ชี้ภาษีสรรพสามิตทำตั๋วหนังแพงขึ้น อีจีวีเปิดตัวโรงหนังไดรฟ์-อินคาเฟ่


ผู้จัดการรายวัน(24 มกราคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

"อีจีว" ชี้ชัดภาษีสรรพสามิต 20% ส่งผลกระทบราคาหนังแพงขึ้น ผู้บริโภคไม่มีทางเลือก ยันโรงหนังไม่ใช่เป็นแค่บันเทิง หากเก็บภาษีจริงส่งผลเทปผี ซีดีเถื่อนโตอีกระลอก จากราคาต่ำกว่า ล่าสุดเปิดตัว"อีจีวี ไดรฟ์-อิน คาเฟ" แห่งแรกในไทย ด้วยบรรยากาศเก้าอี้รถยนต์ส่วนตัวที่ซีคอนสแควร์ ลงทุนปรับโรงเก่า 15 ล้านบาท ขายตั๋ว 250 บาทพร้อมอาหาร

นายวิชัย พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการและประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดจะเก็บภาษีสรรพสามิต 20% ซึ่งโรงหนังถูกจัดอยู่ในหมวดบันเทิงและหย่อนใจ ถือเป็นหนึ่งในหลายธุรกิจที่จะถูกเรียกเก็บด้วยนั้น ในส่วนตัวคิดว่าหากนำมาใช้จริงจะส่งผลต่อธุรกิจโรงหนัง เพราะจะทำให้ต้นทุนตั๋วสูงขึ้น จากเดิมที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว 7% และเมื่อมาเจอภาษีสรรพสามิตอีก 20% เท่ากับจะต้องจ่ายเพิ่มรวมเป็น 27% เป็นอย่างต่ำ

ผลกระทบดังกล่าวทำให้ราคาตั๋วต้องเพิ่มขึ้น 27% หรือคิดเป็น 27 บาท จากฐานราคาตั๋วเดิมเฉลี่ยที่ 100 บาท ซึ่งจริงๆ แล้วธุรกิจโรงหนังเป็นธุรกิจบันเทิง ผสมผสานกับการศึกษาที่เรียกว่า เอ็ดดูเทนเมนท์ ซึ่งไม่ใช่เป็นความบันเทิงอย่างเดียว อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่อวงการโดยรวมด้วย และจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัญหาเทปผี ซีดีเถื่อนเติบโตขึ้นมาอีก เพราะคนจนจะหันไปบริโภคสิ่ง ดังกล่าวด้วยราคาต่ำกว่า การตัดสินใจมาดูหนังที่โรงหนังจะ ยากขึ้นกว่าเดิมเพราะราคาที่สูงขึ้น

"เวลานี้ยังไม่ได้ประกาศใช้ภาษีสรรพสามิตใหม่ เป็นเพียงแนวคิดของรัฐบาลเท่านั้นจึงยังไม่อยากไปตื่นกลัวอะไรมาก แต่ถ้าหากจะนำมาใช้จริงในฐานะเป็นผู้ประกอบการคงจะต้องรวมตัวกันทำเรื่องร้องเรียนหรือชี้แจงผลกระทบและข้อมูลต่างๆ ให้ภาครัฐได้ทราบว่าโรงหนังไม่ใช่สถานบันเทิงเหมือนกับสถานประกอบการบันเทิงอื่นŽ

นายวิชัยกล่าวต่อถึงแผน การดำเนินธุรกิจว่าในปีนี้เป็นปีที่ 10 ของอีจีวี จึงมีแผนที่จะปรับปรุงและนำบริการใหม่ๆ สู่ตลาดรวมทั้งแผนการบุกตลาดเดิมทีด้วยงบตลาด 100 ล้านบาท ซึ่งแยกจากงบลงทุนปรับปรุงและเปิดโรงใหม่ที่มากกว่า 200 ล้านบาท

กลยุทธ์ใหม่ที่นำเสนอวงการคือ โรงหนังอีจีวี ไดรฟ์-อิน คาเฟ่ ซึ่งรูปแบบนี้ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เป็นสาขาแรกที่ซีคอนสแควร์ด้วยการปรับโรงมาตรฐานเดิม 1 โรงขนาด 350 ที่นั่ง ปรับมาเป็นที่นั่งแบบรถยนต์จำลองสองรุ่นยอดนิยม ในยุค 50 คือ บีเอ็มดับบลิว 507 รุ่นปี 1956-1959 กับไครสเลอร์รุ่น นิวยอร์กเกอร์ จำนวน 16 คัน รวม 48 ที่นั่ง ซึ่งบรรยากาศภายในเป็น การจำลองรูปแบบไดรฟ์-อินแบบ
เอาท์ดอร์ในต่างประเทศ แต่อีจีวีทำเป็นอินดอร์แห่งแรกในไทย

อีจีวี ไดรฟ์-อิน คาเฟ่นี้ จะฉายหนังทุกชั่วโมง รอบละ 45 นาที ฉายหนังพิเศษไม่ใช่หนังฮอลลีวูดทั่วไป ราคา 250 บาทต่อที่นั่ง ซึ่งรวมอาหารด้วยกำหนดฉาย 4 เรื่องต่อวัน ถ้าเหมาโรงจัดงานคิดราคาประมาณ 14,000 บาทต่อชั่วโมง คาดจะทำรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทในปีแรก โดยจะลงทุน ปรับปรุง 15 ล้านบาท และมีแผน ที่จะขยายต่อไปที่สาขาฟิวเจอร์ พาร์ครังสิตอีก 1 โรงแต่คงไม่สามารถทำได้ทุกสาขาขึ้นอยู่กับทำเลและพื้นที่ ซึ่งสาเหตุที่เลือกทำที่ซีคอนฯกับฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเพราะเป็นศูนย์กลางการค้าขนาดใหญ่ และอีจีวีมี 14 โรงในแต่ละแห่ง และเป็นสองสาขาที่ทำรายได้สูงสุดของบริษัทด้วย

นอกนั้น ยังปรับปรุงสาขาเก่าให้มีโรงโกลด์คลาส คือ สาขาปิ่นเกล้า แฟชั่นไอส์แลนด์ ฟิวเจอร์ พาร์ครังสิต เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ ให้ผู้บริโภค โดยวางเป้าหมายจะปรับทุกสาขาให้เป็นโรงภาพยนตร์โกลด์คลาสทุกสาขา และคาดว่าภายในปีนี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 2-3 แห่ง ที่ชัดเจนแล้ว คือ สาขา บิ๊กซีราชดำริ ลงทุน 800 ล้านบาท พื้นที่ 20,000 ตารางเมตร

อีจีวีคาดว่าในปีนี้จะทำรายได้ 1,100 ล้านบาท เติบโต 5% ครึ่งปีงบประมาณที่ผ่านมานี้ทำได้แล้ว 500-600 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากการขายตั๋ว 75% และธุรกิจอื่น 15% เช่น เครื่องดื่ม อาหาร สื่อโฆษณา และการจัดงาน ปัจจุบันอีจีวีมีโรงหนังเปิดบริการ 10 สาขา จำนวน 85 โรง รวม 21,000 ที่นั่ง ส่วนแบ่งตลาด 30%



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.