดีพีซีเกิดจาก 4 ปัจจัยหลักคือ

1.การทำงานร่วมกับเอไอเอสในการขายโทรศัพท์มือถือที่มีซิมการ์ดบรรจุอยู่ในเครื่องพร้อมใช้งานได้ทันที ในระดับราคาไม่เกิน 2 พันบาทเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ในระดับรากหญ้า โดยหลังจากที่เปิดแคมเปญไปเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาจนถึงสิ้นเดือนต.ค.ขายได้ทั้งหมด 1.2 แสนเครื่อง

2.ในกลุ่มคนที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องหรือระดับกลางถึงสูง มีการบันเดิลมิวสิคคอนเทนต์ในลักษณะมิวสิคโฟนไม่ว่าจะเป็นการนำอัลบั้มโอ๋ลำดวนลงมือถือ ร่วมกับค่ายเพลงลิคควิด แพลนเน็ตนำศิลปิน 3 สาวบาบาเอ้ ให้ฟรี ริงโทน วอลเปเปอร์ พร้อมคลิปวิดีโอ ในซีดีที่สามารถโหลดลงโนเกียเอ็นซีรีส์

3.ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ช่องทางจำหน่าย โดยดีพีซีมีดีลเลอร์และร้านเทเลวิซกว่า 500 แห่ง ซึ่งดีลเลอร์เหล่านี้จะมีเน็ตเวิร์กการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง มีความร่วมมือกับรีเทล เชนอย่างเจ-มาร์ท บลิสเทล ทีจีและไออีซี พร้อมทั้งขยายช่องทางไปโมเดิร์นเทรดต่างๆไม่ว่าจะเป็นเพาเวอร์บาย เทสโก้โลตัส

4.แคมเปญที่สร้างความเข้มแข็งให้แบรนด์ดีพีซีอย่าง 7 Days Special CARE สำหรับลูกค้าที่ซื้อมือถือจากดีพีซี สามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ หากเกิดปัญหาการใช้งานภายใน 7 วันนับจากวันที่ซื้อเครื่อง สำหรับแผนการตลาดในไตรมาส 4 ดีพีซีจะยังมีแคมเปญเดิมต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องมือถือพร้อมใช้เจาะตลาดรากหญ้า โดยมีโนเกียและเอ็มเอฟเอรุ่นใหม่ๆในระดับราคาพันกว่าบาท ยังเน้นเรื่อง7 Days Special CARE มีการบันเดิลมิวสิคคอนเทนต์ที่กำลังเป็นที่นิยม พร้อมโนกียเอ็นซีรีส์รุ่นที่เป็น Music Edition โดยเฉพาะรวมทั้งเปิดแคมเปญใหม่ Trade in คือนำเครื่องเก่าจอขาวดำหรือจอสีที่ไม่มีกล้องมาแลกซื้อเครื่องใหม่ โนเกีย 6230i ได้รับส่วนลดทันที 1 พันบาทหรือขายในราคา 7.8 พันบาท ซึ่งดีพีซีคาดว่าจะมีคนนำเครื่องมาแลกซื้อประมาณ 3 เครื่องต่อเดือน

“การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงของโอเปอเรเตอร์ทำให้ตลาดลูกค้าใหม่เติบโตสูง ในขณะที่ตลาดเปลี่ยนเครื่องก็เป็นปัจจัยสำคัญทำให้ตลาดมือถือเติบโตโดยยอดขายดีพีซีประมาณ 30-35% มาจากลูกค้าใหม่และ 65-70% มาจากการเปลี่ยนเครื่องที่ปัจจุบันวงจรเหลือเพียง 1 ปี”

นอกจากนี้เพื่อเป็นการสร้างความแตกต่างท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจนมาร์จิ้นหรือกำไรจากการขายเครื่องเหลือไม่ถึง 2% ดีพีซียังมีกลยุทธ 3 More ประกอบด้วย More Privilege อย่างลูกค้าเอไอเอสจะได้โทร.ฟรีสูงสุด 300 บาทหากมาซื้อเครื่องดีพีซี หรือถ้าซื้อซิมการ์ดใหม่พร้อมเครื่องก็จะได้โทร.ฟรีสูงสุด 900 บาทขึ้นอยู่กับราคาเครื่อง More Care เครื่องที่อยู่นอกการรับประกัน จะคิดค่าบริการเพียง 50% หากนำมาตรวจสภาพ และให้ส่วนลด 10% ในการเปลี่ยนอะไหล่

More Style หรือการมีเครื่องให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นบิ๊กแบรนด์อย่างโนเกีย ซัมซุง โซนี่อีริคสัน แอลจี รวมทั้งสมอลแบรนด์อย่างเบนคิว-ซีเมนส์ กลุ่มพีดีเอโฟนอย่างดูพอด โอทู แบล็คเบอรี่ และเฮ้าส์แบรนด์ของเอ็มเอฟเอหลายรุ่นในระดับที่ฟังก์ชั่นฟีเจอร์เทียบเท่าบิ๊กแบรนด์ แต่ราคาจะถูกกว่า 20-25% โดยเอ็มเอฟเอจะเลือกเจาะกลุ่มในระดับเบสิกโฟนหรือราคาประมาณ 4-7 พันบาทเนื่องจากยังมีช่องว่างพอแข่งขันได้ แต่หากสูงกว่านั้นคือระดับ 7 พัน-1 หมื่นบาท ซึ่งถือเป็น Full Feature Phone ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญคือจอสีตั้งแต่ 65k-262k กล้องระดับล้านพิกเซล มีหน่วยความจำภายนอก มีบลูทูธ จะเป็นตลาดที่พวกมีแบรนด์แข่งขันสูงมาก ซึ่งผู้บริโภคจะเลือกมือถือมีแบรนด์มากกว่าเฮ้าสแบรนด์

สำหรับสัดส่วนการขายเครื่องของดีพีซีจะต้องมีส่วนแบ่งตลาดระดับกลางถึงสูงประมาณ 35% และมีระดับตลาดเกิดใหม่ Emerging Market (ราคาต่ำกว่า 2,000 บาท) และระดับ Entry Market ประมาณ 65-70% (2,000-4,000 บาท)


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.