|
TRAFคาดสรุปแนวทางลดเพิ่มทุนเดือนนี้ เตรียมขายทิ้งทันหุ้นชี้ไม่ชำนาญสิ่งพิมพ์
ผู้จัดการรายวัน(27 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
TRAF คาดได้ข้อสรุปแนวทางลดและเพิ่มทุนภายในตุลาคมนี้ คาดปี 50 พลิกจากขาดทุนเป็นกำไร พร้อมปรับสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจโทรทัศน์และวิทยุ 50% และ 25% มาจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์และอื่นๆ ส่วนที่เหลือ 25% มาจากธุรกิจใหม่ เผยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาจะประกาศขาย "ทันหุ้น" เพราะบริษัทไม่มีความชำนาญด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ โดยเงินที่ได้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียน
พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชนป (TRAF) คาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางการลดทุนและเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทให้กับคณะกรรมการบริษัทพิจารณาได้ภายในเดือน ต.ค.นี้ หลังจากที่บริษัทได้มีการยกเลิกแผนการขายหุ้นเพิ่มทุนไปก่อนหน้านี้
ขณะนี้บริษัทได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาการเงินและฝ่ายการเงินศึกษาถึงต้นทุนจำนวนเงินที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวทางดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งแนวทางเบื้องต้นจะยึดแนวทางการขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม และอาจพิจารณาแนวทางอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาและตัดสินใจ
" เราจะพยายามลดทุนและเพิ่มทุนให้เสร็จภายในปีนี้ เพื่อเราจะได้เพิ่มทุนไปล้างขาดทุนสะสมที่มีอยุ่กว่า 400 ล้านบาทให้ได้ในปีหน้า ซึ่งคงจะเห็นการเพิ่มทุนได้ในปีเดียวกัน โดยผมเห็นว่าการลดทุนเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะการลดพาร์ทำไม่ได้ เพราะปัจจุบันพาร์เราก็อยู่ที่ 1 บาทอยู่แล้ว"พ.ต.อ.รวมนคร กล่าว
หากบริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ก็จะทำให้ผลประกอบการในปี 2550 มีโอกาสพลิกเป็นกำไร จากปีนี้ที่คาดว่ายังขาดทุนอยู่ ถึงแม้บริษัทได้จะลดต้นทุนด้วยการขายบริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ พับลิชชิ่ง จำกัด 9.5 ล้านบาทให้กับนายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย อดีตผู้บริหาร TRAF แล้วก็ตาม โดยจะมีการชำระราคาหุ้นในเดือนตุลาคมนี้
ขณะที่ บริษัท ดรีมมีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ และทันหุ้นนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาจะประกาศขาย"ทันหุ้น"เพราะมองว่าบริษัทไม่มีความชำนาญด้านธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งเชื่อว่าจะมีนายทุนสนใจเข้ามาซื้อ โดยเงินที่ได้จากการขาย"ทันหุ้น"จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนบริษัท
พ.ต.อ.รวมนครกล่าวว่าการปรับแผนธุรกิจด้วยการขายธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ออกไป จะทำให้ในปีหน้าบริษัทจะเน้นธุรกิจโทรทัศน์และวิทยุมากขึ้น รวมถึงหาธุรกิจใหม่เข้ามาเสริม โดยขณะนี้สนใจธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ อนิเมชั่น เป็นต้น เพราะมองว่ามีต้นทุนที่ต่ำแต่ให้กำไรสูง โดยจะดึงบริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าวมาเป็นพันธมิตร
สำหรับ สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีหน้าจะมาจากธุรกิจโทรทัศน์และวิทยุ 50% และ 25% มาจากเอ็นเตอร์เทนเมนต์และอื่นๆ ส่วนที่เหลือ 25% มาจากธุรกิจใหม่ ขณะที่ปีนี้โครงสร้างรายได้ สัดส่วน 40% มาจากโทรทัศน์ , สื่อสิ่งพิมพ์ 40% และที่เหลือ 20% จะมาจากวิทยุ
นอกจากนี้บริษัทมีแผนเพิ่มรายได้จากธุรกิจวิทยุในปีหน้า โดยจะเพิ่มคลื่นวิทยุที่เน้นทำรูปแบบรายการแตกต่างจากรายอื่นๆ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|