|
บล.ฟาร์อีสท์เล็งยื่นไฟลิ่งเดือนหน้าเตรียมขาย192ล้านหุ้นขยายธุรกิจ
ผู้จัดการรายวัน(31 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
บล.ฟาร์อีสท์ เตรียมยื่นไฟลิ่งใหม่ขายไอพีโอ 192 ล้านหุ้น พ.ย.นี้ หวังระดมทุนขยายธุรกิจปีหน้า 300 ล้านบาท คาดเข้าจดทะเบียนไตรมาส1-2/50 ด้าน บล.นครหลวงไทย เผย วอลุ่มหาดใหญ่ทะลุ 30 ล้านบาทต่อวันดันมาร์เกตแชร์สิ้นปีอยู่ที่ 0.8% จากขณะนี้0.6%
นายธำรงค์ เชียรเตชากุล รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟาร์อีสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัทจะมีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง)ใหม่ในการนำบริษัทหลักทรัพย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แทน จากเดิมที่จะนำบริษัท บริษัท ฟาร์อีสท์ แอสเซทส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เนื่องจาก ติดในเรื่องปัญหาในเรื่องเกณฑ์โฮลดิ้งของนำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยบริษัทจะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 192 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้นบริษัทจะมีทุนจดทะเบียนจำนวน 692 ล้านบาท และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ในช่วงไตรมาส1-2 ปี 2550 โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปขยายธุรกิจในปีหน้าซึ่งจะต้องใช้เงินประมาณ 300 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับในปีหน้าบริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) หลายบริษัท จากปีนี้ที่บริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการนำบริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) AKR เข้าจดทะเบียนเพียง 1 บริษัท เท่านั้น โดยคาดว่าปีหน้าภาวะหุ้นไอพีโอในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากภาวะหุ้นโดยรวมจะปรับตัวดีขึ้น
นางสาวโสภา นนทนานันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทรับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวม 5-6 บริษัท ซึ่งคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ในปีหน้าจำนวน 2 บริษัท คือ เป็นบริษัทอยู่ในกลุ่มพลังงาน โดยมีขนาด 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะยื่นไฟลิ่งได้ไตรมามาส1/50 และเข้าจดทะเบียนในไตรมาส 3/50 และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนได้ภายในปลายปีหน้า
ทั้งนี้บริษัทคาดว่าภาวะหุ้นไอพีโอในปีหน้าจะไม่มีจำนวนมากกว่าปีนี้หนัก ซึ่งคงต้องรอการดำเนินงานของภาครัฐว่าเป็นไปตามแผนได้หรือไม่ใหม่ รวมถึงนักลงทุนต่างประเทศมีความเชื่อมั่นเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่ โดยขณะนี้บริษัทหลักทรัพย์หลายแห่งเตรียมที่จะเสนอขายหุ้นไอพีโอแต่ยังรอพิจารณาจากภาวะตลาดหุ้นก่อน
สำหรับรายได้ทางด้านทางวาณิชธนกิจปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 70 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้ บล.นครหลวงไทย นำบริษัทเข้าจดทะเบียนเพียง 1 บริษัท คือ บล.บีฟิท และคาดว่าในสิ้นปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้ทางด้านการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งเป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 1 บริษัท
นางสาวโสภา กล่าวว่า บริษัทคาดว่าส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์) สิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 0.8% จากขณะนี้ที่ 0.6-0.7% เนื่องจาก บริษัทมีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นจากการเปิดสาขาที่หาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งไว้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|