ความเป็นมาเชิงธุรกิจ

ความเป็นมาเชิงธุรกิจ

โดย สุภัทธา สุขชู สมเกียรติ บุญศิริ
นิตยสารผู้จัดการ( พฤศจิกายน 2549)

กลับสู่หน้าหลัก

หากจะวัดการเติบโตของเขาใหญ่ ภาพความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดก็คือปี 2533 ยุคที่พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี สภาพเศรษฐกิจของประเทศโตแบบไร้เหตุผล ยุคนั้นเขาใหญ่กลายเป็นแหล่งชุมนุมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นักการเมือง นักธุรกิจ

เหตุผลง่ายๆ ที่อำเภอปากช่อง และเขาใหญ่ เติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการที่พลเอกชาติชาย เป็น ส.ส.นครราชสีมา เจ้าของพื้นที่โดยตรง การพัฒนาเส้นทางคมนาคม และสาธารณูปโภคอื่นๆ จึงหลั่งไหลมามากกว่าที่อื่น

จากนั้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ก็ได้รับความสนใจอย่างท่วมท้น สนามกอล์ฟเกิดใหม่อย่างน้อย 3 แห่ง และสนามกอล์ฟที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด ก็คือสนามกอล์ฟบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในชื่อโกลเด้น วัลเลย์ ของสุรพันธ์ งามจิตสุขศรี นักธุรกิจรายใหญ่จากกรุงเทพฯ แต่สนามกอล์ฟแห่งนี้ก็ต้องปิดตัวลงไป เพราะไปตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเหลือให้เห็นเป็นอนุสรณ์มาจนถึงทุกวันนี้

แม้แต่ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การของเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์และราเกซ สักเสนา ก็ยังมีสนามกอล์ฟที่เขาใหญ่ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นคีรีมายา ของกิตติ ธนากิจอำนวย ไปแล้ว

เขาใหญ่ยังเปิดรับกลุ่มทุนจากส่วนกลางที่มาลงทุนสร้างโรงแรมชั้นหนึ่งที่นี่ด้วย และกลุ่มที่บุกเบิกจนทำให้เขาใหญ่เป็นที่ยอมรับก็คือ กลุ่มจุลดิศ ของธีรพจน์ จรูญศรี ที่สร้างโรงแรมและคอนโดมิเนียมขายให้กับผู้ที่ต้องการมีบ้านที่เขาใหญ่เป็นยุคแรกๆ ในโครงการจุลดิศ แมนชั่น เขาใหญ่

โครงการนี้ของจุลดิศ ไปได้สวยงาม โรงแรมมีลูกค้าจองตลอดเวลาทั้งที่มาพักผ่อน มาสัมมนา โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวๆ ห้องพักเต็มตลอด ในส่วนของคอนโดมิเนียมก็ไม่น้อยหน้านักธุรกิจจากกรุงเทพฯ มาจับจองซื้อไว้ไม่น้อยทีเดียว

ว่ากันว่า ยุคนั้นหากโยนก้อนหินเข้าไปในกลุ่มคนที่มาเยี่ยมเยียนเขาใหญ่ จะต้องถูกคนที่มาพักจุลดิศ เขาใหญ่

เมื่อกล่าวถึงจุลดิศ เขาใหญ่ ก็ต้องพูดถึงโครงการโบนันซ่า เขาใหญ่เคียงข้างไปด้วย เพราะโครงการนี้แทนที่จะเป็นนักธุรกิจ กลับกลายเป็นกลุ่มนักการเมืองคือไพวงษ์ เตชะณรงค์ คนสนิทของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ทำให้โครงการนี้ได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นนักการเมืองไปมากมาย

เช่นกัน หากโยนก้อนหินเข้าไปในโครงการโบนันซ่า จะต้องถูกหลังคาบ้านนักการเมืองทุกครั้งไป

จนเมื่อเข้าสู่ยุควิกฤติเศรษฐกิจ ความซบเซาก็มาเยี่ยมเยียนเขาใหญ่ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย เขาใหญ่กลับเข้าสู่ความหลับไหล แต่ไม่ถึงขั้นร้างผู้คน เพียงแค่ว่าลดน้อยลง คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบก็ยังแวะมาเขาใหญ่เป็นระยะ ทั้งมาในฐานะนักท่องเที่ยว และนักลงทุน

ความเงียบเหงาอาจจะปกคลุมเขาใหญ่ แต่ไม่ได้ทำให้ศักยภาพของเขาใหญ่ลดน้อยถอยลงไป แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารดีๆ โรงเรียนนานาชาติ ยังคงต้อนรับผู้มาเยี่ยมตลอดเวลา

เขาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา มีความเปลี่ยนแปลงมากเป็นพิเศษ จากที่เงียบมาตลอดวี่แววของนักลงทุนเริ่มกลับมาอีกครั้งหนึ่ง โครงการใหม่ๆ เริ่มเกิดขึ้น พร้อมๆ กับการย้ายเข้ามาของนักธุรกิจกลุ่มหนึ่ง กระแสของเขาใหญ่เริ่มแรงขึ้นทุกนาที

ความน่ารัก และผสมผสานของเขาใหญ่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ตั้งแต่ที่พัก สามารถหาที่พักในระดับราคาไม่กี่ร้อยบาท จนถึง 20,000 บาท ก็มีให้เลือกใช้บริการ

อาหารต้องการแบบริมถนน เป็นเพิงธรรมดาก็มีให้เลือก หรือต้องการอาหารฝรั่งจานละ 500 บาทขึ้นไปก็มีให้ชิม

ไวน์ก็มีให้เลือกทั้งจากต่างประเทศ หรือจากโรงผลิตไวน์ของไทย ที่ทำกันในบริเวณเขาใหญ่ ก็มีให้ลิ้มลอง

เขาใหญ่ยังเป็นส่วนผสมของที่คนแต่ละกลุ่มที่สามารถเลือกเสพโดยไม่ขัดแย้งกัน

การกลับมาอีกครั้งของเขาใหญ่ ดูเหมือนว่ามีความมั่นคงมากขึ้น การซื้อขายที่ดินไม่ใช่การเก็งกำไรเหมือนช่วงที่ผ่านมา คนซื้อลงทุนทำโครงการอย่างจริงจัง ไร่องุ่น โรงงานไวน์ สนามกอล์ฟ โรงแรมห้าดาว ปลุกให้เขาใหญ่ตื่นจากการหลับไหลอีกครั้งหนึ่ง

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย