|

ซัมซุง cross promotionขยายดีมานด์ ตีกันคู่แข่ง
ผู้จัดการรายวัน(23 ตุลาคม 2549)
กลับสู่หน้าหลัก
ซัมซุงทุ่ม 50 ล้านบาท จัด 11 Days Special กระตุ้นยอดขายช่วงโลว์ซีซัน งัดแพ็กเกจพิเศษซื้อสินค้าครบ 4 กลุ่ม เอวี เอชเอ ไอที มือถือ รับส่วนลดเงินสดสูงสุด 40% หวังเพิ่มสัดส่วนเฮาส์โฮลด์แชร์ สกัดคู่แข่งขยายฐาน
Digital Convergence ถือเป็นพันธกิจที่ซัมซุงประกาศในปี 2000 มาจนทุกวันนี้การเชื่อมต่อทางเทคโนโลยีหรือดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ก็ยังไม่เกิดเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนหนึ่งเกิดจากโครงสร้างพื้นฐานของบ้านเรายังก้าวไปไม่ถึงโลกแห่งบรอดแบนด์ทำให้สินค้าในกลุ่มเอชเอหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบไอทีเพื่อสั่งการหรือสื่อสารได้ นอกจากนี้ดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ยังทำให้ผู้บริโภคใช้สินค้าของซัมซุงแบบยกชุดเพื่อให้การเชื่อมต่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการตีกันคู่แข่งในอีกทางหนึ่ง แต่เมื่อปัจจุบันยังก้าวไปไม่ถึงจุดดังกล่าว ซัมซุงจึงพยายามหาแคมเปญที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้สินค้าของซัมซุงในครัวเรือนให้มากขึ้น (Household Share)
ซัมซุงใช้งบ 50 ล้านบาทในการทำแคมเปญ 11 Days Special ในช่วง 10 วันคือระหว่าง 21-31 ตุลาคมนี้เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโลว์ซีซันซึ่งปกติจะกินระยะเวลาตั้งแต่ตุลาคมไปถึงต้นเดือนธันวาคม ในขณะที่หลายแบรนด์จะรอทำโปรโมชั่นในช่วงฤดูขายหรือประมาณธันวาคมไปถึงกุมภาพันธ์ นอกจากความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาแล้ว ยังมีความพิเศษในเรื่องของโปรโมชั่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆที่ทำเพียงแค่ลดแลกแจกแถม แต่ซัมซุงจะมีการนำสินค้าทั้ง 4 กลุ่มไม่ว่าจะเป็นหมวดภาพและเสียง (เอวี) เครื่องไฟฟ้าในครัวเรือน (เอชเอ) โทรศัพท์มือถือ และไอที มาทำโปรโมชั่นร่วมกันเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ความหลากหลายของสินค้าซัมซุง รวมถึงเพิ่มโอกาสในการสร้างตลาดให้กับสินค้าแต่ละกลุ่มที่มีการทำโปรโมชั่นร่วมกัน โดยแบ่งเป็น 3 แพกเกจ
Mix & Match เป็นแพกเกจใหญ่โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าของซัมซุง 3 หมวด ในราคารวม 50,000 บาทขึ้นไปจะได้รับส่วนลดเงิดสด 20-30% ส่วนลูกค้าที่ซื้อครบ 4 หมวดจะได้รับส่วนลดเงินสด 25-40% แต่ลูกค้าจะได้รับส่วนลดเงินสดหลังจากซื้อสินค้าไปแล้วโดยส่งเอกสารการซื้อและสมุดบัญชีกลับมาที่ซัมซุงเพื่อที่จะคืนเงินเข้าบัญชีใน 30 วัน ทั้งนี้เพื่อให้บัญชีการซื้อขายของผู้ค้าเป็นปกติ เพราะถ้าคืนส่วนลดเงินสดให้ทันทีจะทำให้บัญชีของผู้ค้ามีตัวเลขที่ต่ำ ดังนั้นซัมซุงจึงเลือกที่จะให้ผู้บริโภคจ่ายเต็มไปก่อนแล้วรับส่วนลดเงินสดทีหลังโดยซัมซุงเป็นผู้ซัปพอร์ตส่วนลดดังกล่าวภายใต้งบ 40 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี Mix & Match ถือเป็นแพกเกจใหญ่ที่ไม่ใช่ทุกคนจะซื้อได้ ดังนั้นซัมซุงจึงทำแพกเกจรองรับตลาดที่ต้องการสินค้า 1-2 ชิ้นด้วย เช่นแพกเกจพรีเมี่ยมที่เป็นการจับคู่สินค้า 2 ชิ้นโดยให้ส่วนลดตั้งแต่ 16-33% ส่วนแพกเกจ Thank you Offer เป็นการขายสินค้าชิ้นเดียวในราคาพิเศษพร้อมของกำนัลโดยมีส่วนลดตั้งแต่ 8-30%
ซัมซุงเชื่อว่าปัจจัยลบต่างๆที่เกิดอยู่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ หรือปัญหาน้ำท่วมจะไม่กระทบกับการทำแคมเปญดังกล่าวเพราะเป้าหมายหลักคือการสื่อสารไปสู่กลุ่ม High Life Seeker ซึ่งมีรสนิยมในการบริโภคสินค้าเทคโนโลยีและถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อที่ดี นอกจากนี้การเกิดน้ำท่วมทำให้สินค้าได้รับความเสียหาย ดังนั้นภายหลังน้ำลดก็จะมีการซื้อสินค้าใหม่ทดแทนของเก่าที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และการที่ซัมซุงมีการทำโปรโมชั่นก่อนคู่แข่งถือเป็นชิงตลาดได้ก่อนและถ้าประสบความสำเร็จ หมายถึงความยากลำบากของคู่แข่งที่จะทำโปรโมชั่นตามหลังเพราะลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้วก็จะไม่ซื้อซ้ำในเวลาอันสั้นนี้ เว้นเสียแต่สาวกแบรนด์ค่ายอื่นๆอย่างโซนี่ซึ่งจะมีการจัดโปรโมชั่นโซนี่เดย์ทุกๆปลายปีก็จะมีขาประจำที่รอซื้ออยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีโปรโมชั่นของช่องทางจำหน่ายต่างๆเช่นเพาเวอร์บายซึ่งมีทั้งงานเอ็กซ์โปใหญ่และแคมเปญย่อยตลอดทั้งปี ล่าสุดมีการจัดงาน Hi Technology ภายใต้คอนเซ็ปต์ "สินค้าไฮเทค เก๋ๆ เดิร์นๆ ในราคาเบาๆ" อีกทั้งยังมีการทำโรดโชว์ของแบรนด์ต่างๆในช่วงปลายปีซึ่งจะมีการทำโปรโมชั่นพิเศษ บางส่วนเป็นการแนะนำสินค้าใหม่สำหรับปีหน้า บางส่วนก็เป็นการล้างสต๊อกสินค้าเก่าที่กำลังจะตกรุ่น
"11 Days Special มีวัตถุประสงค์ที่จะสะท้อนความเป็น Total Solution Provider ที่มีสินค้าเทคโนโลยีครบทุกหมวด โดยมีแพกเกจโปรโมชั่นที่หลากหลายเพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกให้เหมาะกับตัวเองและเป็นการสร้างประสบการณ์ในการใช้สินค้าซัมซุงให้กับผู้บริโภค ซึ่งถือเป็นการเพิ่ม Household Share นอกจากนี้ยังเป็นการปูทางไปสู่ความเป็นไอคอนแบรนด์ของโลกแห่งดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์" อาณัติ จ่างตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าว
ปัจจุบันซัมซุงประเมินว่าผู้บริโภคไทยในแต่ละครัวเรือนมีการใช้สินค้าของซัมซุง 10% ซึ่งซัมซุงคาดหวังว่าสัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็น 15-20% ในปีถัดไปและค่อยๆเพิ่มขึ้นในแต่ละปี ทั้งนี้ อาณัติ จ่างตระกูล ให้ทัศนะว่าเฮาส์โฮลด์แชร์เป็นสิ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญมากกว่ามาร์เก็ตแชร์หรือส่วนแบ่งการตลาด เนื่องจากปัจจุบันซัมซุงมีส่วนแบ่งติด 3 อันดับแรกของแต่ละตลาดอยู่แล้ว ดังนั้นบริษัทจึงตั้งเป้าที่จะทำให้แต่ละครัวเรือนมีการใช้สินค้าของซัมซุงมากขึ้น โดยแคมเปญ 11 Days Special ถือเป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างชัดเจนก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ยุคของดิจิตอลคอนเวอร์เจนซ์ในอนาคต อย่างไรก็ดีก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยมีการทำ Cross Selling ด้วยการทำ CRM กับฐานลูกค้าเก่าโดยการยื่นข้อเสนอพิเศษให้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวกลับมาซื้อสินค้ากลุ่มอื่นๆของซัมซุงในราคาพิเศษ
ทั้งนี้ซัมซุงคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ยอดขายของซัมซุงในช่วงเดือนตุลาคมมีการเติบโต 50% ในขณะที่ยอดขายทั้งปีตั้งเป้าว่ากลุ่มเอวีรวมกับเอชเอจะมียอดขายทั้งสินค้า 8,000 ล้านบาท โตขึ้น 20% แบ่งเป็นเอวี 60% เอชเอ 40% ส่วนสินค้าในกลุ่มโทรศัพท์มือถือคาดว่าจะมียอดขาย 8,000 ล้านบาท เติบโต 25% ส่วนสินค้ากลุ่มไอทีที่มีปริ้นเตอร์และมอนิเตอร์เป็นสินค้าหลักน่าจะปิดยอดขายได้ 3,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 25%
กลับสู่หน้าหลัก
 ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|