“สยามกลการ”แตกไลน์ท่องเที่ยวต่อยอดธุรกิจ

“สยามกลการ”แตกไลน์ท่องเที่ยวต่อยอดธุรกิจ

ผู้จัดการรายสัปดาห์(30 ตุลาคม 2549)

กลับสู่หน้าหลัก

การแตกไลน์ธุรกิจของ “สยามกลการ” โดยเฉพาะด้านท่องเที่ยว-บริการ เป็นเรื่องที่ถูกจับตามองว่าเกิดอะไรขึ้น...เหตุใดทำไมเบอร์หนึ่งด้านธุรกิจอะไหล่และชิ้นส่วนรถยนต์ต้องกระโดดเข้ามาแชร์ตลาดท่องเที่ยวในช่วงนี้ทั้งๆที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง…หากการข้ามสายธุรกิจของสยามกลการครั้งนี้จะเป็นแค่การปรับตัวเพื่อต่อยอดธุรกิจเตรียมรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าด้านยานยนต์และนักท่องเที่ยวในอนาคต...หรือกลายเป็นแค่ทางผ่านทางธุรกิจเพียงเท่านั้น

ธุรกิจด้านอะไหล่และชิ้นส่วน เป็นฐานรายได้หลักที่สำคัญที่สุดของค่าย สยามกลการ ที่พรเทพ พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามกลการเซลล์ จำกัด เคยกล่าวบริบทไว้ไม่นาน

ขณะเดียวกันธุรกิจดังกล่าวกลับสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจนทำให้ ค่ายสยามกลการมีเงินเข้าสู่บริษัทจำนวนมากจนต้องขยายกิจการในการลงทุนด้านธุรกิจอื่น โดยมีแผนที่จะสร้างสนามกอล์ฟขนาด 27 หลุมในพัทยาใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท และปรับปรุงสนามกอล์ฟเดิมขนาด 18 หลุมอีกจำนวนเงินกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองสนามนี้จะสามารถเปิดใช้ได้ประมาณในปี 2550 ที่จะถึง

การลงทุนสร้างและปรับปรุงสนามกอล์ฟทั้ง 2 แห่งในพัทยาสำหรับกลุ่มสยามกลการจึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักเพราะนักธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจด้านยานยนต์ก็ล้วนแล้วแต่เล่นกีฬากอล์ฟกันแทบทั้งสิ้น และยิ่งค่ายสยามกลการมีสนามกอล์ฟเป็นของตัวเองเช่นนี้ก็จะทำให้ง่ายต่อการติดต่อทางธุรกิจ ขณะเดียวกันก็จะมีรายได้เสริมเข้าสู่บริษัทอีกทางหนึ่งด้วย

แน่นอน...สิ่งที่สยามกลการมองข้ามชอตต่อไปคือการสร้างโรงแรมเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะต้องเข้ามาติดต่อธุรกิจ รวมถึงผลพลอยได้จากนักท่องเที่ยวที่ต้องการห้องพัก ส่งผลทำให้โครงการโรงแรม สยาม แอ็ท สยาม ดีไซน์ โฮเต็ล แอนด์ สปา จึงเกิดขึ้นมา

ขณะเดียวกัน พรพินิจ พรประภา ประธานกรรมการและซีอีโอ บริษัทสยามแอ็ทสยาม จำกัดผู้ดูแลโครงการโรงแรมฯจะออกมาประกาศตัวเองอย่างชัดเจนว่า กลุ่มของสยามกลการได้ก้าวเข้าสู่วงการท่องเที่ยวและบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ โดยเนรมิตพื้นที่ขนาด 2 ไร่ติดถนนพระราม 1 ผุดเป็นโรงแรมหรูขนาด 203 ห้อง ชูคอนเซ็ปต์ ดีไซน์ โฮเต็ล หรือ “ฮิพพลัส”ที่เน้นวัสดุแสง สี และธรรมชาติ ผสมผสานกับเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย

“เราใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณกว่า 600 ล้านบาท”พรพินิจ กล่าวถึงทุนในการก่อสร้างโรงแรมทั้งหมด

แม้ว่าจะมีการวางเป้าหมายด้วยอัตราการเข้าพักถึง 55% รวมทั้งมีรายได้ปีแรกกว่า 180 ล้านบาท แต่สิ่งที่คาดการณ์ไว้ยังมีปัจจัยที่อาจจะส่งผลทำให้ไปไม่ถึงได้ก็คือ โรงแรมย่านสุขุมวิทที่มีการแข่งขันสูง และมีจำนวนมากทั้งเก่าและเปิดใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลที่กลุ่มสยามกลการเลือกใช้เป็นฐานกำลังย่านปทุมวัน-สยามแสควร์นั้น ในอนาคตอันใกล้มีโรงแรมเปิดใหม่ อาทิ เซ็นทรัลเวิล์ดในปี 2550 โรงแรมแคมปินสกี ในโครงการสยามพารากอนปี 2551 และอีบีสซึ่งเป็นโรงแรมชั้นประหยัดจะเปิดในย่านสยามสแควร์

นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้วคือ โนโวเทลและปทุมวันปริ๊นเซส มาบุญครอง อีกด้วย

ยิ่งการตั้งราคาค่อนข้างสูงโดยเริ่มต้นที่ 4,200 บาท ไปจนถึง 6,400 บาท ในขณะที่นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกโรงแรมอีกหลายแห่งจะทำให้ยากต่อการทำตลาดมากขึ้นของกลุ่มสยามกลการ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สยามกลการคาดหวังไว้ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าหลักสูงถึง 70% ขณะที่กลุ่มลูกค้าบริษัทมีเพียงแค่ร้อยละ 30 เท่านั้น

โรงแรมถือเป็นธุรกิจใหม่ที่กลุ่มสยามกลการหันมารุกตลาดประเภทนี้นอกเหนือจากธุรกิจยานยนต์ แต่การก้าวเข้ามาเป็นน้องใหม่แห่งวงการท่องเที่ยวและบริการที่มีดีกรีการแข่งขันอันร้อนแรงในปัจจุบัน ไม่ส่งผลทำให้กลุ่มของสยามกลการต้องท้อแท้ต่อการทำธุรกิจ ในทางตรงกันข้ามกลับสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มสยามกลการขึ้นมา จะด้วยโลเคชั่นที่อยู่ย่านใจกลางเมืองหลวง หรือระบบขนส่งมวลชนที่ทันสมัยอย่างรถไฟฟ้า ผสมผสานกับสนามกอล์ฟที่มีอยู่ถึง 2 แห่งคอยรองรับนักธุรกิจ

ด้วยเหตุผลทั้งปวงทำให้ในอนาคตอันใกล้บริษัทสยามแอ็ทสยาม อาจขยายฐานการลงทุนไปในพื้นที่แถบจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆที่มีศักยภาพ โดยสร้างแบรนด์ที่ใช้คำหน้าว่า สยาม แอ็ท แล้วตามด้วยทำเลนั้นๆ

กลับสู่หน้าหลัก

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย